Review : Need For Speed EDGE Close beta ครั้งที่2

Playulti 28 Mar 2016, 14:59:14
ข่าวเกม PC

สำหรับชื่อ Series Need  for speed เกมส์เมอร์ได้ยินแล้วคงไม่ต้องพูดอะไรมากกับเกมส์แข่งรถเกมส์นี้แต่สำหรับภาคนี้พิเศษตรงที่เป็นเกมส์ออนไลน์ภายใต้ชื่อ "Need for speed EDGE" ให้บริการโดย Nexon ประเทศเกาหลีใต้ พัฒนาโดยทีม Spear Head จาก EA โดยตัวเกมส์ใช้ Engine ที่ชื่อว่า Frostbite 3 ในการพัฒนาตัวเกมส์ โดยได้รับลิขสิทธิ์รถมากกว่า 60 แบรนด์


คำถามแรก "กินสเปคไหม?" โดยตัวเกมส์นั้นต้องการสเปคคอมพิวเตอร์ที่ใช้ปานกลางไม่สูงมากนักแต่หนักไปทาง HDD ซึ่งต้องใช้ถึง 30 GB สำหรับเกมส์ออนไลน์นั้นถือว่าคอนข้างเอาเรื่องเลย


Interface เบื้องต้น

1.มินิแมพ
2.ชื่อรุ่นของรถ
3.เกจของไนโตร
4.Durability ของรถ(ค่าความทนทาน)
5.ความเร็ว
6.การควบคุมต่างๆ 
6.1 ลูกศรขึ้น = เร่งเครื่อง
6.2 ลูกศรลง = ถอยหลัง
6.3 ลูกศรซ้าย = เลี้ยวซ้าย
6.4 ลูกศรขวา = เลี้ยงขวา
6.5 Space = ไนโตร
6.6 Shift = เบรคมือ
6.7 ctrl = ใช้ไอเทม 

ModeและMenu ต่างๆ

โหมด Single Player
โดยภายในโหมดนี้จะมีโหมดย่อยก็คือ World Race โดยโหมดนี้จะเป็นการแข่งขันกับ AI เพื่อเก็บ Level และหาไอเทมต่างๆเพื่ออัพเกรดรถของคุณในโหมดนี้เราต้องแข่งเพื่อสะสมดาวไปเรื่อยๆ เมื่อได้รับดาวที่กำหนดแล้วจะสามารถปลดล๊อค World ถัดไปได้ และยังมีโอกาสได้โบนัสเป็นกล่องไอเทมต่างๆอีกด้วย

ภายใน World Race จะมีหลายสนามให้เลือกแข่งขัน แต่ละสนามวิธีการแข่งก็จะแตกต่างกันไปรวมไปถึงภาระกิจที่เราต้องทำด้วย


Hot Pursuit : ซิ่งให้ยับและทำลายรถของ AI 

Speed : แข่งความเร็ว Turbo,Turbo ระยะสั้น,เทคนิคการควบคุมรถ,Nitro 

Time Attack : การแข่งขันที่น่าตื่นเต้นที่ต้องจบให้ได้ภายในเวลาที่กำหนด

Item Mode : การแข่งขันที่ไม่สามารถคาดเดาได้ เก็บไอเทมแล้วกดใช้ให้เกิดประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นโจมตีคู่ต่อสู้หรือ Turbo Speedในการแข่ง World Race จะให้เราสะสมดาวเพื่อเลื่อนขั้นไปแข่งต่อใน Stage ถัดไป 
Multiplayer Mode 
จะมีโหมดย่อยคือ Speed Mode และ Item Mode โดยการแข่งแบบ Speed Mode คือวัดกันที่ความเร็ว ส่วนItem Mode จะเป็นการแข่งและเก็บ Item มาโจมตีกัน
Item Mode จะเป็นการแข่งขันเพื่อเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 แต่ในระหว่างทางจะมีอุปสรรคจากรถคันอื่นๆที่เก็บไอเทมมาใช้เพื่อเพิ่มสมรรถนะของรถหรือไอเทมเพื่อโจมตีรถคันอื่นๆ
โดยแบ่งให้เราเลือก 3 หมวดว่าเราจะแข่งแบบไหน
1. Quick Single Random Match เป็นการแข่งแบบ Random คู่ต่อสู้(เป็นผู้เล่นอื่นที่ไม่ใช่ AI)
2. Random Match With friend เป็นการแข่งแบบสามารถชวนเพื่อนเข้ามาแข่งด้วยได้และ Random ไปเจอคู่ต่อสู้่
3. Custom Match With friend เป็นการชวนเพื่อนๆมาแข่งกัน
Item ต่างๆในการแข่งขัน Item Mode

