พามาดูจุดกำเนิด Battle Pass ระบบปลดล็อกรางวัลไอเทม ที่เริ่มมีให้เห็นแทบทุกเกมใหม่!

Siryee 27 Aug 2020, 19:44:00
บทความใหม่

เรียกได้ว่าในปัจจุบันนี้ เจ้าระบบ Battle Pass ที่ให้ผู้เล่นได้ทำภารกิจ เพื่อปลดล็อกรางวัลไอเทมจำนวนมากแต่ละซีซั่นภายในเกมนั้นๆ จะมีความนิยมให้เราได้เห็นกันแทบทุกเกม ไม่ว่าคุณจะเป็นเกมเมอร์สายฟอร์มยักษ์, สายออนไลน์, สายมือถือ หรือสาย MMORPG แต่รู้หรือไม่ว่าเจ้าระบบ Battle Pass ก็ใกล้จะถือกำเนิดมาจนมีอายุเกือบครบ 10 ปีแล้วด้วย แถมก็ดูเหมือนว่าจะยังคงมีให้เห็นภายในเกมใหม่ๆ อยู่อีกต่างหาก ซึ่งมันจะมีที่มาอย่างไรกันแน่ และมันจะมีประโยชน์อะไรต่อเกมเมอร์บ้าง ก็สามารถมารับชมผ่านบทความ SaraUlti ตอนแรกกันได้เลย!

เกิดขึ้นครั้งแรกในเกม MOBA ชื่อดัง

  • ปี 2013 เกม Dota 2 ได้มีแผนจัดงานแข่งขันระดับโลกในชื่อ The International 3 (TI3) แต่ก่อนจะจัดขึ้นมา ทางผู้สร้างก็ได้ขายสิ่งที่มีชื่อว่า Battle Pass โดยเมื่อผู้เล่นได้ทำการซื้อ จะทำให้ได้รางวัลพิเศษมากมาย ขณะที่เงินจำนวนหนึ่งของพวกเขา จะถูกนำไปเพิ่มให้กับเงินรางวัล TI3 อีกต่างหาก

คลิปตัวอย่างเกม Dota 2


  • Battle Pass ในช่วงหลังจาก TI3 ได้มีการพัฒนา และเพิ่มลูกเล่นใหม่เข้ามาตลอด จนช่วงหลังยังกลายเป็นสิ่งทำให้ผู้เล่นต้องทำเควสภายในเกม เพื่อจะปลดล็อกรางวัลไอเทมเพิ่มเติม ซึ่งทำให้ผู้เล่น Dota 2 มีกิจกรรมทำยาวๆ นอกจากจะเล่นเพื่อเอาชนะกัน (แต่ก็จะมีขายเฉพาะช่วงมีการจัดแข่งขันเท่านั้น จึงทำให้ค่ายเกมอื่นไม่ได้สังเกตการทำเงินตรงนี้อะไรมาก)

คลิปตัวอย่าง Battle Pass ในปี 2019 ของเกม Dota 2 จากช่อง NoobFromUA
  • Battle Pass ถือเป็นสิ่งทำเงินให้ทางผู้สร้างพอสมควร เนื่องจากผู้เล่นสามารถครอบครอง Battle Pass ได้ในราคาต่ำสุดอยู่ที่ 300 กว่าบาท แต่หากไม่ว่างทำภารกิจเพื่อปลดล็อครางวัลไอเทมของ Battle Pass เพิ่มเติม ก็สามารถจ่ายเงินให้ทางผู้สร้างแทนได้ (เหตุผลที่ว่าทำไม Battle Pass 1 ชุด ต้องมีไอเทมให้ปลดแทบเกือบ 100 ชิ้น หรือมีให้ต้องเก็บครบ 100 เลเวล)
  • คาดการณ์ว่า Battle Pass น่าจะเป็นไอเดียที่ดัดแปลงจากการขายเกมฟอร์มยักษ์ต่างๆ ที่มักขายชุดรวม DLC เพิ่มเติมในชื่อ Season Pass
  • อย่างไรก็ตาม เกมอื่นๆ ก็อาจจะมีระบบที่ทำเหมือน Battle Pass มาก่อนหน้า Dota 2 ก็เป็นได้ แต่ที่ Dota 2 ต้องนับเป็นจุดกำเนิด ก็เพราะเป็นคนตั้งชื่อมันว่า Battle Pass นั่นเอง

เป็นที่ต้องเอาไปใส่แทบทุกเกม หลังกระแสฮิต Battle Royale

  • ในปี 2018 กระแสเกม Battle Royale ถือว่ากำลังมาแรงมาก แถมมีให้เลือกเล่นทั้ง PUBG, Fornite หรือในมือถืออีกเพียบ แต่มีเกมหนึ่งที่ทำกำไรสุดโหดในปีนั้นคือ Fortnite เพราะทุกๆ ซีซั่นภายในเกม พวกเขาได้ทำการขายสิ่งที่มีชื่อว่า Battle Pass (ปีนึงมีประมาณ 4 ซีซั่น)

คลิปตัวอย่างเกม Fortnite


  • ผู้สร้าง Fortnite ได้นำไอเดีย Battle Pass มาจากเกม Dota 2 ซึ่งมีจุดเด่นคือไม่ได้เอามาขายเพื่อเชิงอีสปอร์ต แต่เอามาประยุกต์ขายเพื่อให้ผู้เล่นได้มีสิทธิ์ปลดล็อกรางวัลเพิ่มเติมโดยเฉพาะ และมีอะไรทำในทุกๆ ซีซั่น แถมยังมี Battle Pass แบบฟรีให้สายไม่ชอบเติมอีกด้วย

