Go GO Power Rangers
Go GO Power Rangers
Go GO Power Rangers
Mighty Morphin' Power Rangers
เด็กยุค 90s น่าจะคุ้นกับเพลงท่อนนี้ที่คลอมาทีไรเหมือนมีพลังบางอย่างในตัวถูกปลุกขึ้น จากเนื้อเพลงก็น่าบ่งบอกอยู่แล้วว่ามาจากทีวีซีรี่ย์แนวแปรงร่างอันโด่งดังสุดๆ ในยุคนั้น Mighty Morphin Power Rangers ออกอากาศครั้งแรกในปี 1993 ผลิตโดยบริษัทนามว่า Saban ประเทศอเมริกา ซึ่งซื้อลิขสิทธ์อย่างถูกต้องมาจากซีรี่ย์เซนไท (Sentai) ของญี่ปุ่นซึ่งก็คือ "จูเรนเจอร์ (Zyuranger)" โดยนักแสดงหลักเป็นชาวอเมริกาเนื้อหาถูกปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับวัฒนธรรม ฉากบางฉากถูกสลับสับเปลี่ยนผสมฟุตเทจเดิมของเวอร์ชั่นญี่ปุ่นอีกด้วยในประเทศไทยเองก็มีกระแสความโด่งดังเหมือนกันไม่แพ้อเมริกา โดยฉายช่องฟรีทีวี อ.ส.ม.ท. ช่อง 9 ในปี 1995
ถามว่าซีรี่ย์นี้โด่งดังมากขนาดไหนนั้นสามารถบ่งบอกได้จากซีรี่ย์ Power Ranger ภาคแรกได้ถูกผลิตออกมาถึง 3 ซีซันด้วยกัน ในภาคแรกก็คือลิขสิทธิ์ของจูเรนเจอร์ ส่วนในซีซั่นที่สอง Saban ก็ซื้อลิขสิทธิ์ตัวละครของ "ไดเรนเจอร์ (Dairanger)" เพื่อนำ "คิบะเรนเจอร์ (เสือขาว)" มาเป็นตัวละครใหม่ และในซีซั่นที่สาม ก็ซื้อลิขสิทธิ์ "คาคุเรนเจอร์ (Kakuranger)" มาดัดแปลงเป็น Mighty Morphin Alienrangers แทน หลังจากนั้นก็เปลี่ยนซีรี่ยืใหม่เกือบทุกเรื่องตามญี่ปุ่น และยังคงอยู่มาถึงปัจจุบันซึ่งก็คือ Power Rangers Ninjasteel ที่ได้ลิขสิทธิ์มาจาก "นินนินเจอร์" (Ninninger) นั่นเอง
ท่ามกลางกระแสที่ลดลงเรื่อยๆของซีรี่ย์ Mighty Morphin Power Rangers ในงาน New York Comic Con 2016 สตูดิโอภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Liongate ก็จัดเซอร์ไพรส์ชิ้นโตโดยการเปิดตัวภาพยนตร์ใหม่ Mighty Morphin Power Rangers!!! สร้างเสียงฮือฮาอย่างมาก ซึ่งจะเป็นการ "รีบูทใหม่ทั้งหมด" จากซีรี่ย์เดิมเมื่อปี 1993 ว่าด้วยเหล่ากลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งได้พลังพิเศษมาเพื่อต่อกรกับจอมมาร ริต้า รีพัลซ่า (หรือที่เราคุ้นหูในนาม บัลโดร่าในเวอร์ชั่นญี่ปุ่น) เพื่อปกป้องโลก
(ตัวอย่างแรก)
ในเวอร์ชั่นรีบูทใหม่นี้ยังคงความเป็น Power Rangers ว่าด้วยกลุ่มวัยรุ่นได้แก่ เจสัน, บิลลี่, แซค, คิมเบอลี่ และทรินิ อยู่ในโรงเรียนพิเศษของเมือง Angel Grove แต่ทว่าวันหนึ่งพวกเขาดันเจอกับสิ่งแปลกประหลาดบางอย่างจากนอกโลกทำให้เขาได้พลังพิเศษมา ทั้งแข็งแกร่ง รวดเร็ว แต่ละคนก็เอาไปใช้กับความสนุกของตนเองโดยที่ไม่รู้เลยว่าภัยร้ายกำลังมาเยือนโลกของเขา
(ใบปิดหนังออกแนวไซไฟ)
เรียกได้ว่าเปิดตัวมาก็มีคนที่เกิดอาการฟินนาเล่ที่ซีรี่ย์แปรงร่างในวัยเด็กได้กลับมาอีกครั้งพร้อมกับกระแส "อี๋" มากพอๆกัน (และอาจจะมากกว่าคนชอบเสียด้วย) ไปดูกันเลยว่าภาคนี้มีอะไรเป็นพิเศษๆ แปลกๆ เกร็ดความรู้อะไรบ้าง และต่างจากเวอร์ชั่นเดิมกับของญี่ปุ่นอย้่างไร ก่อนไปพิสูจน์ความสนุกจริงในวันที่ 24 มีนาคม 2017!
