ในฐานะที่ผู้เขียนเป็นหนึ่งในเกมเมอร์คนหนึ่งที่หลงรักเกมแนว Sandbox เป็นอย่างมาก ซึ่งแน่นอนว่าหลายๆ คนคงเคยสงสัยกันใช่ไหมครับว่า Sandbox นั้นหมายถึงอะไร ? คำว่า Sandbox ในที่นี้หมายถึงการเล่นได้เรื่อยๆ หรือไม่รู้จบ ใช่ครับมันคือเกมที่ไม่มีวันจบ คุณจะได้ทำอะไรต่างๆ มากมายในเกมเหล่านี้ ซึ่งมันสามารถทำให้เราหมดเวลาไปอย่างรวดเร็วมากๆ เพราะฉะนั้นวันนี้ "หยุดนี้เล่นไรดี !?" จึงขอนำเสนอ "5 เกม Sandbox ราคาเบาสุดแจ่ม" ที่จะกลืนวันหยุด 2 วันนี้ของคุณให้หายไปในพริบตา
เกมที่ 1 : Tree of Life
ราคา : 258.30 บาท
"สร้างสังคม และบุกทะลุยกันอย่างรุนแรง"
Tree of Life ถือเป็นเกมที่พึ่งเปิดให้บริการแบบเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา แน่นอนว่ามันจะถือเป็นการกลับมาของเหล่าผู้เล่นส่วนใหญ่อีกครั้งหนึ่ง สำหรับ Tree of Life ถือเป็นเกมสำรวจโลกขนาดใหญ่ที่เราจะได้ค้นพบสิ่งต่างๆ มากมาย จุดเด่นของเกมเกมนี้คือการมีปฎิสัมพันธ์กับผู้เล่นคนอื่นๆ ผ่านการสร้างสังคมร่วมกัน และวางแผนปะทะกับผู้เล่นอื่นๆ อีก 3 ฝ่าย
ไม่มีเหตุผลอันใดที่ผมจะไม่แนะนำเกมเกมนี้เป็นลำดับแรก เพราะด้วยการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ การเล่นร่วมกันของผู้เล่นคนอื่นๆ รวมไปถึงระบบการสร้างสังคมร่วมกัน มันจึงถือเป็นเกม Sandbox ที่สามารถดูดเวลาคุณได้เยอะมากๆ และยิ่งคุณมีเพื่อนเล่น หรือในเกมมีคนเล่นอยู่จำนวนมาก คุณจะรู้สึกสนุกกับตัวเกมมากกว่าเดิม
ราคา : 369 บาท
"ล่าบอส ปราบมอน สร้างบ้าน เชิญเกมนี้ !!"
หาก Tree of Life คือโลกอันกว้างใหญ่ที่รองรับผู้เล่นได้หลากหลายคน Portal Knights ก็คือโลกแฟนตาซีที่เราสามารถเล่นร่วมกับเพื่อนๆ ของเราได้มากถึง 4 คน ในการผจญภัย สร้างที่อยู่อาศัย ปราบบอส และตะลุยดันเจี้ยนต่างๆ ที่อยู่ทั่วโลก เรียกได้ว่าใครอยากหาเกม RPG เล่นกับเพื่อนๆ Portal Knights คือเกม Sandbox ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นอย่างนั้นโดยเฉพาะ
สิ่งที่ผมหยิบเกมนี้มานำเสนอ ก็เพราะด้วยความที่ตัวเกมเป็น Sandbox ขนาดเล็ก หรือถ้าพูดตามตรงก็คือมันเป็นเกมที่เราจะได้สวมบทบาทเป็นอาชีพที่ต้องการ ผจญภัยไปยังที่ต่างๆ ก่อร่างสร้างตัว ปราบบอสและสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ขึ้นมา หรือพูดเป็นอีกนัยได้ว่า คุณสามารถเล่นเกมเกมนี้คนเดียวได้สนุกกว่าเล่น Tree of Life คนเดียวนั่นเอง
ราคา : 315 บาท
"ออกเดินทางสู่ดาวดวงใหม่ที่สุดแสนจะตื่นเต้น"
