ผ่านเวลาไปไม่นานก็ใกล้จบหมดปี 2016 เสียแล้ว คอเกมหลายคนคงฟินนาเล่กับปีนี้เป็นอย่างมาก หลายๆ เกมที่เรารอกันมาร่วม 10 ปีก็พัฒนาเสร็จสิ้นให้เราได้เล่นกันสบายใจเฉิบ แต่ทว่าในเมื่อมีสิ่งดีๆ สิ่งแย่ๆ ก็มีเช่นกัน เกมดังหลายเกมในปีนี้ที่เราคาดหวังไว้สูงลิบก็ดันออกมาแย่ซะยิ่งกว่า เอาเป็นว่ามีดูกันเลยดีกว่าว่าในปี 2016 นี้มีเกมใดบ้างที่ฟอร์มดี๊ดีแต่ท้ายที่สุดพอเกมออกดันแป้กไม่เป็นท่า เรามาเริ่มกันเลย
The Walking Dead: Michonne
Developer: Telltale Games
Genre: Action, Adventure, Story Rich
Release Date: 24 กุมภาพันธ์ 2016
Platform: Xbox One, PlayStation 4, Xbox 360, PlayStation 3, PC, iOS, Android
Trailer: ที่นี่
หากจะพูดถึงซีรี่ย์เกมของ Telltale ขึ้นชื่อสุดๆก็คงหนีไม่พ้นซีรี่ย์ Walking Dead ที่ปังสุดๆตั้งแต่ภาคแรก แล้วยิ่งทวีความเทพในภาคที่สอง ด้วยเนื้อหาหนักหน่วง เส้นทางเลือกอันหลากหลาย พร้อมความหักมุมที่พร้อมจะออกมาได้ตลอดเวลายิ่งทำให้ Walking Dead: Michonne ยิ่งถูกคาดหวังในระดับเดียวกับซีรี่ย์หลักของ Telltale ด้วยการนำตัวละครจากภาคหลักของคอมมิคออกมาโลดแล่นในเกมที่จะเล่าเรื่องก่อนจะเจอกับพวก Rick และกราฟฟิคที่สวยขึ้นจาก 2 ภาคอย่างอย่างถนัดตา แต่ทว่ามันดันไม่ใช่อย่างที่คาดไว้ ตัวเกมมีเนื้อหาที่สั้นลงอย่างมากเมื่อเทียบกันกับ 2 ภาคแรก (5 EP เท่ากัน) ทางเลือกที่เป็นจุดเอกของเกมกลับน้อยลงเป็นเส้นตรง ความน่าตื่นเต้นความน่าติดตามความกดดันมันหายออกไป และสร้างตัวละคร Michonne ออกมากลายเป็นพวกมีความเครียด มีเบื้องหลัง มีฉาก Flashback อันน่ารำคาญแทบทุก 10 นาที มาพร้อมฉากแอคชั่นที่มากขึ้นทำให้ QTE เยอะจนน่าหงุดหงิดเช่นกัน กลายเป็นว่าเหมือน Telltale ลืมอัจลักษณ์ของตนเองไปแล้วว่าคนที่ติดตามซีรี่ย์นี้ติดตามเพราะเหตุใด เกมจึงออกมาแป้กอย่างไม่น่าเชื่อ น่าผิดหวังมากๆกับเกมซีรี่ย์นี้
Mirror Edge Catalyst
Developer: DICE
Genre: Action, Adventure, FPS
Release Date: 7 มิถุนายน 2016
Platform: Xbox One, PlayStation 4, PC
Trailer: ที่นี่
เกมอาหมวยปีนตึกในตำนานที่กลับมาครั้งนี้ไม่ใช่ภาค 2 แต่เป็นการรีบูทใหม่ไปเลย ด้วยกราฟฟิคกันก้าวกระโดดด้วยเทคโนโลยีเฉพาะ Frostbite Engine และด้วยความสำเร็จสุดๆของ Mirror Edge ปี 2008 ที่มาในแนว FPS แต่แทบไม่ได้ใช้ปืน การต่อสู้ของน้อง Faith มีอย่างเดียวคือวิ่ง! อิสระในการปีนป่ายทำให้เกมนี้เป็นหนึ่งในเกมที่ควรเล่นสักครั้ง แต่ทว่า Mirror Edge Catalyst เหมือนจะเดินทางผิด แม้ว่าโดยหลักแล้วจะอ้างอิงเนื้อเรื่องเดิมและการปีนป่ายรอบเมืองอย่างที่เคยทำ โดยคราวนี้ตัวละครของเราจะมีทักษะการต่อสู้เพิ่มมา (นิดหนึ่ง) ในการวิ่งเข้าใส่ศัตรูและต่อยตีแต่ไม่รู้ว่านักวิ่งระดับนี้เหตุใดหนอแรงและกำลังในการต่อยตีช่างอ่อนด้อยเสียจริง AI ภายในเกมก็ทำมาง่อยเปลี้ย ไร้ซึ่งความเป็นธรรมชาติเหมือนเซ็ตมาให้เสร็จๆ ไป สิ่งที่ดีที่สุดในเกมก็อาจจะเป็น Puzzle ที่ทำออกมาสนุกไม่น้อยแต่ความบีบครั้นและบรรยากาศที่เคยทำมาได้ดีในภาค Mirror Edge 2008 หายไปซะงั้น ส่วนเนื้อเรื่องก็ไร้ความดึงดูดให้กลับมาเล่นใหม่ เอาเป็นว่าใครอยากเล่น Mirror Edge ให้ไปเล่นภาคเก่านั้นจะเป็นการดีที่สุด
Battleborn
Developer: Gearbox Software
Genre: Action, FPS, MOBA
Release Date: 3 มีนาคม 2016
Platform: PlayStation 4, Xbox One, PC
Trailer: ที่นี่
เป็นตัวอย่างของเกมดีแต่ดันออกมาผิดที่ผิดเวลา สำหรับ Battleborn เป็นเกมแนว FPS, MOBA จากผู้สร้างเกมดังอย่าง Borderland ที่มุ่งเน้นการเล่นแบบเป็นทีม ตัวละครให้เลือกสูงสุดถึง 25 ตัว แบ่งสายตัวละครทั้งตัวบุก ตัวชน ตัวซับ แต่เอ๊ะ...มันเหมือนกับเกมใดนะ ใช่แล้ว Overwatch ด้วยสไตล์การเล่นที่คล้ายกัน ธีมเกมเดียวกัน แต่ดันออกมาชนกับเกมที่แฟนบอยหนุนหลังอย่าง Blizzard จึงไม่น่าแปลกใจที่ตัวเกมนั้นออกมาไม่นานเซิร์ฟเวอร์ก็แทบจะร้าง เป็นอีกเกมที่น่าเสียดายจริงๆ แม้ว่าเกมจะดีแต่มาผิดเวลาก็จบลงประการฉะนี้
Assassin's Creed Chronicle: Russia
Developer: Ubisoft
Genre: Action, 2D Side Scrolling
Release Date: 16 มกราคม 2016
Platform: PlayStation 4, Xbox One, PC, PS Vita
Trailer: ที่นี่
ซีรี่ย์ Assassin's Creed เกมซีรี่ย์ขายดีที่สุดของ Ubisoft โดยตัวเกมมีทั้งภาคหลักภาครองนับดูรวมๆ แล้วก็เป็น 10 เกม มีทั้งดีขึ้นหิ้งและห่วยขั้นสุดอยู่เช่นกัน สำหรับ Assassin's Creed Chronicle: Russia เป็นเกมที่มาในรูปแบบ 2D มุมมองด้านข้างแทบไม่เกี่ยวกับซีรี่ย์หลัก แต่มีตัวละครบางตัวโผล่มา ซึ่งนับเป็นซีรี่ย์เสริมหลังจาก Assassin's Creed Chronicle: China และ India ได้ประสบความสำเร็จในแบบ 2D มาก่อน Ubisoft อยากจะขยายจักรวาลกลุ่มนักฆ่าในหลายๆ ประเทศ ภาคนี้จึงตกไปอยู่ในรัสเซีย ปัญหาหลักๆ เลยก็คือความน่าติดตามของเนื้อเรื่อง ทั้งๆ ที่มีแง่มุมใหม่ในประเทศอื่นแท้ๆ แต่ความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นกลับไม่ดีเท่า 2 ภาคแรก วิธีการเล่นเหมือนเดิมเพิ่มอาวุธพิเศษไปอย่าง Sniper และหลังๆ แทนที่เกมจะทวีความยากขึ้นแต่กลับเหมือนเดิม มิชชั่นคล้ายเดิมจนน่าเบื่อ ยิ่งการมี Sniper ยิ่งทำให้เราทวีความเทพซ่าขึ้นไปอีกจนคาดความเป็น Assassin ไปเสียแล้ว
Homefront: The Revolution
Developer: Dambuster Studios
