สวัสดีค่า เพื่อนพ้องชาว PlayUlti ทั้งหลาย วันนี้ทามาโมะจังจะมาแนะนำเกมภาคเสริมของผู้ให้กำเนิดซีรี่ย์เกมแส้ Castlevania อย่างคุณ Koji Igarashi ที่เอาไว้เล่นแก้ขัดหรือฆ่าเวลาก่อนตัวเกมภาคหลัก Bloodstained : Ritual of the Night จะพัฒนาเสร็จ ซึ่งตัวเกมภาคเสริมนั้นมีชื่อว่า Bloodstained: Curse of the Moon เกมแนว Action มุมมอง 2 มิติที่กลับมาในกราฟิก 8Bit สมัยเครื่องแฟมิคอมกันเลยค่ะ ผลงานจากทีมผู้พัฒนา 505 Games และ Inti Creates ที่พึ่งเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งตัวเกมจะน่าสนใจแค่ไหนมาติดตามกันเลยค่ะ
เนื้อเรื่องภายในเกมเราจะได้รับบทเป็นนักปราบปีศาจนาม Zangetsu ออกเดินทางไปปราบปีศาจในดินแดนต่างๆ และเป้าหมายล่าสุดของเขาคือการปราบปีศาจที่ต้องคำสาปด้วยมนต์จันทรา ซึ่งระหว่างการเดินทางเขาก็ได้ช่วยเหลือตัวละครอื่นอย่าง Miriam, Alfred และ Gebel พวกเขาร่วมมือเป็นพันธมิตรคอยช่วยเหลือในการต่อสู้ด้วยค่ะ แม้ตัวเนื้อเรื่องจะดูสั้นไปบ้าง แต่ถือเป็นสัญญาณอันดีสำหรับข้า เนื่องจากถือเป็นการชูโรงตัว Miriam ตัวละครจากภาคหลักและเป็นการปูบทตัวละครอื่นๆ ซึ่งอาจมีแนวโน้มจะมีภาคแยกของตัวเองเหมือนดั่งเกมซีรี่ส์ Castlevania ในสมัยก่อนค่ะ
ตัวเกม Bloodstained: Curse of the Moon จะเป็นรูปแบบ Action มุมมอง 2 มิติที่แม้จะให้อารมณ์เดียวกับ Castlevania แต่เข้าถึงได้ง่ายดีสำหรับเกมเมอร์ยุคเก่าและเกมเมอร์ยุคใหม่ดีค่ะ โดยระบบเกมเพลย์จะมีความคล้ายคลึงกับเกม Castlevania III: Dracula's Curse อยู่ไม่น้อย เพื่อนๆ ต้องใช้ความสามารถที่แตกต่างในการจัดการปีศาจตามความเหมาะสมหรือความถนัดของเพื่อนๆ เช่น Zangetsu ผู้ใช้ดาบถนัดโจมตีระยะประชิด, Miriam ผู้ใช้แส้สามารถโจมตีได้ทุกระยะ (เป็นตัวที่ข้าชอบที่สุด), Alfred ผู้ใช้เวทมนต์ในการโจมตีระยะไกล และ Gebel ผู้ใช้ค้างคาวเป็นอาวุธโจมตีเป็นวงกว้างนอกจากอาวุธหลักแล้วเพื่อนๆ ยังสามารถใช้สกิลอาวุธต่างๆ ได้ แต่จะมีจำนวนปริมาณจำกัดบนหน้าจอมุมบนขวา ดังนั้นเราต้องคอยหมั่นโจมตีตะเกียงเพื่อเก็บค่าพลังใช้สกิลและหากโจมตีตะเกียงสีม่วงก็จะปลดล็อคสกิลใหม่ๆ ให้เราใช้อีกด้วยค่ะ อะ ลืมไปเลยค่ะ เราสามารถเปลี่ยนตัวละครได้ตลอดเกมนะจ๊ะ เพียงแต่หากเราจะพลาดท่าทำให้ตัวละครที่เล่นอยู่ขณะนั้นตายจะไม่สามารถเรียกใช้งานได้จนกว่าตัวละครจะตายครบทุกตัว แล้วเกมเริ่มให้เราเล่นจุดที่เราตายใหม่นะคะหากใครที่เคยเล่นเกมซีรี่ส์ Castlevania มาก่อนน่าจะทราบกันดีว่าฉากในเกมดูเหมือนเรียบง่ายเป็นเส้นตรง แต่พอเล่นจริงแล้วฉากแต่ละฉากจะมีความซับซ้อนมาก มีทั้งเส้นทางแยกและเส้นทางลับที่รอให้เพื่อนๆ ไปเก็บไอเทมพิเศษที่ถูกซ่อนอยู่ และบางเส้นทางเหล่านี้เพื่อนๆ จะไปได้ก็ต่อเมื่อต้องใช้ความสารถพิเศษของตัวละคร 2 ตัว ได้แก่ Miriam ที่จะกระโดดได้สูงกว่าตัวละครอื่นและสไลด์ช่องทางแคบๆ ได้และ Gebel สามารแปลงร่างเป็นค้างคาวเพื่อข้ามไปยังฉากต่อไปได้หรือบินเข้าไปยังเส้นทางที่ตัวละครอื่นไปไม่ได้ค่ะใครที่กลัวว่าบอสในเกมนี้จะยากไหม ไม่ต้องกังวลค่ะ บอสไม่โหดเท่าเกมซีรี่ส์ Castlevania สมัยก่อน มันถูกปรับให้อยู่ในระดับความยากที่พอดีๆ ไม่โหดและไม่ง่ายจนเกินไปค่ะ ในส่วนของกราฟิกถือว่าทำเอานึกถึงกราฟิก 8Bit สมัยก่อน แต่การออกแบบฉากและรายละเอียดของตัวละครโดยเฉพาะบอสทำออกมาได้ดูดีกว่าเกมสมัยก่อนมาก รวมไปถึงดนตรีประกอบด้วยค่ะ (แม้บางจุดจะย้อมแมวจากตัวเกมภาคหลักมาใช้อยู่บ้างก็เถอะค่ะ)โดยรวมแล้วจากที่ทามาโมะจังลองไปเล่นมาวันหนึ่งเต็มๆ จนงานการไม่เป็นอันทำ ข้าขอบอกเลยว่ามันสนุกมากเล่นเพลินจนลืมเวลาไปเลยค่ะ ด้วยรูปแบบการเล่นที่หลากหลาย เส้นทางสุดซับซ้อนที่ชวนให้ค้นหา และบอสที่ยิ่งทวีคูณความท้าทายเรื่อยๆ จนแทบไม่น่าเชื่อว่ามันเกมที่เอาไว้เล่นแก้ขัดหรือฆ่าเวลาไปก่อนเลย ใครที่เป็นแฟนซีรี่ย์เกมแส้ Castlevania หรือหาเกมมาฆ่าเวลาเล่นแต่แฝงไปด้วยความสนุก Bloodstained: Curse of the Moon ถือเป็นอีกหนึ่งเกมที่อยากให้ลองเล่นดูสักครั้งค่ะ ตัวเกมวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วโลกแล้วทั้งเวอร์ชั่น PC [Steam], PlayStation 4, Xbox One, Nintendo Switch, Nintendo 3DS และ PlayStation Vitaสเปกคอมพิวเตอร์ขั้นต่ำที่ใช้ในการเล่นเกม Bloodstained: Curse of the MoonOS: Windows 7, Windows 8 และ Windows 10 Video: 512MB VRAM (NVIDIA GeForce)DirectX: Version 9 compatible video card or equivalentSound Card: DirectX Compatible