Speed Mode จะเป็นการแข่งเพื่อวัดความแรงของรถโดยตรงไม่ว่าจะ Turbo หรือ Nitro และการควบคุมที่สมดุล
โดยแบ่งให้เราเลือก 3 หมวด
1. Quick Single Random Match เป็นการแข่งแบบ Random คู่ต่อสู้(เป็นผู้เล่นอื่นที่ไม่ใช่ AI)
2. Random Match With friend เป็นการแข่งแบบสามารถชวนเพื่อนเข้ามาแข่งด้วยได้และ Random ไปเจอคู่ต่อสู้่
3. Custom Match With friend เป็นการชวนเพื่อนๆมาแข่งกัน
Speed mode Item

Garage โรงแต่งรถ 
ในส่วนของ Garage นั้นเป็นส่วนที่ให้เราปรับแต่งรถ สะสมการ์ดของรถรุ่นเจ๋งๆเพื่อประกอบเป็นรถสุดแรงไว้นำไปใช้แข่งนั่นเองรวมไปถึงการตีบวกรถหรือตีบวกอุปกรณ์แต่งรถอื่นๆอีกด้วย โดยเกรดของรถแบ่งได้เป็น C/B/A/S/SS และตีบวกได้สูงสุดถึง +10
เมื่อเข้ามาที่เมนูนี้จะเข้าสู่รถที่เรามีไว้ทั้งหมดดูรายละเอียดตามรูปเลย เราสามารถเลือกรถที่จะเป็นตัวโชว์ เลือกรถเข้า Car list เพื่อเป็นตัวเลือกเวลาจะลงสู่สนามได้โดยการกดปุ่ม Car list หรือแม้กระทั่งลบรถที่เราไม่ต้องการได้ที่ปุ่มถังขยะ
การสร้างรถ
ในการผลิตรถแต่ละคันนั้นเราจำเป็นต้องมีพิมพ์เขียวของรถคันที่เราจะผลิตก่อน ซึ่งหาได้กล่องหลังจบการแข่งขัน กล่องจาก Level up กล่องจากการสะสมดาวและนำไปแลก เมื่อมีครบแล้วก็จัดการกดปุ่มสร้างจะมีค่าใช้จ่ายด้วย



การตีบวกรถ
ในการตีบวกรถจำเป็นจะต้องมีรถรุ่นเดียวกัน 2 คัน เพื่อนำมาตีบวกเพื่อเพิ่มความสามารถและสมรรถนะของรถคุณให้เร็วแรงยิ่งขึ้น


คลังของส่วนประกอบ
โดยในคลังของส่วนประกอบก็จะมีตั้งแต่ตัวเครื่องยนตร์ ไนโตร ไปถึงพวกสเกิร์ตข้างต่างๆ ก็จะแบ่งเกรดอีกเช่นกันหมายความว่าถ้าเป็น Part เกรด B ก็จะใส่ได้ในรถเกรด B ตัว Part ต่างๆนั้นก็มีระดับตั้งแต่ ขาว,เขียว,ฟ้า,ม่วง 

Option มีให้ปรับไม่มากนักเราสามารถปรับได้แค่เพียงกราฟฟิกเท่านั้นเอง

หลังจากที่อธิบายเกี่ยวกับโหมดการเล่นต่างๆของเกมส์กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเข้าสู่การรีวิวกันบ้าง จากที่ได้ทดสอบตัวเกมส์ Need for speed Edge ของทางค่าย Nexon ทำออกมาได้ดีเล่นแล้วค่อนข้างสนุกจนลืมเวลาไปเลย โดย Content หลักจะอยู่ที่การปลดล๊อครถเทพเช่น ลัมโบกินี่ ซึ่งอยู่ในเกรด SS ต้องใช้พิมพ์เขียวถึง30ใบเลยทีเดียว โหมดการแข่งขันที่ถือว่าได้ใจก็คือ Item Mode ก็เพราะว่าต่อให้รถคุณจะปรับแต่งให้แรงมากแค่ไหน แต่ถ้าโค้งสุดท้ายเจอ Item ปลิดชีพคุณก็สามารถพลิกกลับมาแพ้ได้เช่นกัน อีกโหมดที่ให้ความสนใจก็คือ Multiplayer Mode ซึ่งการ Random หาคู่แข่งนั้นไม่นานเลย Ping แทบจะไม่มีผลเมื่อเข้าไปแข่งรถกับโอปป้าเหล่านั้น ในตอนนี้ตัวเกมส์ยังอยู่ในการทดสอบครั้งที่ 2 จึงยังไม่มีสนามแข่งมากนักอาจทำให้การเล่นดูน่าเบื่อเพราต้องเล่นสนามเดิมๆ อดใจรอวันเปิดให้บริการไม่ไหวแล้วสิ หากมีข่าวสารเกียวกับเกมส์ Need for speed Edge เมื่อไหร่จะรีบนำมาฝากเพื่อนๆให้เร็วที่สุดเลยครับผม ทิ้งท้ายไปด้วยภาพสนามแข่งสวยๆภายในเกมส์กันครับ




กำลังโหลด...