หลังจากที่ตัวเกมเปิดให้บริการบน Steam ไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จนบัดนี้ความนิยมของตัวเกม Black Desert ก็ยังไม่มีการเสื่อมคลายลงเลย ทางค่าย Pearl Abyss จึงขอออกมาการันตีถึงความสำเร็จเสียหน่อย
โดย Kyung In Jung ผู้เป็น CEO ของ Pearl Abyss เผยว่าในขณะนี้ Black Desert เป็นเกมที่เปิดให้บริการกว่า 100 ประเทศบน 7 ภูมิภาคของโลก โดยมียอดลงทะเบียนตัวเกมสูงถึง 7,650,000 คน และมันสามารถสร้างผลกำไรให้กับบริษัทได้มากถึง 301,000,000 เหรียญสหรัฐ แต่นับจากนี้ไปตัวเกมจะต้องยอมจ่าย 1,000,000 เหรียญสหรัฐให้กับ Steam โดยตั้งแต่เปิดตัวบน Steam มา ตัวเกมมียอดดาวน์โหลดสูงถึง 530,000 ครั้ง
"ทุกค่ายเกมเริ่มสร้างเกม Online เป็นระบบพื้นฐาน โดยเน้นไปที่กราฟฟิกคุณภาพสูงเป็นหลัก และทุกค่ายต่างพัฒนาเครื่องมือเฉพาะของตนเองขึ้นมา"
Kyung In Jung กล่าวเสริม
ด้วยความสำเร็จของเกม MMORPG เกาหลีในฝั่งตะวันตก ทำให้ทางค่าย Pearl Abyss มีเกม MMO มากถึง 4 โปรเจคที่กำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้ โดยเกมเกมแรกจะเปิดตัวในปี 2018 ส่วนอีก 3 เกมที่เหลือจะเปิดตัวในปี 2019, 2019 และ 2021 ตามลำดับ โดยขณะนี้ยังไม่มีอะไรออกมาชี้ชัดว่าตัวเกมจะเป็นเกม PC หรือไม่
เหตุใด Black Desert จึงกลายเป็นเกมที่ประสบความสำเร็จ ?
หากเราพูดถึงที่ตัวเกมเป็นหลัก ความโดดเด่นของ Black Desert ที่ใครๆ ต้องเหลียวตามองก็คือระดับของกราฟฟิกภายในเกม ที่เรียกได้ว่าคงหาคู่ปรับในเกมลักษณะเดียวกันมาสู้ด้วยยาก และเมื่อใครก็ตามรู้ว่ามันจะเป็นเกมแนว Action MMORPG แบบ Open World ก็ยิ่งทำให้ตัวเกมดูมีความโดดเด่นและน่าติดตามมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม สุดท้ายด้วยอะไรอีกหลายร้อยอย่างภายในตัวเกม มันจึงสามารถผลักดันความสนุกที่ผู้เล่นอยากได้จากเกมแนวนี้ออกมาได้ถึงจนขีดสุด
ปล. อีกไม่นานเกมเมอร์ชาวไทยเองก็จะได้สัมผัสมัน