[รีวิว] Resident Evil Village ภาคที่ต่อยอดความสำเร็จและทะเยอทะยานที่สุดเท่าที่เคยมีมา!

onkami 12 May 2021, 18:46:00
ข่าวเกม PC Review Game Console ข่าวเกม Console


เรียกว่าเป็นเกมแฟรนไชส์ดังที่ปีนี้ก็ครบรอบ 25 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ สำหรับเกม “Resident Evil” ซึ่งตอนนี้ภาคล่าสุดอย่าง ‘Resident Evil Village’ ก็ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว ในช่วงแรกที่เปิดตัวก็ทำเอาเกมเมอร์สายคอนโซลรุ่นเก่าอย่าง PlayStation 4 กับ Xbox One ต่างกังวลว่า ‘ภาคนี้จะวางจำหน่ายเฉพาะแพลตฟอร์มคอนโซลรุ่นใหม่กับพีซีหรือเปล่า!?’ ซึ่งภายหลังทาง Capcom ก็ออกมายืนยันว่าภาคนี้ยังวางจำหน่ายบนเครื่องเกมแพลตฟอร์มรุ่นเก่าอยู่ จะเรียกว่าเป็นภาคส่งท้ายก็ได้เหมือนกันนะคะ เอาละ วันนี้อาเจ๊นัทจะมารีวิวในมุมมองของตนเองกับภาคนี้ให้เพื่อน ๆ ได้ทราบกันค่ะ


 
เนื้อเรื่องที่เล่าเรื่องราวเชื่อมต่อจากเหตุการณ์เดิม



โดยตัวเกม “Resident Evil Village” เป็นเหตุการณ์ปี 3 หลังจาก Resident Evil 7 ที่ตัวละครหลักจากภาคที่แล้วอย่าง “อีธาน วินเทอร์ส” ชายหนุ่มธรรมดา ๆ ที่ต้องตามหาแฟนของตนเองที่อย่าง “มีอา วินเทอร์ส” ส่งข้อความปริศนามาแบบที่ใครเห็นก็ต้องไปตามหาอยู่ดี หลังจากผ่านเหตุการณ์เลวร้ายในครั้งนั้นตัวเขาเองก็มี “คริส เรดฟิลด์” ( หน้ากลับมาหล่อล่ำแบบเวอร์ชั่นปกติแล้วนะ ) เดิมทีเขาเองได้ทำงานให้กับหน่วย BSAA แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไปทำอะไรให้เบื้องบนไม่พอใจ ส่งผลทำให้คริสได้ลาออกแล้วดูแลอีธานและมีอาอยู่ห่าง ๆ แถมตัวอีธานก็มีการฝึกฝนในการต่อสู้และการใช้อาวุธประเภทต่าง ๆ เรียกว่า ‘ตอนนี้เขาก็มีสกิลในการต่อสู้ระดับหนึ่ง’


 
แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่งคริสเองก็ได้บุกมาที่บ้านของอีธานและมีอา พร้อมสังหารมีอาอย่างเหี้ยมโหด แถมยังจับ “โรสแมรี วินเทอร์ส” ลูกของทั้งสองคนไปอีกด้วย ตัวอีธานก็ถามคริสว่าทำแบบนี้ทำไมแต่สุดท้ายก็ไม่ได้คำตอบ จนกระทั่งอีธานมารู้สึกตัวอีกทีก็พบว่ารถที่คริสสั่งให้พาตัวเขาไปสถานที่แห่งหนึ่งเกิดอุบัติเหตุ แล้วตัวอีธานก็พบว่า “ฝันร้ายที่แท้จริงกลับมาหลอกหลอนเขาอีกครั้งจนได้!”