____________________________
ไม่ใช่ The Movie เรื่องแรงของซีรี่ย์ Power Rangers
สำหรับแฟนๆเซนไตนั้นคงเคยชินกับการดูภาพยนตร์กันอยู่แล้ว เพราะทุกๆปีจะมีหนังใหญ่เพื่อส่งต่อให้รุ่นน้องเสมอๆ รวมไปถึงภาคพิเศษลงแผ่นหรือออนไลน์ กลับกันทางเวอร์ชั่นของ SABAN หลายคนมักจะเห็นแต่ซีรี่ย์ฉายทางทีวีเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วพวกเขาก็เคยทำภาคหนังโรงให้เด็กๆในสมัยนั้นเข้าไปดูเช่นกัน ซึ่งก้คือ Power Rangers The Movie (1995) โดยมีการดีไซน์เพิ่มเติมจากเดิม ชุดของเหล่านักสู้มีการออกแบบใหม่ให้ดูเป็นชุดเกราะ พร้อมกับหุ่นยนต์ใหม่ และ Turbo a Power Rangers Movie (1997) ซึ่งออกมาแล้วค่อนข้างแป้กอย่างมากด้วยปัจจัยหลายๆ ตั้งแต่ดีไซน์ยันเนื้อเรื่อง โดยเฉพาะเจ้านี่...
ทั้งแฟนฝั่งเซนไตกุมหัวที่หุ่นยนต์จากคาคุเรนเจอร์โดนยำเละขนาดนี้ แฟนฝั่งพาวเวอร์เรนเจอร์เองก็ปวดหัวกับเนื้อเรื่องไม่น้อย แถมฉากแอคชั่นก็น้อยจนแทบหลับรอได้ จนปัจจุบันเวอร์ชั่นหนังใหญ่ก็หายไปเลย ดูเหมือน Saban จะเข็ดหลาบไม่กล้าทำออกมาเสี่ยงการโดนรุมสกรัม
____________________________
Mighty Morphin Power Rangers 2017
พลังมาจากเทคโนโลยีนอกโลกไม่ใช่สัตว์ในตำนาน
หากใครเป็นแฟนเซนไตคงทราบกันดีว่าจูเรนเจอร์นั้นมีเรื่องราวเกี่ยวกับ "นางมารบันโดร่า"ผู้ถูกปิดผนึกมานานนับล้านปี แต่ดันเกิดเหตุไม่คาดคิดมนุษย์อวกาศได้เปิดผนึกบันโดร่าที่ดวงจันทร์ทำให้ความโกลาหลเกิดขึ้นอีกครั้ง "บาร์ซ่า" ผู้เฒ่าที่เคยปราบบันโดร่าต้องออกโรงมาอีกครั้งและทำการอัญเชิญเหล่า "นักรบไดโนเสาร์" เพื่อมากำจัดบันโดร่าอีกรอบ
ในส่วนของ Power Rangers (1993) ก็มีความคล้ายคลึงกับเวอร์ชั่นญี่ปุ่นเช่นกัน ว่าด้วยนางมาร รีต้าถูกปลดผนึกโดยนักบินอวกาศ โดยบทของคนรวบรวม Power Ranger ก็คือซอร์ดอน (Zordon) บุรุษองค์ความรู้แห่งจักรวาล พร้อมกับผู้ช่วยอีกหนึ่งตน อัลฟ่า 5 (Alpha 5) หุ่นยนต์รับใช้จอมเปิ่น แต่ทว่า Power Rangers 2017 นี้จะไม่มีแล้วกับพลังในตำนาน นักรบไดโนเสาร์ แต่กลายเป็นว่าเหล่าวัยรุ่นผู้โชคดี(หรือร้าย?) ดันไปเจอกับเทคโนโลยีต่างดาว ได้รับพลังพิเศษและกลายมาเป็น 5 นักสู้นั่นเอง____________________________
นางมารบันโดร่า เอ้ย!!! ริต้าแสนสะบึ้ม นับเป็นอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงใหญ่ของ Power Rangers เช่นกัน ในเวอร์ชั่นเก่า Saban ได้นำฟุตเทจเก่าของฝั่งญี่ปุ่นมารียูส ไม่ต้องหานักแสดงมาใหม่ ซึ่งเดิมที่ก็คือ นางมารบันโดร่า พอในเวอร์ชั่นอเมริกาก็เปลี่ยนชื่อเป็น ริต้า รีพัลซ่า (รับบทโดย มาจิโกะ โซกะ) บทบาทเดิมทีเป็นนางมารผู้ชั่วร้าย