ใน 5 เกมที่ผมเลือกมาให้ผู้เล่นได้สัมผัสนี้ Planet Explorers ถือเป็นเกมที่มีกราฟฟิกงดงามที่สุดแล้วก็ว่าได้ จุดเด่นของเกมเกมนี้คือมันเป็นเกม Sandbox ที่มีโหมดเนื้อเรื่อง ซึ่งโหมดเนื้อเรื่องจะเป็นโหมดที่สอนเราได้รู้จักสิ่งต่างๆ ในเกมเกมนี้ ผมค่อนข้างชอบโลกของ Planet Explorers เป็นอย่างมาก เพราะมันเต็มไปด้วยสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจ และมอนสเตอร์สุดอันตราย นอกจากนี้เรายังสามารถนำไอเทมที่ทำเป็นไฟล์ ISO ไปแชร์ให้คนอื่นๆ หรือนำของคนอื่นๆ มาใส่ในเกมได้อย่างอิสระ
หาก Tree of Life คือเกมในยุคสมัยก่อน Portal Knights คือโลกแฟนตาซี Planet Explorers ก็ถือเป็นโลกอนาคตที่เต็มไปด้วยสัตว์ต่างดาว และอาวุธไฮเทคต่างๆ มากมาย ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้ตัวเกมมีความเป็น Sci-fi มากกว่าเกมไหนๆ บวกกับโหมดเนื้อเรื่องที่กินเวลาอย่างต่ำถึง 30 ชั่วโมง ผมเชื่อว่าเพื่อนๆ จะถูกกลืนเวลาไปกับเกมเกมนี้อย่างไม่ต้องแปลกใจอะไรเลย
ราคา : 459 บาท
"ยินดีต้อนรับสู่โลกแห่งเวทย์มนต์"
หากเทียบกับ 5 เกมที่นำมาในครั้งนี้ Citadel: Forged with Fire ถือเป็นเกมตัวใหม่ล่าสุดในรูปแบบ Sandbox ผสม RPG แบบเต็มรูปแบบ จุดเด่นของเกมเกมนี้คือเราจะได้เล่นเป็นจอมเวทย์ที่มีเวทย์มนต์อยู่หลากหลายบท ซึ่งสามารถนำออกมาใช้สู้กันเองได้ ที่สำคัญคือตัวเกมมีความเป็น Survival อยู่อีกด้วย ซึ่งนั่นหมายความว่าคุณสามารถตาย และต้องกลับไปเล่นตั้งแต่ต้นนั่นเอง
หากใครเคยสัมผัส ARK: Survival Evolved มาก่อน เชื่อว่าหลายๆ คนคงคิดว่าเกมเกมนี้มีความเหมือนตัวเกม ARK อยู่พอสมควร ใช่ครับเพราะระบบส่วนใหญ่ก็คล้ายๆ กัน แต่ความเจ๋งของเกมนี้คือเวทย์มนต์ที่จะปล่อยให้เราได้ใช้ได้อย่างอิสระ และถ้าใครอยากเป็นแฮร์รี่ พอตเตอร์ เกมนี้ก็ให้คุณเต็มที่กับการขี่ไม้กวาดพร้อมควงคฑาเวทย์มนต์ไล่ยิงเวทย์มนต์กันอย่างสนุกสนาน อ้ออีกอย่าง การสู้กับมังกรหรืออสูรของเกมเกมนี้ก็อลังการมากๆ เลยนะ
ราคา : 315 บาท
"เดินทางสู่จักรวาล และดวงดาวที่กว้างไกล !!"
ในทั้งหมด 5 เกมนี้ นี่คือ Sandbox ที่ผู้เขียนชอบ และหลงรักมันมากที่สุด ด้วยจุดเด่นกราฟฟิกแบบ 2D Side - scrolling ที่เต็มไปด้วยรายละเอียดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นดวงดาวนับร้อย เนื้อเรื่องที่น่าติดตาม ไอเทม หรือของคราฟนับพัน ที่สำคัญคือเราสามารถเล่นกับผู้เล่นคนอื่นๆ ได้ หรือจะเล่นคนเดียวก็สามารถเล่นได้ยอดเยี่ยมไม่ต่างกันเลย
ใน 5 เกมนี้ผมยก Starbound เป็นเกม Sandbox อันดับที่หนึ่งในดวงใจเลยก็ว่าได้ เหตุผลคือด้วยความสมบูรณ์ของระบบการเล่นต่างๆ ที่สามารถเข้าถึงเราได้อย่างลงตัว ความยากง่ายที่ไม่มากเกินไป และอิสระในการปล่อยให้ผู้เล่นสามารถทำอะไรเองได้ค่อนข้างอิสระ เพราะฉะนั้นหยุดนี้ ถ้ายังหาเกมเล่นไม่ได้จริงๆ Starbound คือหนึ่งในตัวเลือกที่คุณจะไม่ผิดหวังเลย