เมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา Epic Games กลายเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของวงการวิดีโอที่น่าจดจำ (และอาจเป็นที่ชิงชังสำหรับเหล่า Hater) ไปเสียแล้ว นั้นก็เพราะทางค่ายเล่นใหญ่ งัดไม้เด็ดเปิดตัวบรรดาเกม Exclusive ของแพลตฟอร์มดิจิตอล Epic Games Store ด้วยการนำ The Outer World, Control และโปรเจกต์เกมจากเว็บระดมทุนอย่าง Phoenix Next ที่แต่เดิมจะต้องลงบนหน้าร้านค้า Steam ก็ดันโดนย้ายไปลงให้กับทาง Epic Games Store แทน
แต่สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้นมาเลยก็คือ Epic Games สามารถไปดึงเอา Detroit: Become Human, Beyond: Two Souls และ Heavy Rain ของทีมผู้พัฒนา Quantic Dream มาพอร์ตลงบนแพลตฟอร์มดิจิตอล Epic Games Store ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์เกมเมอร์ทั่วโลกเป็นอย่างมาก จึงทำให้เกมเมอร์ทั่วโลกรู้สึกไม่พอใจกับการตลาดของ Epic Games เท่าใดนัก เนื่องจากมันเหมือนกับการกว้านซื้อและเสนอสัญญาในเรื่องของส่วนแบ่งที่ดึงดูดใจแก่ทีมผู้พัฒนาก็ไม่ปาน
ถึงกระนั้นหากเราลดอคติ แล้วเปลี่ยนมุมมองวิธีคิดอย่างเป็นกลาง ก็จะเห็นได้ว่า Epic Games Store ก็ไม่ได้แย่อย่างที่ใครหลายคนก่นด่าสาปแช่งอยู่ในขณะนี้ [แม้จะเห็นด้วยว่าระบบฟีเจอร์หลายอย่างยังไม่ลงตัวก็ตาม] ซึ่งล้วนมอบผลประโยชน์กับเกมเมอร์ทั่วโลกในอนาคตอีกด้วยนะคะ ดังนั้นในวันนี้ทามาโมะจังและทีมงาน PlayUlti จะมาวิเคราะห์ถึงจุดเด่นของ Epic Games Store ที่มุ่งเน้นสร้างความได้เปรียบจากแพลตฟอร์มอื่นๆ ให้กระจ่างกันไปเลยดีกว่า
ครบครันคับคั่งด้วยเกมคุณภาพสูง คุ้มค่าแก่การควักเงินซื้อ
Tim Sweeney บอสใหญ่ของ Epic Games เคยกล่าวไว้ว่า “Epic Games Store จะไม่มีวันจำหน่ายเกมโป๊เปลือยและเกมคุณภาพต่ำอย่างแน่นอน เพราะเราต้องการให้แพลตฟอร์มดังกล่าวเต็มเปี่ยมไปด้วยเกมคุณภาพครบครัน (ไม่มีคุณภาพต่ำ) ไม่เกี่ยงว่าจะมาจากค่ายเกมเล็ก - ค่ายเกมยักษ์ใหญ่ขนาดไหนก็ตาม”
ซึ่งดูเหมือนว่าเขาสามารถทำได้อย่างที่ลั่นวาจาเอาไว้เลย เพราะในเวลานี้ Epic Games Store มีแต่เกมที่คนส่วนใหญ่ต่างจับตามองและอยากจะเล่นกันทั้งนั้น แถมมันเต็มไปด้วยคุณภาพสูงมาก จนสามารถกล้าฟันธงเลยว่าคุ้มค่าแก่การควักเงินซื้อแน่นอนเลยล่ะคะ
โดยทามาโมะจังและ The Yoys ขอยกตัวอย่างเรื่องคุณภาพของตัวเกมด้วย Satisfactory เกมแนว Survival Sandbox ผจญภัยสร้างอาณานิคมบนดาวเอเลี่ยนในฝัน ผลงานทีมผู้สร้าง Goat Simulator ที่แม้ตัวเกมยังอยู่ในช่วง Early Access ทว่าคุณภาพคอนเทนต์เนื้อหาที่ได้รับคุ้มค่าต่อราคาอยู่ไม่น้อย อีกทั้งยังปรับแต่งประสิทธิภาพของตัวเกมเข้าขั้นดีงามอีกด้วยค่ะ