ส่งปีศาจไปบุกโลกทุกวี่วันแต่ดันไม่เคยชนะเด็ก ซึ่งเราอาจจะไม่เห็นบทบู๊เท่าไหร่ (อาจจะเพราะนักแสดงมีอายุแล้วเลยให้เป็นนางมารจอมวางแผนแทน) แต่พอมาในปี 2017 ริต้า รีพัลซ่าก็กลายเป็นจอมมารสุดสวย ได้ อลิซาเบธ แบงส์ ดาราสวยฮอตคนหนึ่งของวงการเคยมีผลงานดังๆ อย่าง The Hunger Games และ Pitch Perfect การันตีฝีไม้ลายมือจนบางทีหลายคนอาจอยากช่วยเชียร์นางมากกว่าแก๊งเกรียน 5 คนเสียด้วยซ้ำ ทั้งนี้ก็ต้องดูอีกว่าบทบาท ริต้า รีพัลซ่า เวอร์ชั่นนี้จะออกมารูปแบบใด ในเมื่อเปลี่ยนธีมจากนางมารบุกโลกกลายเป็นเอเลี่ยน ไม่รู้ว่าจะโหดมากขึ้นหรือไม่____________________________
ธีมหนังนี่มันหนังวัยรุ่นชัดๆ!!! แก๊งค์เด็กมีปัญหา 5 คน อยู่โรงเรียนเดียวกัน โดนกลั่นแกล้ง มีความรัก ฝึกอดทน เปลี่ยนแปลงตัวเอง กลายเป็นที่ยอมรับ เฮ้ยยยย เดี๋ยวๆๆๆ นี่พล็อตแบบนี้ยังไงก็หนังวัยรุ่นที่เราสามารถหาดูได้ทั่วไปตอนซัมเมอร์ใช่ป่ะ? นี่อาจจะเป็นปัญหาหนึ่งของหนังที่ลงมาเล่นประเด็น แม้มันจะมีความแตกต่างและรายละเอียดมากขึ้นกว่าเวอร์ชั่นเก่า แต่พล็อตแบบนี้ก็เห็นได้ทั่วไปตามท้องตลาดที่ออกมาถี่ เพียงแค่ยัดหุ่นยนต์ การแปรงร่าง แล้วก็แอคชั่น กลายเป็น Power Rangers 2017 โดยเฉพาะคู่ของ Jason และ Kimberly ที่น่าจะมีประเด็นต่อยอดได้ดีหากกรณีมีภาคต่อและ Tommy ปรากฏตัว ____________________________
มุกตลกซีเรียส แถมอาจจะมีเซอร์ไพรส์ เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2017 Liongate ใจดีปล่อยตัวอย่างที่ 2 มาล่อตาล่อใจเพิ่มขึ้น เห็นชุดเต็มในฉากแอคชั่น พื้นเพตัวละคร และสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับยุคนี้กับการเป็นหนังแมสคือมุกตลกเอาให้ฮา แม้ว่าในภาค 1993 ก็มีคู่หูตัวโจ๊กอย่าง Bulk และ Skull คอยตบมุกให้เด็กๆขำกันหน้าทีวี แต่เวอร์ชั่น 2017 ก็คงไม่สามารถนำมาเล่นได้เพราะอาจจะเป็นมุกตลกเด็กน้อยเสียหน่อย การยัดบทฮาซ้อนในภาพยนตร์จึงต้องทำให้โตขึ้น อย่างในตัวอย่างก็ดันมีมุกล้อผิวสี โดยนายแซ็ค (สีดำแต่ดันเป็นคนเอเชีย) บอกว่าเขามีออร่าดำ พี่บิลลี่ (สีน้ำเงินแต่เป็นคนผิวสี) สวนทันควันว่านายไม่ดำ เรียกได้ว่าเป็นมุก Non-PC พอใช้ได้ รวมไปถึงฉากการเล่าเรื่องของทรินิให้กับน้องๆ ฟังถึงการไปเจอสิ่งแปลกปลอมกับพลังวิเศษ ก็โดนคุณแม่สวนด้วยการให้เอาฉี่ไปตรวจ คาดว่าเมาหลอนยาแหงๆ จะเห็นได้ว่าสองฉากนี้ค่อนข้างเป็นมุกซีเรียสใช้ได้นั่นก็หมายความว่าธีมเรื่องปัญหาครอบครัวก็มืดหม่นแน่นอน