คลิปตัวอย่าง Battle Pass ซีซั่น 14 ของเกม Fortnite จากช่อง EveryDay FN



ค่ายเกมอื่นไม่รอช้า

  • หลังจากข่าวการทำเงินจนรวยเละของผู้สร้างเกม Fortnite กลายเป็นที่น่าสนใจมากๆ ทางด้านเกมอื่นหรือเกมใหม่ ก็เริ่มมีการใส่ Battle Pass ให้เห็นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคู่แข่งอย่าง PUBG หรือแม้แต่เกมฟอร์มยักษ์ Red Dead Redemption 2 ในโหมดออนไลน์ แถมถ้าไปดูในเกมมือถือ ก็เรียกว่าต้องมีแทบทุกเกมแล้วจริงๆ
  • แทบทุกเกมส่วนใหญ่จะใช้ระบบที่อ้างอิงมาจาก Fortnite คือผู้เล่นสามารถปลดรางวัล Battle Pass ฟรีๆ ได้ แต่ถ้าอยากได้รางวัลเพิ่ม ก็ต้องเติมให้ตัวเองเป็นผู้เล่นพิเศษก่อน แล้วถ้าไม่ว่างปลดล็อกรางวัล ก็สามารถจ่ายเงินให้ผู้สร้างแทนได้
  • แม้แต่บางเกม MMORPG ก็เลือกที่ใส่ระบบนี้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น Destiny 2 หรือ Bless Unleashed
  • Battle Pass ยังคงเป็นสิ่งที่ทางผู้สร้างเลือกจะใส่เข้ามาภายในเกมใหม่ปี 2020 นี้ เพราะเกมที่จะวางขายในวันที่ 4 กันยายน 2020 อย่าง Marvel's Avenger ก็ใส่เข้ามาให้ปลดล็อกสกินฮีโร่ยาวๆ ด้วย 

ข้อดีของ Battle Pass

  • ทำให้ผู้เล่นได้มีอะไรทำยาวๆ ภายในเกมหนึ่งที่อาจจะเล่นจบไปแล้ว เพราะผู้เล่นก็สามารถแค่ซื้อ Battle Pass นั้นมาในราคาถูก แล้วใช้วิธีทำภารกิจปลดล็อครางวัลเพิ่มเติมเอาก็ได้ (หรือที่เรียกว่าใช้เวลาแลกเงิน)
  • จากด้านบน จึงทำให้หลายคนก็สามารถเข้าถึง Battle Pass ได้ง่ายๆ เพราะไม่ต้องจ่ายแพงต่อรอบนึงขนาดนั้น
  • ในหนึ่ง Battle Pass จะมีรางวัลให้ปลดล็อคเยอะมาก เพื่อให้ผู้เล่นต้องใช้เวลานานๆ ในการจะปลดล็อคทั้งหมด ซึ่งถ้าใครไม่ว่างก็ต้องจ่ายเงินแทน ถือเป็นสิ่งที่แฟร์ๆ ทั้งผู้ผลิต และผู้บริโภค
  • ทำให้เกมมีงบปล่อยอัปเดตใหม่ๆ อยู่ไปอีกนานหลายปี
  • หลายเกมยังให้ผู้เล่นสามารถปลดล็อครางวัล Battle Pass ได้ฟรีๆ เลย
  • ส่วนใหญ่ใน Battle Pass จะมอบรางวัลให้ผู้เล่นแบบตายตัว ไม่มีการสุ่มเหมือนกล่องกาชา ส่งผลให้มันเหมือนเป็นการันตีว่าเราจะได้สิ่งนั้นแน่ๆ ถ้าเราปลดล็อก

แล้วข้อเสียล่ะ?

  • เนื่องจากทุกคนก็สามารถเข้าถึง Battle Pass ได้ง่ายมากๆ จึงส่งผลทำให้คนอื่นนั้นก็มีรางวัลเหมือนกับเราได้เช่นกัน แล้วรางวัลพวกนั้นก็จะดูมีค่าลดน้อยลงไป
  • เนื่องจากทุกคนก็สามารถจ่ายเงินเพื่อปลดล็อครางวัลใน Battle Pass แทนได้ด้วย จึงส่งผลให้บางคนอาจรู้สึกไม่คุ้มค่าเหนื่อยต่อเวลาที่ต้องใช้ปลดล็อกรางวัลนั้นๆ
  • หลายเกมมีการจำกัดภารกิจให้ผู้เล่นเก็บเลเวลไปปลดล็อครางวัลต่อ 1 วัน จึงส่งผลให้ผู้เล่นอาจต้องใช้เวลาจะปลดล็อกหลายวันด้วย ขณะที่คนจ่ายแทนสามารถปลดภายในวันแรกได้ครบเลย

หวังว่าบทความนี้ จะทำให้ทุกคนเข้าใจจุดกำเนิด และความเจ๋งของระบบ Battle Pass กันมากขึ้นนะ รวมทั้งหากใครรู้สึกชอบสาระวงการเกมอะไรแบบนี้ ก็รอติดตามบทความซีรี่ส์ SaraUlti ภายในตอนต่อไปกันได้เลยบนเว็บไซต์ PlayUlti เท่านั้น!

ที่มาภาพประกอบ: ถ่ายเองจากภายในเกม Fortnite

กำลังโหลด...