Genre: Action, FPS, Open-World
Release Date: 22 พฤศภาคม 2016
Platform: PlayStation 4, Xbox One, PC
Trailer: ที่นี่
บางครั้งความสำเร็จจากอดีตก็อาจไม่ช่วยอะไรเลย จากเกมม้ามืดเมื่อปี 2011 ที่กระแสแรงมากที่เรียกได้ว่าเหมือนจะได้ต้นแบบมาจาก Call of Duty ภาคเก่าๆ มาเลยด้วยซ้ำ ต่อมาในปี 2016 Homefront: The Revolution ก็ออกมาให้เล่นกันด้วยความคาดหวังว่ามันจะเป็นม้ามืดที่เบียดเกมดังอย่าง Call of Duty หรือ Battlefield อีกครั้งหนึ่งแต่ทว่ากลับกลายเป็นเหลวเป๋วซะงั้น ตัวเกมนั้นดัดแปลงเป็นกึ่ง Open-World ที่ดีขึ้น การเก็บเลเวลที่ดูดี แต่ทว่าเรื่องราวอันไม่ปะติดปะต่อ การแสดงออกถึงเนื้อเรื่องยัดเยียดศีลธรรมความดีที่ไม่ Make sense ยิ่งช่วงแรกที่เกมออกมาแถมแมลงจนน่าหงุดหงิด เดินติดขัด AI อันโง่เง่า เดินดุ่ยๆให้เขายิงทิ้ง หรือแม้กระทั่งบัค AI อมตะก็มี กลายเป็นเกมแป้กอีกเกมของปีนี้และไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาได้เลย
Mighty No. 9
Developer: Comcept ,Inti Creates
Genre: Action, Side Scrolling
Release Date: 22 มิถุนายน 2016
Platform: PlayStation 4, PlayStation 3,Playstation Vita, Xbox One,Xbox 360, PC,Nintendo 3DS
Trailer: ที่นี่
เกมที่วางโปรเจคบน Kickstarter ตั้งแต่ปี 2013 มาพร้อมความหวังที่ได้คุณ Keiji Inafune เจ้าพ่อผู้ออกแบบตัวละครดัง Rockman เพียงเวลาผ่านไปไม่นานยอดเงินที่ตั้งไว้ก็ผ่านฉลุย เพราะความเชื่อใจอันแรงกล้าของแฟนเกมทุกคน พร้อมหวังว่าเกมนี้จะตบหน้า Capcom ที่ไม่ยอมออกเกม Rockman ภาคใหม่ซะที แฟนคลับนั้นส่งทุนให้ถึง 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 140 ล้านบาท) แต่โปรเจคนี้กลับนานขึ้นทุกวัน เลื่อนแล้วเลื่อนอีก เลื่อนจนหลายคนแอบถอนการพรีออเดอร์ ท้ายที่สุดก็ออกมาในปี 2016 ที่ทุกคนที่รอร้องระงมออกมาเสียงเดียวกันว่าผิดหวัง เกมเพลย์นั้นออกมาค่อนข้างโอเค แต่ระบบสไลค์ (Dash) เพื่อเก็บสกิลนั้นทำออกมาไม่จำเป็นเท่าไหร่และออกแนวเสียเวลาอีกด้วย เสียงพากษ์ที่น่าง่วงนอน กราฟฟิกที่เหมือนไม่ใช่ Next-gen (ไม่รู้ว่าความล่าช้าและกราฟฟิกเก่าเพราะพอร์ตให้หลายเครื่องหรือเปล่า) แอฟเฟกสุดเฉิ่ม Cut-Scene ที่ไม่น่าติดตาม จนทำให้ความเชื่อมันใน Inafune แทบหมดสิ้นกันเลยทีเดียว
Alekhine’s Gun
Developer: Maximum Games
Genre: Action
Release Date: 22 มิถุนายน 2016
Platform: PlayStation 4, Xbox One, PC
Trailer: ที่นี่
