สวัสดีค่า เหล่าพ้องเพื่อนชาว PlayUlti ทั้งหลาย ทามาโมะจังเองค่า ในวันนี้เราจะขอพูดถึงประเด็นที่อยากหยิบยกมาเล่าให้ฟังกันตั้งนานแล้วล่ะ โดยปัจจุบันกระแสของเกมอินดี้นับวันยิ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายกว่าเดิมมากมายหลายเท่าตัว แถมมาพร้อมกับผู้จัดจำหน่ายดิจิตอลที่ช่วยหนุนทีมผู้พัฒนาเกมอินดี้หน้าใหม่เลยทีเดียว อาทิ Steam, GOG, Discord และ Epic Games Store ถึงกระนั้นก็ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่าจะประสบความสำเร็จจากการสร้างยอดขาย [แม้ผลงานจะทำออกมาดีแค่ไหนก็ตาม] ยิ่งไปกว่านั้นมีเรื่องของส่วนแบ่งกำไรที่แต่ละแพลตฟอร์มต่างก็มีนโยบายแตกต่างกัน ในขณะนี้จึงเกิดศึกสงครามการค้าขายเพื่อดึงดูทีมผู้พัฒนาเกมอินดี้อีกด้วย
แต่ทว่าภายใต้สงครามเดือดอันร้อนระอุนี้ กลับมีแพลตฟอร์มหนึ่งที่คงอยู่ท่ามกลางสงครามตลาดเกมอินดี้ด้วยอาการไม่รู้ร้อนรู้หนาว มิหนำซ้ำพอทีมผู้พัฒนานำเหล่าบรรดาเกมอินดี้ทั้งหลายมาลงให้กับแพลตฟอร์มดังกล่าว ผลปรากฎว่าทำยอดขายได้สูงสุดชนิดที่ว่าทิ้งห่างคู่แข่งจนสามารถกอบโกยรายได้อย่างมหาศาลอีกด้วย ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่อยู่ใกล้ตัวเรามาตลอด นั้นก็คือ Nintendo Switch นั่งเองจ้า ดังนั้นแล้วเรามาไขปริศนาดังกล่าวให้กระจ่างกันไปเลยดีกว่า
"เกมอินดี้" คืออะไร???
ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่าเกมอินดี้เป็นแบบไหน เอาจริงๆ เกมอินดี้นั้นไม่มีความหมายที่แน่นอน ทามาโมะจังจึงขอโดยรวมสรุปได้ใจความออกเป็น 2 มุมมอง เริ่มจากมุมมองการนำเสนอก่อนแล้วกัน ถือเป็นอะไรที่เห็นชัดเจนได้ทันทีว่าเกมที่อยู่ตรงหน้าคือ "เกมอินดี้" เพราะส่วนใหญ่มักถูกนำเสนอด้วยระบบเกมเพลย์ที่แหวกแนว, การนำเสนอเนื้อหาแปลกใหม่, กราฟิกและเพลงประกอบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะทำให้ตัวเกมโดดเด่นไม่เหมือนชาวบ้านทั่วไป เรียกได้ว่าไม่มีคำอธิบายใดๆ ต้องมาจำกัดให้มากความ
ต่อไปมาดูมุมมองทางด้านธุรกิจกันดีกว่า มันจะต้องเป็นเกมที่พัฒนาโดยทีมผู้พัฒนาเล็กๆ (ไม่เกิน 200 คนโดยประมาณ) และจัดจำหน่ายเองโดยไม่พึ่งผู้จัดจำหน่ายออกเงินทุนใดๆ ทั้งสิ้น แต่พอมาถึงตรงนี้ก็จะมีบางคนแย้งว่าแบบนี้เกมอย่าง Journey, Unravel และ No Man's Sky ก็ไม่สามารถเป็นเกมอินดี้ได้แม้ทุกคนจะเรียกมันว่า "เกมอินดี้" ก็ตาม
ดังนั้นเราเลยเพิ่มอีกหนึ่งเงื่อนไขเพิ่มเข้ามาคือ 'งบประมาณพัฒนาเกมไม่เกิน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ' ถึงแม้จะได้ทุนสนับสนุนจากผู้จัดจำหน่ายเกมรายใหญ่อย่าง Sony หรือ EA แต่ถ้าใช้งบประมาณพัฒนาไม่เกินค่าเงินที่ได้กล่าวไว้ก็สามารถเรียกได้เต็มปากว่ามันคือ "เกมอินดี้" ในรูปแบบคุณภาพสูง [เกมระดับ AA] ถ้าเกินมากกว่านั้นก็จะเข้าสู่สถานะเกมระดับ AAA ทันทีจ้า
วิสัยทัศน์ของ Nintendo ที่มีมาช้านานเอื้ออำนวยต่อเกมอินดี้โดยเฉพาะ
