Call of Duty: Black Ops Cold War ยังสามารถรองรับการเล่นข้ามแพลตฟอร์มระหว่าง PC [Battle.net], PlayStation 4 และ Xbox One รวมไปถึงเล่นข้ามแพลตฟอร์มบนเครื่องคอนโซลรุ่นใหม่อย่าง PlayStation 5 และ Xbox Series X ในช่วงปลายปีเช่นกัน ซึ่งมันเป็นเกมที่สร้างมาเพื่อเกมยุค Next-Gen โดยเฉพาะ จึงทำให้มันรองรับฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างไม่มีการโหลดหน้าจอหรือตัดฉากระหว่างเล่นใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมรองรับการแสดงผลที่ 4K 120Hz (แน่นอนว่าที่กล่าวมานั้นเฉพาะบน PlayStation 5 และ Xbox Series X เท่านั้น)
Call of Duty: Black Ops Cold War ยังอัพเดทคอนเทนต์และแจกเนื้อหาเสริม [DLC] ให้กับผู้เล่นแบบฟรีๆ พร้อมกับระบบ Battle Pass ที่ยังคล้ายคลึงกับเกม Call of Duty: Modern Warfare (ฉบับรีบูท 2019) อีกทั้งยังมีการนำตัวละครในเกมภาคดังกล่าวไปปรากฎตัวในเกม Call of Duty: Warzone ด้วยเหมือนกัน ทว่ามันไม่ได้ถูกพัฒนาด้วยเอนจิ้นใหม่จากทีมพัฒนา Infinity Ward แต่มันถูกพัฒนาด้วยเอนจิ้นใหม่จากทีมพัฒนา Treyarch โดยตรงเลยต่างหาก ซึ่งความจริงแล้วเกมนี้เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 2015 ที่เอาเอนจิ้นจากเกม Call of Duty: Black Ops 3 มาทำการปรับปรุง - ซ่อมแซม - สร้างใหม่ให้ได้คุณภาพกราฟิกที่ดียิ่งขึ้น แต่จะออกมาดีหรือไม่นั้นก็คงต้องลองเล่นกันเอาเองแล้วล่ะค่ะ
4. ราคาที่แพงขึ้นไปตามเทคโนโลยีและกาลเวลา
Call of Duty: Black Ops Cold War เปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าแล้วทั้งบนแพลตฟอร์ม PC [Battle.net], PlayStation 4 และ Xbox One โดยราคาของตัวเกมแพ็คเกจ Standard Edition อยู่ที่ประมาณ $59.99 หรือแปลงเป็นเงินไทยประมาณ 1,875 บาท เพียงแต่สำหรับเครื่องคอนโซลรุ่นใหม่อย่าง PlayStation 5 และ Xbox Series X จะทำการปรับราคาของตัวเกมแพ็คเกจ Standard Edition อยู่ที่ประมาณ $69.99 หรือแปลงเป็นเงินไทยประมาณ 2,189 บาท ส่วนใครที่เป็นสายซื้อเกมแบบดิจิตอลล่ะก็ มันจะมอบสิทธิพิเศษที่หลายๆ คนคาดไม่ถึงเลยทีเดียว นั่นก็คือ ถึงแม้ว่าเราจะเล่นเกมนี้ในแพลตฟอร์ม PlayStation 4 และ Xbox One ก็ยังสามารถอัพเกรดคุณภาพกราฟิกให้เทียบเท่ากับแพลตฟอร์ม PlayStation 5 และ Xbox Series X ด้วยการเสียค่าอัพเกรดประมาณ $10 หรือแปลงเป็นเงินไทยประมาณ 315 บาท ซึ่งข้อมูลเบื้องลึกจะประกาศเพิ่มเติมในภายหลัง
5. เป็นเกมที่ใช้ทีมพัฒนาเยอะที่สุดเท่าที่เคยมีมา
Call of Duty: Black Ops Cold War ถือเป็นเกมในเครือ Activision ที่ใช้ทีมพัฒนาในการสร้างเกมนี้เยอะที่สุดเท่าที่เคยมีมา อาทิเช่น Treyarch [พัฒนาโหมด Multiplayer], Raven Software [พัฒนาโหมดเนื้อเรื่อง] แล้วก็การพัฒนาส่วนประกอบต่างๆ จากทีมพัฒนา High Moon Studios, Beenox, Activision Shanghai และ Sledgehammer Games Call of Duty: Black Ops Cold War กำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 13 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ทั้งบนแพลตฟอร์ม PC [Battle.net], PlayStation 4 และ Xbox One รวมถึงเครื่องคอนโซลรุ่นใหม่อย่าง PlayStation 5 และ Xbox Series X ในช่วงปลายปีที่จะถึงนี้ หากมีรายละเอียดเพิ่มเติมเมื่อไหร่ล่ะก็ ทามาโมะจังและทีมงาน PlayUlti จะรีบกลับมาแจ้งให้ทราบทันทีค่ะ (รายละเอียดโหมด Multiplayer จะมาในวันที่ 9 กันยายนที่จะถึงนี้) ที่มาข่าว :Charlie INTELที่มาภาพ : Activision - 1, Activision - 2