หากได้ยินชื่อเสียงของเกม NieR ก็จะรู้ว่าตัวเกมนั้นมีความซับซ้อนและเสน่ห์ของเนื้อหาที่ชวนน่าติดตาม แถมการดำเนินเรื่องนั้นก็สุดแสนจะคัลท์ตามนิสัยของ Yoko Taro ผู้กำกับเกมนี้ อีกทั้งตัวเกมยังเป็นที่รู้จักในฐานะเกมที่มีเพลงประกอบอันยอดเยี่ยม ซึ่งประจักษ์สายตาให้ชาวโลกเห็นแล้วใน NieR Automata และครั้งนี้ Square Enix ได้สานต่อซีรี่ส์ NieR ที่ครั้งนี้ไม่ได้เล่าเรื่องใหม่ แต่เป็นการปรับปรุงพัฒนาภาคเก่าที่เคยมีอยู่แล้วใน PlayStation 3 กับภาค Replicant ที่มีเวอร์ชั่นพ่วงท้ายคือ 1.22474487139…
เนื้อเรื่องย่อ
เมื่อโลกเกิดเหตุการณ์หายนะครั้งใหญ่ โรคระบาดที่แพร่กระจายอย่างหนัก จนเกิดความเสียหายและกำลังล่มสลาย สองพี่น้อง NieR และ Yonah รอดชีวิตจากวิกฤติในครั้งนั้นได้ 1,000 ปี ต่อมา โลกก็เริ่มเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู NieR ได้พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือน้องสาวที่ป่วยเป็นโรค Black Scrawl เขาได้พบกับ หนังสือ Grimore Weiss หนังสือพูดได้ที่มีพลังงานเวทมนตร์ซ่อนอยู่ ทำให้ NieR ได้เข้าสู่เรื่องราวอันตื่นเต้นที่จะเปลี่ยนแปลงโลกนี้ไปตลอดกาล
เกมเพลย์
หากเคยเล่นเกมนี้ในเวอร์ชั่น PlayStation 3 อย่างไร เวอร์ชั่นนี้ก็ไม่ต่างกัน กับแนวเกมหลักที่เป็น RPG และใส่ความเป็น Action Hack & Slash เข้าไปเพิ่ม ทำให้ตัวเกมนี้มีความมันส์สะใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ระบบของเกมมีในเรื่องของการสำรวจ และการพบปะกับเหล่า NPC ขอย้ำว่าตัวเกมนั้นมีแนวหลักเป็น RPG ดังนั้นภายในเกมจะมีระบบเควสต่างๆ รวมไปถึงระบบเลเวล ที่จะช่วยในเรื่องการปลดล็อกทักษะและความสามารถต่างๆ ของตัวละครออกมาอีกด้วย
แม้ว่าเนื้อหาของเกมนั้นจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรจากเวอร์ชั่น PlayStation 3 มากมายเท่าไหร่ แต่เสน่ห์ในการเล่าเรื่องของเกมนี้ ยังคงให้อารมณ์ได้หลากหลาย โดยเฉพาะการรีดเค้นความรู้สึกที่ส่งอารมณ์ให้กับคนเล่นอย่างถึงพริกถึงขิง อีกทั้งมีช่วงขบคิดต่างๆ ในแง่มุมและเหตุผลของตัวละคร ทำให้เราสามารถอินและสนุกกับเกมนี้ได้อย่างเต็มอรรถรส ถ้าโดยส่วนตัวของผมเองแม้ไม่เคยติดตามซีรี่ส์ NieR มาก่อน แต่ก็รู้สึกถึงการถ่ายทอดเนื้อเรื่องของเกมนี้ได้ระดับนึง ดังนั้นเห็นได้ว่ากระบวนการทำเกมดีๆ สักเกมนึง ถ้าเกมเพลย์ไม่โดดเด่น แต่เนื้อหาเข้าถึง ก็สามารถเป็นเกมที่ดีได้ ดั่งที่ NieR Replicant ทำออกมาให้เห็นเป็นตัวอย่าง
กราฟฟิก
ถ้าหากเห็นกราฟฟิกในเวอร์ชั่น PlayStation 3 เมื่อสิบกว่าปีก่อน จะเห็นว่ามีคุณภาพระดับเครื่องเกมยุคนั้นที่ถือว่าสวยใช้ได้อยู่ แต่พอมาเป็นเวอร์ชั่นของ PlayStation 4 ตัวเกมมีการปรับดีเทล รายละเอียด CG ของเกมให้มีความละมุนและงดงามกว่าเดิม ทำให้เกมนี้สมกับเป็นเกมยุคใหม่ขึ้นมาบ้าง ด้านของเฟรมเรตจากที่ทดสอบบนเครื่อง PlayStation 4 Slim นั้นเฟรมถือว่าลื่นในระดับประมาณ 40 Fps ถือว่าพอรับได้สำหรับตัวเกมที่มีการพัฒนามาจากแพลทฟอร์มเจนเก่า และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ เพลงประกอบของเกมนี้ ที่ Epic และเล่นใหญ่แทบทุกช็อต เรียกอารมณ์ได้ทุกซีน ฟังแล้วเพลินมากๆ แถมมีการเรียบเรียงทำนองออกมาได้ไพเราะสุดๆ ซึ่งตรงนี้ยืนยันว่า NieR แทบทุกซีรี่ส์นั้น มีดีที่เพลงอย่างที่เขากล่าวมาจริงๆ
จุดสังเกต
แม้ว่าตัวเกมนั้นจะเป็นการอัพเกรดจากเวอร์ชั่นของ PlayStation 3 แต่รูปแบบเกมเพลย์นั้นยังคงเป็นสไตล์เก่า ที่ไม่มีการพัฒนาขึ้นมาจากเดิมมากเท่าไหร่ แถมระบบของเกมแนวหลักอย่าง RPG นั้นก็ไม่ได้มีความลึกเหมือนกับเกม RPG อื่นๆ ทั้งระบบเลเวล ระบบอาวุธ หรือแม้กระทั่งการจัดการเวทย์มนต์ อีกทั้งโหมดของเกมนั้น ยังขาดความท้าทายเป็นอย่างมาก ในความคิดเห็นส่วนตัวผมเองไม่ใช่แฟนเกม NieR หรือเป็นคนที่สัมผัสซีรี่ส์ NieR ไม่เยอะมากอาจจะรู้สึกน่าเบื่อหรือชวนง่วงในบางจุด ซึ่งตรงนี้ก็ไม่แนะนำสักเท่าไหร่
สรุป
แม้ว่ามันจะเป็นการอัพเกรดอย่างที่ผู้พัฒนากล่าวอ้างมา แต่สำหรับโดยส่วนตัวแล้ว NieR Replicant นั้นมีของดีที่แทบไม่ต้องอัพเกรดเพิ่มเติมอะไรเลย โดยเฉพาะเนื้อเรื่องที่สื่ออารมณ์ผู้เล่นได้อย่างดี เพลงประกอบสุดอลังการที่ฟังกี่ครั้งก็ขนลุก สำหรับเวอร์ชั่นเลขยาวๆ นี้ การปรับแต่ง CG กราฟฟิกให้ดูเนียนและสวยยิ่งขึ้น พร้อมเฟรมเรตที่ลื่นนิ่งกว่าแพลทฟอร์มก่อน ก็ถือว่าทำให้เกมนี้นั้นมีความลงตัวและยอดเยี่ยมขึ้นมาได้อย่างชัดเจนแล้ว ดังนั้น NieR Replicant คือการอัพเกรดขั้นสูงแต่ไม่สูงสุด ที่เหล่าเกมเมอร์สนุกกับมันได้