ในทางกลับกันแพลตฟอร์มดิจิตอลชั้นนำทั่วโลกอย่าง Steam เพื่อนๆ จะเห็นเลยว่าเกมประเภท Early Access ส่วนใหญ่แล้วมักชอบมีคอนเทนต์เนื้อหาน้อยเสียเหลือเกิน กรณีหนักสุดเลยก็คือ คอนเทนต์เนื้อหาที่แทบไม่มีอะไรชวนดึงดูด ราวกับว่ายังพัฒนาไม่เสร็จประมาณนั้น แถมบางเกมยังปรับแต่งประสิทธิภาพของตัวเกมส่วนมากนั้นเข้าขั้นแย่ เหมือนไม่ผ่านการตรวจมือก่อนลงวางขายสักนิด
รวมไปถึงในแต่ละวัน Steam มักจะชอบมีเกมคุณภาพต่ำเกลื่อนเต็มร้านค้าไปหมด ซึ่งมักจะราคาไม่ถึงหลักร้อย, ตัวเกมทำออกมาลวกๆ และแทบหาความสนุกไม่ได้เลย จนบางที่แอบรู้สึกว่านโยบายการวางจำหน่ายเกมของ Steam ไม่มีการคัดกรองตามมาตรฐานสากลเลยแฮะ **หมายเหตุ : เกมคุณภาพสูง แต่ราคาไม่ถึงหลักร้อย มันก็มีเหมือนกัน เพียงแค่น้อยนักที่เราจะได้เห็นเกมแบบนั้น**
จึงเห็นได้ว่าทุกครั้ง Epic Games ลงมาตรวจสอบคุณภาพของตัวเกมด้วยตนเองในระดับหนึ่งเพื่อเห็นว่าสมกับที่ควรวางจำหน่ายในเวลานี้หรือเปล่า ในขณะที่ Steam แทบผีเข้าผีออกเรื่องการตรวจสอบคุณภาพของตัวเกม อิงจากกรณีล่าสุดที่เกิดให้ใครหลายคนตั้งคำถามว่าทำไม Steam ถึงปล่อยให้เกมที่ที่มีเนื้อหากระทำชำเรา + ข่มขื่นอย่าง Rape Day ปรากฎในหน้าร้านค้า จนกระทั่งภายหลังลงดาบแบนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นหากเปิดใจรับ Epic Games Store เราเชื่อว่าทุกคนไม่ผิดหวังแน่นอน
ส่งเสริมให้ทีมผู้พัฒนาอินดี้หรือค่ายเกมขนาดเล็กมีอนาคตต่อไปในวงการ
หนึ่งในประเด็นหลักที่สร้างความลำบากใจให้กับเกมเมอร์ทั่วโลกอย่างมากทีเดียว นั้นก็คือ พวกเขาโปรโมทการตลาดด้วยการมอบส่วนแบ่งรายได้ให้ทีมผู้พัฒนาถึง 88% โดยตัวเองจะเก็บแค่ 12% เท่านั้น จนทำให้เกิดแย่งชิงสิทธิ์หรือไม่ก็การโยกย้ายการวางจำหน่ายไปเป็น Exclusive Epic Games Store เป็นเวลา 1 ปี ด้วยเหตุนี้ทีมผู้พัฒนาอินดี้และค่ายเกมทั้งหลายต่างก็เริ่มโยกย้ายตีห่างจากอก Steam ตั้งแต่ประกาศออกมาก่อนวางจำหน่าย, วางจำหน่ายสักพักแล้วเปลี่ยนใจทีหลัง, มาโยกย้ายเอาตอนเกมใกล้วางจำหน่าย และที่หนักที่สุดก็คงเป็นการผิดสัญญากับผู้มอบการระดมทุนให้ทีมผู้พัฒนา เป็นต้น
สิ่งเหล่านี้ถือว่ากระทบกระเทือนจิตใจอยู่ไม่น้อยเลย จึงไม่แปลหากใครต่อใครจะมองว่า Epic Games Store ชอบเข้าไปแทรกแซงการวางจำหน่ายเกมของเหล่าทีมผู้พัฒนา แทนที่จะเอาเวลาไปปรับปรุงแพลตฟอร์มให้ดีขึ้น แต่ก่อนอื่นทามาโมะจังและทีมงาน PlayUlti ขอออกตัวก่อนว่า พวกเราเองก็ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของทีมผู้พัฒนาที่เล่นกลับลำและผิดสัญญาที่ให้ไว้กับผู้เล่น ถึงอย่างนั้นทีมผู้พัฒนาก็มี ‘สิทธิ์’ ในการตัดสินใจที่จะเลือกแพลตฟอร์มวางขาย แม้ว่าผลที่ตามมามันทำให้เครดิตตัวเองเสื่อมเสียในทางอ้อมก็ตาม