สำหรับคอเกมลอบฆ่าหลายคนเชื่อเลยว่าต้องมียิ้มมุมปากแน่ๆ เมื่อเห็นชื่อเกมนี้ในลิสต์เกมแป้ก เนื้อเรื่องจะนำผู้เล่นเข้าสู่ยุคสงครามเย็น โดยแท้แล้วเกมนี้เป็นเกมลำดับต่อเนื่องของซีรี่ย์ Death to Spies ที่ภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงในการพัฒนาเปลี่ยนมือจากเดิมของ Haggard Games มาเป็น Maximum Games แน่นอนว่ามันต้องถูกคาดหวังเป็นธรรมดา เพราะเกมลอบฆ่าจะมีจุดเด่นในความหลากหลายในการกำจัดเป้าหมาย การตรวจสอบรอเวลา ดูพฤติกรรมของเหล่า AI หาของทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่หาได้เพื่อให้ภารกิจสำเร็จซึ่ง Death to Spies ทำเกมเพลย์ออกมาได้ดีมาก จนผู้เล่นไม่สนเรื่องกราฟฟิคด้วยซ้ำ แต่ทว่าพอเป็น Alekhine's Gun ไม่รู้ว่าผู้พัฒนาไปโดนตัวอะไรมาทำให้เกมนี้กลายเป็นเกมกิ๊กก๊อกปัญญาอ่อนที่เหล่า AI โง่จนไม่รู้จะโง่อย่างไร ทำเรียกได้ว่าเดินดุ่ยๆ ไปฆ่ามันก็แทบไม่รู้สึกตัวจนเสียความเป็นเกมลอบฆ่ากันไป และสิ่งที่มากกว่านั้นคือคำวิจารณ์โดยมากมองว่าเกมนี้ลอก Hitman มาทั้งดุ้น!
Slain!
Developer: Wolf Brew Games
Genre: Action, 2D Side Scrolling
Release Date: 24 มีนาคม 2016
Platform: PlayStation 4, Xbox One, PC,PS Vita, iOS, Android
Trailer: ที่นี่
Slain! มาพร้อมกับคำโปรยว่าเป็นเกม Dark Soul แบบฉบับ 2D แน่นอนมันทำให้แฟนเกม Dark Soul และแฟนเกมสายฮาร์ดคอต้องการลิ้มรสความยากระดับโหดของเกม พอออกวางจำหน่ายต้องยอมรับโดยตรงเลยว่าองค์ประกอบศิลป์ ดนตรีประกอบ การดีไซน์ตัวละครค่อนข้างทำมาได้ดีในระดับหนึ่งในวงการนักพัฒนาอินดี้ ที่เหลือก็คือเกมเพลย์ที่ควรจะได้รับ พร้อมกับคำโปรยที่พี่แกบอกว่าจะจริงตามที่พูดหรือไม่ ในช่วงต้นเกมเรายอมรับเลยว่าเกมมีความยากในระดับหนึ่งยิ่งเป็นการควบคุมมุมมอง 2D แล้วยิ่งทำให้เรารับรู้ถึงความยาก แต่ก็เท่านั้นแหละ เมื่อเราจับจุดได้มันก็กลายเป็นของกล้วยๆ ด้วยข้อจำกัดของมุมมอง 2D ทำให้เรามอง Animation ของศัตรูง่ายขึ้นมาก ความยากไม่ใช่ความเก่งของศัตรูเสียแล้วแต่เป็นเลือดของพวกมันแทน มอนสเตอร์บางตัวไม่ได้มีความเก่งใดๆ เลย แต่เอาถึกเข้าว่าจนต้องตีร่วม 30 ทีกว่ามันจะตาย เทคนิคที่เราใช้ก็ซ้ำ ๆเดิม ตีๆๆๆ หมุนตัว ตีๆๆๆ หมุนตัว วนลูบอย่างนี้ไปเรื่อย แล้วพอเจอเยอะๆ เข้าจากความสนุกมันกลายเป็นความน่าเบื่อซะแทน ในส่วนเนื้อเรื่องก็ตามสเตปของเกมที่เราเป็นนักรบเก่งกล้าถูกส่งตัวไปในดินแดนปีศาจเพื่อทำลายมันให่หมดสิ้น แค่นี้จริงๆ ท้ายที่สุดแล้วมันก็กลายเป็นแค่เกมที่ยืมคำว่า Dark Soul มาขายของแค่นั้น
No Man's Sky
Developer: Hello Games
Genre: Adventure, FPS, Sci-fi
Release Date: 13 สิงหาคม 2016
Platform: PlayStation 4, Xbox One, PC
Trailer: ที่นี่