 
ถ้าให้พูดตามหลักความเป็นจริงเลย เนื้อเรื่องของตัวเกม “Resident Evil Village” การเล่าไม่ได้มีอะไรที่ซับซ้อนขนาดนั้น เพราะถ้าลองดูจริง ๆ มันจะมีเพียงแค่อีธานออกตามหาความจริงและช่วยเหลือโรสลูกสาวของเขากลับมาอย่างปลอดภัยเท่านั้น เพียงแต่ระหว่างทางมันมีเหตุการณ์ที่จะเฉลยปริศนาที่ค้างคามาจากภาคที่แล้ว พร้อมกับเป็นการจบสรุปของตัวละครบางตัวจากภาคที่แล้วด้วย แต่ก็มีการพูดถึงตัวละครและอะไรบางอย่างที่แฟนเกมนี้เห็นแล้วต้อง WTF กันเป็นแถว ๆ แน่นอน



รูปแบบเกมเพลย์ยังคงเป็นมุมมองบุคคลที่ 1
 
ด้วยความที่ว่าตัวเกม “Resident Evil Village” มันคือเรื่องราวต่อจากภาคที่แล้ว ส่งผลทำให้ทาง Capcom ยังคงเลือกใช้มุมมองการเล่นในรูปแบบบุคคลที่ 1 หรือที่เรียกกันว่า ‘FPS’ ซึ่งมุมมองแบบนี้เราจะไม่สามารถเห็นรายละเอียดด้านข้างชัดเจนเหมือนภาคหลักก่อนหน้านี้ อีกทั้งมันก็เป็นข้อเสียตรงที่ผู้เล่นบางคนไม่ถนัดการเล่นมุมมองแบบนี้ ถ้าถามว่ารูปแบบมุมมองการเล่นพัฒนาจากเดิมหรือเปล่า!? อาเจ๊นัทก็ตอบตรง ๆ ว่า ‘พัฒนาจาก Resident Evil 7 อย่างเห็นได้ชัดเจน’ ความลื่นไหลของตัวละคร หรือ การออกท่าทางตอนใช้อาวุธทำได้ดีมาก ๆ มันเลยส่งผลทำให้รู้สึกว่าตัวละครอีธานก็พัฒนาไปพร้อม ๆ กับตัวเกมด้วยเช่นกัน


 
ในเรื่องของเกมเพลย์ตัวเกม “Resident Evil Village” ทำออกมาได้ดี อาวุธปืนของภาคนี้ดูจริงจังมากขึ้น ไม่ดูโก๊ะกังแบบภาคที่แล้ว การออกแบบอาวุธในภาคนี้เลยดูทันสมัยแถมเรายังสามารถหาอุปกรณ์เสริมมีเพิ่มประสิทธิภาพของอาวุธปืนเราได้ด้วย แล้วถ้าอยากจะให้อาวุธปืนของเรามีพลังโจมตีที่ประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม ก็สามารถ ‘อัปเกรดอาวุธปืน’ ที่ทาง Capcom ได้หยิบนำระบบจาก Resident Evil 4 มาปรับปรุงแล้วให้ใช้งานได้ดีมากยิ่งขึ้น ปืนไหนที่เราเคยอัปเกรดไปแล้วแต่ไม่ได้ใช้ก็สามารถขายทิ้ง โดยที่อาวุธชิ้นนั้นค่าการอัปเกรดจะคงเดิมอีกด้วย


 
หยิบของเก่ามาต่อยอด แล้วทำออกมาเจ๋งซะด้วย!
 
สิ่งที่จะพูดต่อไปนี้ก็คือระบบต่าง ๆ ที่ทาง Capcom หยิบนำมาต่อยอดไม่ว่าจะเป็นเรื่องอินเตอร์เฟสที่เราเห็นได้ชัดเจนเลยว่า “Resident Evil Village” จงใจอย่างมากที่จะเอาหลาย ๆ ข้อดีของ Resident Evil 4 มาปรับปรุงตั้งแต่ระบบอัปเกรดอาวุธ, การจัดเรียงไอเทมในช่องเก็บของ, การแบ่งหน้าต่างการสร้างไอเทมไม่เอามารวมกันในหน้าเดียว