ยิ่งไปกว่านั้นการมาของ Epic Games Store เข้าอกเข้าใจทีมผู้พัฒนาอินดี้หรือค่ายเกมขนาดเล็ก พร้อมเข้าช่วยเหลือเกื้อกูลให้พวกเขายังคงยืนหยัดอยู่บนเส้นทางของวงการวิดีโอเกมต่อไป เพราะรู้หรือไม่ว่าสมัยก่อนตลาดเกมอินดี้นั้นกระแสมาแรงเป็นอย่างมาก ซึ่งแพลตฟอร์มดิจิตอลยอดฮิตอย่าง Steam ก็ไม่พลาดที่หวังใช้กระแสโปรโมทเกมอินดี้เหล่านั้น จนอยู่มาวันหนึ่งกลับเกิดความเปลี่ยนแปลงของ Valve ได้เปลี่ยนอัลกอริทึมในส่วนของ Recommendation จนทำเอาเกมอินดี้เด่นๆ โดนๆ ไม่ได้ปรากฎออกมา ผลก็คือทำให้ยอดขายตกต่ำ จนในที่สุดทีมผู้พัฒนาอินดี้หรือค่ายเกมขนาดเล็กต่างทยอยปิดตัวลง
โดยปัญหานี้ทีมผู้พัฒนาอินดี้หรือค่ายเกมขนาดเล็กต่างร้องเรียนทาง Valve มาตลอด แต่ทว่าทีมงานกลับเพิกเฉยต่อการแก้ปัญหาดังกล่าว และกล่าวว่า “เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้” [แม้ว่าปัจจุบันจะเริ่มดีขึ้นมาบ้างแล้วก็ตาม] อีกทั้งในเมื่อปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข ยังต้องเจอกับการมอบส่วนแบ่งรายได้ให้ทีมผู้พัฒนาถึง 70% ส่วนตัวเองเก็บถึง 30% เลยทีเดียว หากมองในมุมกลับกัน เชื่อว่าส่วนใหญ่ทุกคนก็คงเลือกที่จะย้ายไปอยู่กับ Epic Games Store เพื่ออนาคตที่ดีกว่า ที่สำคัญเป็นเหมือนกับบอก Valve ว่า “ถึงเวลาแก้ไขปรับปรุง” ก่อนที่คู่แข่งจะแย่ง + หนีห่างไปจากอ้อมอก Steam
สรุป - เห็นดราม่าเยอะแบบนี้ เจ้าตัวก็สำนึกผิดแล้ว
ถึงกระนั้นก็ไม่อาจปฎิเสธกระแสต่อต้านที่เหล่าเกมเมอร์มีต่อ Epic Games Store อย่างล้นหลาม ซึ่งหากไม่รีบกู้ภาพลักษณ์ในด้านที่ดีกลับคืนมา ก็อาจมีสิทธิ์ที่จะล้มหายจากไปในอนาคตเช่นกัน ดังนั้นในท้ายที่สุด Epic Games ไม่อาจทนแรงกดดันไปมากกว่านี้ จึงออกมาให้สัญญากับเกมเมอร์ทั่วโลกว่า “พวกจะไม่ทำอะไรแบบนี้อีกแล้ว” อาทิ การเข้าไปแทรกแซงวางจำหน่ายของทีมผู้พัฒนา พร้อมลดจำนวนปริมาณการผูกขาดขายเกม Exclusive ในอนาคต รวมไปถึงวางแผน Roadmap ปรับปรุง Epic Games Store เต็มรูปแบบที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้า
สุดท้ายทามาโมะจังและทีมงาน PlayUlti อยากลองให้เหล่าเกมเมอร์ลองปรับเปลี่ยนมุมมองทัศนคติเกี่ยวกับ Epic Games Store แม้สักเล็กน้อยก็ยังดี เพราะพวกเราเชื่อว่า Epic Games Store ไม่ได้แย่ไปเสียทั้งหมด กลับกันถือเป็นการผลักดันการแข่งขันของวงการวิดีโอที่มุ่งเน้นพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิตอลให้หลากหลาย จนคู่แข่งอื่นๆ ต้องมุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาเทียบเคียงให้เท่ากัน [โดยเฉพาะ Steam] และไม่ว่าผลมันจะเป็นเช่นไรท้ายของท้ายที่สุด ผู้ที่จะได้รับผลประโยชน์ก็คือ เหล่าเกมเมอร์นั่นเองค่ะ
อ้างอิง & วิเคราะห์ : https://www.pcgamer.com/are-store-exclusives-bad-for-pc-gaming/