ส่วนจากตัวอย่างเราจะเห็นอีกหลายๆ ฉากโดยเฉพาะฉากต่อสู้ของเหล่านักรบ 5 สี ที่ตัวอย่างนี้จัดเต็มให้เห็นชัดๆ เสียที สำหรับแฟนๆหนังโทคุคัตสึแล้วน่าจะมีความชอบพอใจแน่นอนกับฉากที่ปล่อยมา อาจอานุมานได้ว่ามันยังคงมีความเป็นโทคุคัตสึอยู่กับการต่อสู้บนที่ดินรกร้าง แห้งแล้ง ไม่มีใครอยู่ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้มีคนเต็ม พอสู้กันวาปมาอีกที่ ไม่รู้ว่ามุกตัวระเบิดรอบแรกแล้วขยายร่างนั้นจะถูกนำมาเล่นด้วยหรือไม่ งานนี้ก็ต้องดูว่าทีมงานทำการบ้านมาเซอร์ไพรส์แฟนคลับรุ่นเก่าด้วยหรือเปล่า____________________________
หุ่นยนต์ขี้ก้าง ของเล่นน่าผิดหวัง แต่ในหนังดูดี!?! เรื่องปกติกับสิ่งที่เรียกว่าของเล่นกับหนังแปรงร่าง หลายๆคนที่เป็นแฟนเซนไต,ไรเดอร์ ก็เคยมีแซวกับเรื่องนี้ว่าที่ยังมีหนังออกมาต่อเนื่องเพราะของเล่นมันขายได้ น่าซื้อ น่าสะสม แน่นอนว่าเวอร์ชั่นนี้ก็มีการปล่อยตัวอย่างของเล่นออกมาให้ได้ชมกัน ซึ่งจุดนี้แหละที่ทำให้เรื่องนี้โดนด่าตั้งแต่ยังไม่ได้ออกฉาย เพราะของเล่นออกแบบได้ดูกิ๊กก๊อกอย่างกับของเล่นแพ็คตามตลาดนัด ยิ่งเหล่าหุ่นยนต์ที่ปล่อยภาพออกมาไม่มีใครบอว่ามันสวยเลยซักตัว ยิ่งเมื่อเทียบกับไดจูจินแล้วทำให้ออกมาน่าเวทนา อย่างที่เห็นหลายคนคงพูดไม่ผิดนักว่าออกแบบมาได้ไม่สวยเลย ดูขี้ก้างและไร้พลัง กลับกันพออยู่ในฉากการต่อสู้ในตัวอย่างที่ปล่อยมามันกลับโอเคขึ้นกว่าเดิมมากๆ โดยเฉพาะเหล่าสรรพสัตว์เอเลี่ยนทั้งหลาย ที่พอลงรายละเอียกแมคคานิคต่างๆ เห็นการเคลื่อนไหวจริงดูเท่ขึ้น ฉากแอคชั่นสมจริง (แต่มันก็มีความคล้ายคลึงกับ Pacific Rim พอควร) ____________________________
ผู้กำกับและนักเขียนบท ไม่ใช่เล่นๆ สิ่งที่จะทำให้ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จนั้นก็ต้องมาจากน้ำมือของทีมพัฒนาที่ดี และ Dean Israelite ก็เป็นอีกหนึ่งผู้กำกับฝีมือดีมีประสบการณ์คนหนึ่ง ผ่านงานภาพยนต์สั้นมานับไม่ถ้วน รวมถึงภาพยนต์เรื่อง Project Almanac แนวไซไฟไอเดียดีอีกหนึ่งเรื่อง นอกจากตัวผู้กำกับแล้วทีมเขียนบทก็เป็นอีกหนึ่งความสำคัญของการสานต่อเรื่องราวให้สนุก ทั้งนี้ได้มือโปรอย่าง Ashley Miller นักเขียนบทที่เคยการัยตีผลงานมาแล้วจากภาพยนตร์ X-Men First Class และคุณ Michele Mulroney มือเขียนบทที่เคยฝากผลงาน Sherlock Holmes: A Game of Shadows มาแล้วเช่นกัน เรียกได้ว่าแต่ละคนมีของดีที่พร้อมจะใส่ในผลงานใหม่ที่องค์ประกอบครบเครื่องทั้งความเป็นไซไฟตามถนัดของผู้กำกับ บทเขียนแนวแอคชั่นซับซ้อนของมือเขียนบท ส่วนหนึ่งสามารถวางใจได้ว่าหน้าหนังจริงอาจจะไม่ได้แย่อย่างที่หลายคนคิด ณ ตอนนี้เชื่อว่าหลายคนอยากจะพิสูจน์ความสนุกย้อนวัยเด็กที่ปลุกให้ตื่นอีกครั้งใน Power Rangers ฉบับรีบูทแล้ว ซึ่งทุกคนสามารถไปพิสูจน์ด้วยตาตนเอง ในวันที่ 24 มีนาคม 2017 พร้อมกันทั่วประเทศแน่นอน!