ซึ่งมันเป็นข้อดีเพราะผู้เล่นจะสามารถจัดสรรทรัพยากรที่ต้องการได้อย่างอิสระ มันก็ทำให้รู้สึกแอบคิดอยู่ลึก ๆ เหมือนกันว่า “การออกแบบ UI ใหม่ที่อ้างอิงของเดิมแบบนี้ข่าวลือที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้เกี่ยวกับ Resident Evil 4 ฉบับรีเมคคงจะจริงละมั้งเนี่ย!?” คงเป็นเพราะอาเจ๊นัทมองเห็นว่าพวกเขาจริงจังกับการแก้ไขจุดเด่นที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไปอีก แปลว่าพวกเขาวางแผนเอาไว้แล้วว่าสิ่งพวกนี้อาจจะนำถูกไปใช้กับภาคใหม่ในอนาคตก็เป็นได้



กราฟฟิกภายในเกมที่ถูกพัฒนาไปตามตัวละครและยุคสมัย!
 
สำหรับตัวเกม “Resident Evil Village” ทาง Capcom ก็ยังคงเลือกใช้ ‘RE Engine’ ในการพัฒนาเหมือนเดิม ซึ่งก็เป็นเวอร์ชั่นใหม่ที่อัปเกรดทำให้การแสดงผลของกราฟฟิกภายในเกมสวยงามมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะเล่นบนแพลตฟอร์มพีซีสเปกสูง หรือ เครื่องเกมคอนโซลรุ่นใหม่ก็สามารถสัมผัสประสบการณ์แสง สี และ กราฟฟิกของภาคนี้ได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้าใครที่สเปกคอมรองลงมา หรือเล่นบนเครื่องเกมคอนโซลรุ่นเก่าก็ยังสามารถเล่นเกมนี้ได้อย่างลื่นไหลไม่มีที่ติเลย เรื่องการแสดงผลโดยรวมทำออกมาได้ดีมาก ๆ บางฉากที่เราจะต้องเผชิญกับความมืดที่มองไม่เห็น มันก็ทำให้เรารู้สึกกลัวว่าข้างนอกที่มันมืด ๆ อยู่จะมีอะไรโผล่มาจ๊ะเอ๋ให้เราตกใจบ้างหรือเปล่า รวม ๆ แล้วเรื่องกราฟฟิกในภาคนี้หายห่วงจริง ๆ ค่ะ


 
การกลับมาของโหมด The Mercenaries ที่ผสมผสานลูกเล่นได้สนุกลงตัวซะจริง!
 
ก่อนที่เราจะไปพูดสรุปกันสิ่งหนึ่งที่ตัวเกม “Resident Evil Village” ใส่เข้ามาก็คือ ‘The Mercenaries Mode’ โหมดที่เกมเมอร์แฟน ๆ ซีรีส์ผีชีวะต่างเรียกร้องให้นำกลับมาอีกครั้ง โดยในภาคนี้ก็มีการปรับปรุงลูกเล่นที่แปลกใหม่มากยิ่งขึ้น ท้าท้ายผู้เล่นมากกว่าเดิม ซึ่งโหมดนี้จะปลดล็อคได้ต่อเมื่อผู้เล่นจบเนื้อเรื่องหลักโหมดไหนก็ได้ จากนั้นนำแต้ม CP ไปซื้อเพื่อปลดล็อคโหมดนี้ก็สามารถเล่นสนุกได้แล้วค่ะ การเล่นของโหมดนี้จะแบ่งออกเป็นด่าน ๆ โดยเราจะต้องหาทางจัดการมอนสเตอร์ในแต่ละด่านให้หมด พยายามรักษาคอมโบเพื่อที่จะนำไปสรุปคะแนนในช่วงท้าย แต่ที่ภาคนี้พิเศษมากกว่านั้นก็คือการเพิ่มจะมีเสาที่จะเพิ่มความสามารถให้กับตัวละครอีธานของเราแข็งแกร่งเหนือมนุษย์ เช่น เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่, เพิ่มความเร็วในการโหลดกระสุน, เพิ่มความรุนแรงของอาวุธปืนแต่ละชนิด, เพิ่มพลังชีวิต หรือ เพิ่มพลังป้องกัน เป็นต้น


