Post-Apocalyptic ธีมโลกหลังหายนะ ทำไมถึงยังฮิตยอดนิยมแก่วงการเกมจวบจนทุกวันนี้

สวัสดีค่า เหล่าพ้องเพื่อนชาว PlayUlti ทั้งหลาย ทามาโมะจังเองค่า ในวันนี้ข้าอยากจะมาพูดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับ ธีมโลกหลังหายนะ [Post-Apocalyptic] ซึ่งคิดว่าใครหลายๆ คน อาจจะเห็นผ่านมาตาบ้างในหลายๆ เกมดัง หลายๆ ค่าย ไม่ว่าจะเป็น Metro Exodus, Tom Clancy's The Division 2, Dying Light 2, World War Z, Rage 2, Far Cry: New Dawn, Days Gone, Generation Zero หรือที่พึ่งวางจำหน่ายสดๆ ร้อนๆ อย่าง Fallout 76 ก็ด้วยนะคะ 

จึงทำให้เกิดข้อประเด็นกันว่าทำไมทีมผู้พัฒนาสามารถรังสรรค์เกมแนวนี้ออกมาแทบอยู่ตลอดเวลา มิหนำซ้ำยังครองใจเหล่าเกมเมอร์อย่างไม่รู้เบื่ออีกด้วย [เพราะทุกปีแทบมีแนวนี้มาให้เล่นทุกครั้ง] เมื่อเห็นแบบนี้ทำให้ข้าได้ลองไปสอบถามเพื่อนๆ รอบตัวและญาติพี่น้องทั้งหลาย จนได้คำตอบที่ส่วนใหญ่มีความเห็นไปในหลายทิศทาง ดังนั้นเลยจะเอามาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังกันว่าแต่ละคนคิดเห็นยังไงกันบ้าง

สิ่งแรกที่เพื่อนๆ ทุกคนโดยส่วนใหญ่มีความเห็นไปในทำนองเดียวกัน นั้นก็คือ “โลกทัศน์ภายในเกม” นั่นเองค่ะ ด้วยการที่ทีมผู้พัฒนาสามารถรังสรรค์เรื่องราวของโลกหลังหายนะที่เกิดจากเหตุปัจจัยประกอบกันหลายอย่าง ตั้งแต่วิกฤตการณ์ทางธรรมชาติ, สงครามนิวเคลียร์, ภัยพิบัติจากโรคระบาด, ห่าฝูงซอมบี้ + สัตว์ประหลาดถล่มโลก หรือภัยพิบัติอะไรก็ตามแต่ที่นำมาซึ่งความล่มสลาย ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถปรุงแต่งบรรยากาศโดยรอบได้อย่างอิสระตามใจเราต้องการ ยกตัวอย่างเช่น ทุกอย่างล้วนเต็มไปด้วยเศษซากอารยธรรม บรรยากาศขมุกขมัวและหนาวเหน็บ หรือไม่ก็สภาพอากาศแห้งแล้ง แดดจัด เต็มไปด้วยเชื้อไวรัสหรือรังสีนิวเคลียร์ จึงไม่แปลกใจเลยที่ธีมดังกล่าวถึงถูกนำมานิยมเข็นกันออกมาเรื่อยๆ จนถึงทุกวันนี้

ประเด็นหรือเรื่องราวที่นำเสนอ + แฝงแง่คิดได้หลายมุมมอง

ต่อมาจะขอพูดถึงสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญของธีมโลกหลังหายนะ [Post-Apocalyptic] ก็ว่าได้นะคะ เนื่องจากวัฒนธรรมและอารยธรรมของมนุษย์ล่มสลายไปหมดแล้ว และแน่นอนว่ามันจะเต็มไปด้วยความโหดร้ายที่ถูกนำเสนอหลากหลายรูปแบบ ถึงแม้โดยหลักๆ แล้วจะเน้นเรื่องสภาพความเป็นอยู่ การดิ้นรนของมนุษย์ และสภาพจิตใจในมุมมองทางจิตวิทยาก็ตาม ถึงกระนั้นทีมผู้พัฒนาก็ยังใส่ทั้งประเด็นความเหลื่อมล้ำทางสังคม, การแบ่งชนชั้นทางสังคม, ความยุติธรรมและความบ้าคลั่งที่ห่างกันแค่เส้นบางๆ หรือโครงสร้างสังคมและการปกครองที่ซับซ้อน และอีกหลายประเด็นที่น่าสนใจ 

ทุกตัวละครล้วนสีเทาไปจนถึงดำมืด ไม่มีใครดีและเลวที่สุด

สุดท้ายมาถึงจุดที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับธีมโลกหลังหายนะ [Post-Apocalyptic] ไม่แพ้หัวข้อด้านบนแม้แต่น้อยเลยล่ะคะ นั้นเป็นเพราะตัวละครส่วนใหญ่ในธีมแนวนี้มักใช้ชีวิตล่องลอยไปกับโลกที่ล่มสลาย ซึ่งก็มักเต็มไปด้วยกลุ่มคลั่งลัทธิ, กลุ่มบ้าอำนาจการปกครอง, กลุ่มผู้เหลือชีวิตรอดผ่านอะไรมาเยอะมีจิตใจเข้มแข็งและการตัดสินใจอันเด็ดเดี่ยว เป็นต้น แถมสิ่งอันตรายที่สุดอย่างมนุษย์ด้วยกันเองนี่แหละ เพราะกลุ่มคนมักเต็มไปด้วยความป่าเถื่อน ความรุนแรง สัญชาตญาณดิบในการเอาตัวรอด พร้อมจะทำทุกอย่างโดยละทิ้งศีลธรรมและความถูกต้องเลยทีเดียว

ทว่าตัวละครเหล่านั้นก็อาจทำไปด้วยเหตุผลบางอย่าง เพราะโลกเข้าสู่การล่มสลายจึงตามมาด้วยบปัญหามากมายสารพัดให้เราได้เผชิญหน้า ยิ่งกว่านั้นต้องตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวเพื่อผลประโยชน์ส่วนร่วม หรือไม่ก็ทำเพื่อตัวเองอยู่รอดไปอีกวันก็ได้ ทำให้เพื่อนๆ เข้าถึงความเป็นมาไปทีละขั้นๆ จนอยากคอยเอาใจช่วยตัวละครอยู่ตลอดเวลา 

ดังนั้นแล้วนี่จึงเป็นเหตุให้ค่ายเกมยักษ์ใหญ่ทั้งหลาย ยังคงนำธีมโลกหลังหายนะ [Post-Apocalyptic] มาเล่นกันอยู่เรื่อยๆ แถมดูท่าจะนำมาใช้กันอีกนาน ก็เพราะมันทำเงินได้เป็นอย่างดีนี่นา ทามาโมะจังมั่นใจเลยว่าธีมดังกล่าวจะอยู่ยงคงกระพันคู่เกมเมอร์ไปอีกนานแสนนานเลยล่ะคะ ก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนพ้องชาว PlayUlti ไม่มากก็น้อยนะคะ สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นภายใต้คอนเม้นท์กันได้เลยนะจ๊ะ