งงใจกับทีมผู้พัฒนา Xaviant จริงๆ เลยค่ะ เมื่อเกม The Culling 2 เกมแนว Battle Royale สไตล์ Hunger Games ที่ปรับไฉไลใหม่ด้วยการเพิ่มจำนวนผู้เล่นสูงสุดและรูปแบบการต่อสู้มากถึง 50 คน/ชนิด รวมไปถึงแผนที่ที่มีขนาดใหญ่กว่าภาคเก่าเป็นเท่าตัว หลังวางจำหน่ายไปแค่สัปดาห์เดียวทีมผู้พัฒนาก็ประกาศปิดให้บริการพร้อมถอดออกจากหน้าร้านค้า Steam แล้วคืนเงินให้ผู้เล่นที่เสียไปทั้งหมดคืนเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ
โดยคุณ Josh Van Veld หนึ่งในทีมผู้พัฒนา Xaviant ได้ส่งคลิปวิดีโอข้อความส่งมาถึงเกมเมอร์ว่า “พวกเราเสียใจเป็นอย่างมากต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เราทราบแล้วว่าเหล่าเกมเมอร์ทุกคนไม่พอใจเกม The Culling 2 ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนต้องการเลย ทางเราไม่มีความสุขเลยเมื่อได้ทราบความรู้สึกที่มีต่อเกมของเราและไม่มีความสุขในการพัฒนาเกมนี้ต่อ เพราะรู้สึกมืดมนไร้หนทางไปต่อ ดังนั้นเราจึงยุติการพัฒนาทั้งหมด หันไปมุ่งเน้นสิ่งที่เกมเมอร์ต้องการมากที่สุดนั้นก็คือ The Culling ต้นตำรับนั้นเอง เราจะนำความผิดพลาดในครั้งนี้ไว้เป็นบทเรียนเตือนใจ” 
หลังจากสิ้นสุดการบรรยาททำให้เรารู้ว่าทีมผู้พัฒนาจะนำ The Culling ต้นตำรับกลับมาพัฒนาใหม่ โดยเริ่มตั้งตัว Test Server ให้เพื่อนๆ มาทดสอบแล้วรับฟังเสียงตอบรับและความคิดเห็นของผู้เล่นมาพัฒนาส่วนที่ควรต้องปรับปรุง จากนั้นทีมผู้พัฒนาก็จะปล่อยตัวอัพเดตแพทช์ใหม่ให้กับ The Culling ต้นตำรับเพื่อให้ตัวเกมกลับมาเป็นเกมที่ทุกคนชื่นชอบอีกครั้งหนึ่ง ที่สำคัญทีมผู้พัฒนาจะเปิดให้เพื่อนๆ ได้เล่น The Culling ต้นตำรับกันฟรีๆ ด้วยค่ะ เกมเมอร์สายฟรีก็เตรียมตัวรอกันได้เลย หากตัวเกมมีข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมเมื่อไหร ทามาโมะจังและทีมงาน PlayUlti จะรีบมาแจ้งให้ทราบทันทีค่ะ
สาเหตุที่ The Culling 2 ล้มเหลวไม่เป็นท่า ผู้เล่นต่างประเทศได้แสดงความคิดเห็นผ่านหน้าร้านค้า Steam ว่า "ตัวเกมประสบปัญหาแบบเดียวกับ H1Z1 คือ เซิร์ฟเวอร์ไม่มีความเสถียรและระบบเกมเพลย์ที่ออกแบบมาแย่", "มันทำลายเสน่ห์ดั้งเดิมของ The Culling ไปหมดเลย มันไม่ใช่อะ", "เกมกินทรัพยากรเครื่องหนักมากเกินความจำเป็น แถมกราฟิกก็ไม่ได้สวยอะไรมากนัก ขนาด PUBG Mobile กราฟิกยังสวยกว่าเห็นๆ", "รู้สึกผิดหวังมากที่ทอดทิ้ง The Culling แล้วมาสร้างเกมภาคต่อ ซึ่งตัวเกมมันก็ไปลอกเกมอื่นๆ มาอีกทีจนไม่รู้สึกแปลกใหม่เลยสักนิด" และ "เอาเวลาไปพัฒนา The Culling ให้ดีขึ้นใหม่เถอะ สักพักเดี๋ยวตัวเกมก็ร้างแล้ว เสียเวลาเปล่าๆ" ซึ่งทามาโมะก็รู้สึกเห็นด้วยกับพวกเขาทุกคนนะค่ะ เพราะเกมแนว Battle Royale มีให้เล่นเยอะจนรู้สึกเอียนแล้ว ที่สำคัญหากตัวเกมไม่สร้างความแปลกใหม่กว่าเกมอื่นก็ไม่มีใครสนใจ เนื่องจากมันซ้ำซากจำเจนั้นเองค่ะ