 
ซึ่งต้องยอมรับว่า ‘The Mercenaries Mode’ ของภาคนี้มันสนุกใช้ได้เลยทีเดียว ผู้เล่นจะต้องหาวิธีเพื่อเก็บคะแนนให้มากที่สุดเพื่อที่จะปลดล็อคปริศนาและด่านใหม่ ๆ เข้ามา ซึ่งบอกเลยว่ามันจะมี ‘ด่านเดิมแต่เพิ่มความยากขึ้นไปอีกระดับ’ ตรงจุดนี้ผู้เล่นจะต้องอาศัยทั้งดวงและฝีมืออย่างมากเพื่อที่จะเล่นให้ผ่าน เอาเป็นว่าเป็นโหมดที่ออกแบบมาได้สนุกและหัวร้อนได้ในเวลาเดียวกันเลยค่ะ


 
สรุป



ต้องพูดตามตรงว่า “Resident Evil Village” มันคือความทะเยอทะยานที่ Capcom ต้องการพิสูจน์ให้เราได้เห็นว่า ‘การเปลี่ยนแปลงแม้จะน่ากลัว แต่มันก็น่าลงทุนเพื่อต่อยอดในสิ่งที่มี’ อาเจ๊นัทมองว่าตัวเกมในภาคนี้ได้หยิบเอาหลากหลายอารมณ์ชนิดที่คนเล่นรอบแรกแบบไม่เคยดูใครเล่นมาก่อน ต้องตื่นเต้นระทึกใจ แล้วอาจจะมีกรี๊ดแตกบ้างเป็นระยะ ๆ ค่ะ เนื้อเรื่องมันก็ช่วยเฉลยบางอย่างบางอย่างที่ค้างคาจาภาคที่แล้ว แต่ก็มีปริศนาใหม่ ๆ มาให้ผู้เล่นได้ลุ้นกันต่อว่า ‘สรุปแล้วเรื่องราวมันจะเป็นยังไงต่อน้า!?’ แล้วที่เซอร์ไพร์สเกมเมอร์มากที่สุดคือ ‘ตัวเกมรองรับภาษาไทยด้วยนะ!’ เห็นว่าตอนนี้กำลังจะมีการแก้ไขคำแปลผิดกับคำที่ใช้ไม่ถูกต้องให้ดีมากขึ้นด้วย เอาเป็นว่าหลังจากนี้รักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ ๆ เราจะต้องเล่นเกมซีรีส์จนกว่ามันจะจบสมบูรณ์ ( ทำไมได้ยินเสียงลอยมาไกล ๆ ว่าระวังมันรีเมค ๆ ๆ ๆ น้า 555+ ) 
 
สำหรับใครที่ที่ต้องการจะสั่งซื้อเกม “Resident Evil Village” บนแพลตฟอร์ม PC [Steam] รูปแบบดิจิตอลดาวน์โหลดที่ราคาถูกกว่าในร้านค้าของ Steam สามารถ คลิกซื้อได้ที่นี่ เลยค่ะ ส่วนแพลตฟอร์ม PlayStation 4 หรือ PlayStation 5 สามารถซื้อในแพ็คเกจเดียวกันได้เลยค่ะ เรียกว่าเล่นบนเครื่อง PlayStation 4 แล้วถ้าวันใดวันหนึ่งเรามีเครื่อง PlayStation 5 ก็สามารถที่จะนำไปเล่นได้เลย สามารถ คลิกหรือดูสินค้าได้ที่นี่ เลยจ้า


กำลังโหลด...