ทุกๆเกมต่างมีค่าสถานะประจำตัวละครและอาวุธต่างไป บางเกมอาจจะมีค่า DEX หรือVIT แต่สำหรับเกมนี้ มีค่าที่แตกต่างไปจากเกมอื่นพอสมควรเราไปดูกันเลยดีกว่าครับผม
ค่าสเตตัสต่างๆของWarframe และ Companion
Capacity : เป็นค่าจุที่Warframe สามารถใส่มอดได้
Conclave : ค่าที่บอกความโหดของMod ที่เราใช้รวมกัน โดยทางซ้ายคือค่า Conclaveของอุปกรณ์ที่เราดูอยู่ (Warframe,อาวุธ เป็นต้น)ส่วนตัวเลขทางค่าคือผลรวมของค่า Conclave จาก Loadoutซึ่งส่งผลต่อความสามารถของ Boss เวลาไปสู้บอสจึงมีคนแนะนำให้ใช้Loadout ที่มีค่า Conclave น้อยๆ แต่ Conclaveมากไม่ได้หมายความว่าเก่งหรอกนะ :D
Armor :เป็นค่าที่ช่วยในการในการหักล้างความเสียหายที่เข้ามาสู่ Health ยิ่งArmor มาก ยิ่งทำให้ความเสียหายที่เข้าสู่เลือดของเรานั้นน้อยลงโดยค่า Armor ไม่มีผลกับ Shield
ตัวละครที่มี Armor เยอะสุดโดยไม่ใส่ Mod คือValkyr ซึ่งมีถึง 600
Health :ค่าที่ช่วยในการรับความเสียหาย ถ้าหากถึง 0จะทำให้อยู่ในสถานะเลือดไหล (ในทีม )หรือตาย (ใน Soloหรือเราเป็นคนสุดท้ายในทีมที่เลือดหมด)
ตัวละครที่มี เลือดเยอะสุดโดยไม่ใส่ Mod คือAsh,Saryn และ Zephyr ที่มี 450
Power : ถ้าพูดในเกมทั่วๆไปคือMax EnergyหรือManaซึ่งเราจะมีได้มากสุดเพียงเท่านี้
ตัวละครที่มีค่า Power มากสุดโดยไม่ใส่ Mod คือLoki Prime และ Nova Prime ที่ 262.5
Shield :เป็นค่าที่รับความเสียหายในชั้นแรก ซึ่งเวลาโดนความเสียหายนั้นจะทำความเสียหายที่ Shield ก่อน ถ้า Shield หมด จึงไปทำความเสียหายที่Health
ตัวละครที่มี Shield มากทั้สถดโดยไม่ใส่ Mod คือZephyr,Rhino,Rhino Prime,Volt,Mag,Mag Prime,Frost,Frost Primeที่จำนวน 450
Stamina :เป็นค่าความเหนื่อยล้าเวลาวิ่ง โจมตีด้วยอาวุธระยะประชิดหรือการกระโดดโลดโผน ซึ่งถ้าหาก Stamina หมดจะทำให้ตัวละครไม่สามารถวิ่งได้ ถ้าหากไต่กำแพง(Wallrun) อยู่ก็จะลดความสูงในการวิ่งเรื่อยๆจนแตะสุดในที่สุด
ตัวละครที่มีค่า Stamina สูงสุดคิอ Valkyr ที่150
ค่าสเตตัสที่ไม่ได้บอกในรูป
Power Strength :ค่าที่คอยเสริมความแรง,ความเร็ว,ความสูง,พลังป้องกันของสกิล
Power Efficiency :ค่าที่ทำให้เวลาเราใช้สกิลแล้วใช้ Energy น้อยลง
Power Duration :ค่าที่ทำให้เวลาเราใช้สกิลแล้ว สกิลอยู่กับเรานานขึ้น
Power Range :ค่าที่ทำให้สกิลของเรา แสดงผลไกลขึ้น
Shield Recharge : ค่าที่ทำให้Shield ของเรา รีเจนไวขึ้น
Sprint Speed :ความเร็วในการวิ่ง
ทั้งนี้ยังมีค่าอื่นๆเช่น KnockbackRecovery/Resistance,ElementalResist หรือแม้แต่ความเร็วในการร่ายสกิลอีกด้วย
ตัวอย่างค่าสเตตัสที่โชว์ของ Sentinel และ Kubrowครับ
ค่าสเตตัสต่างๆของอาวธประชิด
Capacity และConclave ได้กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว
Attack Speed : ค่าที่บอกว่าเราโจมตีกี่ครั้งใน 1 วินาที
Channeling Cost : ค่า Energyที่ต้องใช้ในการโจมตีแบบ Channeling(คลิ๊กซ้ายในขณะถืออาวุธประชิด)
Channeling Damage :ค่าความเสียหายที่เพิ่มขึ้นด้วยการ Channeling(คลิ๊กซ้ายในขณะถืออาวุธประชิด,ความสียหายคิดจาก Damageพื้นฐ���น)
Critical Chance :โอกาสในการโจมตีติดคริติคอล (ถ้าหากเกิน 100%จะทำให้ความเสียหายแรงขึ้น)