อีกเกมหนึ่งที่มีหลายคนรอคอยที่สุดในปีนี้ และน่าจะโดนยำเละที่สุดของปีนี้เช่นกัน ด้วยคุณภาพตัวอย่างเมื่อหลายปีก่อนที่เรียกเสียงว้าวและคำชื่นชมไปนับไม่ถ้วน ในวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เฉพาะมีคนออนไลน์ร่วมกันสูงสุดถึง 200,000 คน นับเป็นตัวเลขที่สูงมากเมื่อเทียบกับเกมอื่นๆ ที่ค่าเฉลี่ยไม่กี่หมื่นเท่านั้น การเข้าสู่จักรวาลอันกว้างใหญ่ทำให้เราตื่นตาตื่นใจได้ไม่น้อย ออกล่าแร่หินดินปืนมาคราฟต์ในสิ่งที่ต้องการ และทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ มันเป็นเกมที่ดีหากเราเล่นแค่ไม่กี่นาทีเพราะสุดท้ายก็วนลูปเดิมไปเรื่อยๆ บินหาดาว ลงจอดหาของ คราฟต์ไอเทม และบินหาดาวใหม่ โหมดมัลติเพลย์ที่ค่ายบอกว่ามีแต่โอกาสเจอกันน้อยมากๆ เพราะดาวมีเป็นล้านๆ ดวงดูเหมื่อนเป็นเรื่องหลอกลวง การที่มีผู้เล่นจบบินสู่จุดดับแล้วก็กลายเป็นท่องกาแล็คซี่ใหม่อีกครั้งบ่งบอกได้ถึงความสะเพร่าของผู้พัฒนา และไม่แปลกใจเลยที่ท้ายที่สุดจากผู้เล่นร่วม 200,000 คน ถึงขั้นรีฟันไปจนเหลือไม่กี่หมื่นถุกล้อเลียนด้วยชื่อ No Man' Buy ก็คงไม่ผิดมากนัก แม้ว่าภายหลังจะมีการอัพเดททำให้เกมมีความหลากหลายขึ้นแต่ก็ดูจะหมดประโยชน์ไปเสียแล้ว
Umbrella Corps
Developer: Capcom
Genre: Action, FPS
Release Date: 23 มิถุนายน 2016
Platform: PlayStation 4, Xbox One, PC
Trailer: ที่นี่
ที่สุดของความเละจนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นหนึ่งในซีรี่ย์เกมคุณภาพระดับ 20 ปี Umbrella Corps เกมที่ต่อยอดมาจากซีรี่ย์ยิงผีชื่อดัง Resident Evil ที่มาในรูปแบบการเล่นเน้นแอคชั่นบู๊ล้างผลาญ ให้เราเป็นหนึ่งในหน่วยของ Umbrella คอยเก็บซากศพเดินได้นั่นเอง เกมมีทั้งรูปแบบ Single-Player แต่โดยรวมนั้นจะเน้นไปที่โหมด Online เป็นใหญ่ รูปแบบที่น่าเบื่อ เกมเพลย์ที่น่าหงุดหงิด ระบบฟิสิกส์ที่เหมือนไม่ได้เรียนม.ต้นมา สร้างความหงุดหงิดและเกลียดชังของแฟนบอยอย่างมาก ต่อให้ซีรี่ย์ Resident Evil จะยอดเยี่ยมเพียงใด แต่เชื่อว่าแฟนบอยหลายคนไม่อยากจะนับเกมนี้ไปอยู่ในโลกเดียวกนเลยด้วยซ้ำ เป็นอีกความแป้กครั้งมโหฬารที่ Capcom ควรนำไปศึกษาในการทำเกม Side-Story ครั้งถัดไปโดยแท้
พูดตรงๆ เลยว่านี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของเกมสุดแป้ก และยอดแย่ในปีนี้ เชื่อเหลือเกินว่าผู้อ่านน่าจะมีเกมในใจที่ตั้งความหวังไว้สูงแต่ออกมาได้โคตรห่วย โคตรแย่ โคตรแป้ก และในลิสต์นี้เองหลายคนอาจจะไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไรก็ถือเสียว่าอ่านเอาสนุก ใครมีจ้อโต้แย้งใดๆ ก็สามารถมาบอกกันได้ หรือใครอยากจะแนะนำเกมใดๆ ว่าแย่ ว่าแป้กอีกก็มาแนะนำกันได้นะจ๊ะ ขอขอบพระคุณที่คิดตามจ้า