สิ่งแรกที่เราต้องเข้าใจก่อนเลยก็คือ Nintendo มีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาเกมให้เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย เอาใจทั้งเกมเมอร์สายแคชชวลและฮาร์ดคอร์ ตามคอนเซ็ปต์ของพวกเขาที่ให้ความสำคัญ “เนื้อเรื่อง, เกมเพลย์ และคุณภาพโดยรวม” เป็นอันดับแรกอยู่เสมอ โดยไม่เน้นการนำเสนอกราฟิกมากนัก ถึงแม้ส่วนใหญ่จะออกไปทางแนวการ์ตูน แต่ก็ดูไม่เด็กจ๋าจนเกินไป จนโดดเด่นจนเป็นที่รู้จัก และที่สำคัญเลยก็คือ ระบบการเล่นที่ออกแบบมาให้เล่นสนุก + เข้าใจง่ายทันที ทว่ากลับซ่อนเร้นไปด้วยความยาก, ความท้าทาย และแฝงรายละเอียดเชิงลึกที่เกมฟอร์มยักษ์เทียบไม่ติดอีกด้วย
ซึ่งด้วยวิสัยทัศน์ของ Nintendo สามารถตอบโจทย์เหล่าบรรดาเกมอินดี้ที่ชูโรงในเรื่องของ 'รูปแบบการนำเสนอ' และ ‘ไอเดียแปลกใหม่’ ได้อย่างลงตัว จึงไม่แปลกที่ทีมผู้พัฒนาจะตัดสินใจนำมาลงยังแพลต์ฟอร์ม Nintendo Switch และก็เป็นไปตามดังที่คาดเอาไว้ ผลพวงจากการสั่งสมบ่มเพาะวัฒนธรรมมาเป็นเวลานานนับปี ทำให้เหล่าสาวก Nintendo พร้อมเปย์เทหมดหน้าตัก เพื่อสนุกไปกับเกมอินดี้เหล่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Nintendo Switch เป็นเครื่องเกมที่สามารถพกพาไปได้ทุกที่ เล่นเกมได้แทบทุกเวลา ยิ่งเสริมแรงจูงใจในการซื้อไปเล่นด้วยนะคะ
Nintendo ต่างให้การสนับสนุนเกมอินดี้มากที่สุดในบรรดาตลาดเกมทั้งหมด
ตรงตามหัวข้อเลยล่ะ หากเกมอินดี้เกมไหนมันเทพจริงๆ หรือดึงดูดผู้เล่นมากๆ Nintendo ก็พร้อมที่จะโปรโมตให้ทันที แถมบางที่อาจถูกถ่ายทอดสดผ่านทาง Nintendo Direct อีกด้วยนะคะ เรียกว่าเฮียแกยอมทำการตลาดให้โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีเงื่อนไขมากนัก ยิ่งไปกว่านักยังจัดตั้งโครงการสนับสนุนนำเหล่าบรรดาเกมอินดี้ทั้งหลายมาไลฟ์สตรีม (Live Stream) เพื่อเปิดตัวแบบพิเศษโดยเฉพาะ อาทิ Indie Highlight, Indie World และ Nindies Showcase เป็นต้น
แถมรู้หรือไม่ว่าสาวก Nintendo พลังเกมเมอร์สายเปย์หนักมากๆ ในบรรดาตลาดเกมทั้งหมด เพราะหากเหล่าสาวกเห็นว่าเกมมันดีจริงๆ ก็ไม่รีรอที่จะซื้อมาเล่นโดยไม่ต้องรอลดราคาเลยล่ะคะ รวมไปถึงตัวเครื่อง Nintendo Switch ได้ยกเลิกการล็อกโซนอันเป็นปัญหามาแต่ช้านานไปแล้ว ทำให้เกมเมอร์สามารถเข้าไปซื้อเกมผ่านหน้าร้านค้า Nintendo eShop ในราคาถูกๆ ด้วยนะจ๊ะ [เหมือนกับ Steam, CD-Key และอื่นๆ อีกมากมาย สามารถมุดโซนประเทศอื่นเข้าไปซื้อแบบไม่ผิดกฎหมาย]
ดังนั้นแล้วเราจึงเห็นได้เลยว่า Nintendo คือคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดในบรรดาตลาดเกมอินดี้ จนทำเอาการประชันศึกระหว่าง Steam และ Epic Games Store ดูเล็กกระจ๋อยร่อยเลยทีเดียว แถมผลลัพธ์มันก็เห็นๆ กันอยู่ ไม่ว่าจะทั้ง Bloodstained: Curse of the Moon, Hollow Knight, Celeste, Dead Cells, Shovel Knight, Monster Boy and the Cursed Kingdom และอื่นๆ อีกมากมาย ล้วนยอดขายสูงลิ่วกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ จึงแสดงให้เห็นชัดว่า Nintendo Switch เอื้ออำนวยต่อทีมผู้พัฒนาและตลาดเกมอินดี้เป็นอย่างมากเลยล่ะคะ