Critical Multiplier :ความเสียหายที่เพิ่มขึ้นเวลาโจมตีติดคริติคอล
Leap Attack :ค่าความเสียหายในขณะที่เรากดโจมตีกลางอากาศแล้ว Warframeของเราจะพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับโจมตี
Spin Attack :ค่าความเสียหายในขณะที่เราโจมตีโดยการ Slide แล้วกดโจมตี(ทำได้ทั้งอยู่บนพื้นและกลางอากาศ)
Stamina : จำนวน Staminaที่ใช้ในการโจมตี 1 ที
Status :โอกาสที่ทำให้โจมตีแล้วติดสถานะพิเศษขึ้นมา
Throw Attack :ความเสียหายเมือผู้เล่นทำการโยนอาวุธ (Glaive,Kestrel,Halikar)หรือทำการยิงปืน (Redeemer)
Wall Attack :ความเสียหายเมื่อผู้เล่นทำการโจมตีในขณะที่ไต่กำแพงอยู่
Impact : ค่าความเสียหายกายภาพถ้าหากโจมตีแล้วติดสถานะ Impactจะทำให้ศัตรูกระเด็นไปข้างหลังเล็กน้อย
Puncture :ค่าความเสียหายกายภาพ ถ้าหากโจมตีแล้วติดสถานะ Punctureจะทำให้ศัตรูอ่อนแอลงชั่วขณะ (ทำความเสียหายใส่เราได้น้อยลง30%)
Slash : ค่าความเสียยหายกายภาพถ้าหากโจมตีแล้วติดสถานะ Slash จะทำให้เสียเลือดเป็น DamageOvertime
Elemental Damage(ในที่นี้ยกตัวอย่างเป็น Cold) : ค่าความเสียหายแบบธาตุแต่ละธาตุจะให้ผลเมื่อติดสถานะต่างกันไป โดยในตัวอย่างนี้ถ้าหากติดสถานะของธาตุ Cold จะทำให้การโจมตีและการเคลื่อนไหวช้าลง40%
Combined Elemental Damage(ในที่นี้ยกตัวอย่างเป็น Radiation) : ค่าความเสียหายโดยการนำธาตุ 2ธาตุมาผสมนกัน แต่ละธาตุจะให้ผลเมื่อติดสถานะต่างกันไปโดยในตัวอย่างนี้ ถ้าหากติดสถานะของธาตุ Radiationจะทำให้ศัตรูหันไปโจมตีพวกเดียวกันได้แล้วยังทำความเสียหายใส่เราได้น้อยลง
นอกจากนี้ยังมีค่าสถานะที่ไม่ได้โชว์ เช่น การParry,ความเร็วในการปากงจักร,จำนวนครั้งในการชิ่งของกรงจักร,หรือแม้แต่ความเสียหายที่เพิ่มขึ้นเมื่อโจมตีเผ่าใดเผ่าหนึง
ค่าสเตตัสต่างๆของอาวุธปืน(ถึงอาวุธบางชนิดจะไม่เหมือนปืนก็เถอะ)
ค่าสเตตัสหลายๆอย่าง ได้พูดถึงในข้างต้นแล้วทีนี้เราจะมาเจาะลึกกับค่าที่เหลือกันครับ
Accuracy : หรือค่าความแม่นยำโดยปกติแล้ว ในเกมนี้ค่าความแม่นยำขั้นต่ำที่ยิงแล้วจะตรงเป้าที่สุดอย่างน้อยคือ 28.6ยิ่งค่าความแม่นยำสูงมาก เวลาใส่ Mod Heavy Caliber/Magnum Forceจะทำให้ยิ่งยิงเฉมากขึ้น (นึกสภาพคุณใช้ Miter ที่ใส่ Heavy Caliberแล้วยิงดูครับ)
Fire Rate : อัตราการยิงใน 1วินาที ถ้าหากน้อยกว่า 1ส่วนใหญ่จะเป็นอาวุธที่ต้องทำการชาร์จก่อนยิง
Magazine :จำนวนกระสุนที่บรรจุไว้ใน 1 แม็ก
Magazine Max :เป็นค่าที่ไม่ได้แสดง แสดงจำนวนกระสุนสูงสุดที่เราสามารถมีได้โดยทั่วไปแล้ว ปืนไรเฟิลจะมีความจุของกระสุนสูงสุดที่ 540นัดลูกซองที่ 120 นัดปืนพก 210 นัดและสไนเปอร์กับธนูที่ 72นัด
Reload :ระยะเวลาเปลี่ยนแม็คกาซีน
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมในรูปนี้ถึงไม่มีความเสียหายจำพวก Impact,Puncture,Slashนั่นก็เพราะว่าตัว Lanka นั้น ความเสียหายหลักคือธาตุไฟฟ้านั่นเองโดยในภาพนั้น ได้ทำการผสมให้กลายเป็นธาตุ Magneticนั่นเองครับ
ก็หวังว่าวามนี้น่าจะช่วยให้เข้าใจกับค่าต่างๆภายในเกมมากขึ้นนะครับ
สำหรับบทความหน้า ก็คงจะพูดถึง Polarityและการใส่ Mod ใน Warframe ให้มีประสิทธิภาพ สำหรับวันนี้คงหมดเวลาสนุกแล้ว ลาไปก่อน สวัสดีครับ (>.< )/