[Review] Tekken 7 ปิดตำนานสงครามทรพี

สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่านด้วยนะครับ กว่า 20 ปีแล้วที่เกมไฟต์ติ้ง 3D ระดับตำนานอย่าง Tekken ได้สร้างความนิยมและความฮิตให้กับผู้เล่นทั่วโลกมามากมาย หลายๆ คนจะนึกถึงความสวยงามและระบบการต่อสู้ที่สุดมันส์ ในที่สุดเกมนี้ก็มาถึงบทสรุปปิดฉากตำนานการต่อสู้เสียทีใน Tekken 7

เนื้อเรื่องย่อ

การต่อสู้ของตระกูลต้องคำสาป มิชิม่านั้นเริ่มจะร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ กับการต่อสู้ของสองพ่อลูกระหว่าง Heihachi Mishima ผู้เป็นพ่อและ Kazuya Mishima ลูกชายที่ก่อให้เกิดหายนะยิ่งใหญ่ จนเกิดสงครามไปทั่วทั้งโลก รวมไปถึงมีเรื่องราวของตัวละครอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างหลานชาย Jin Kazama หนึ่งในสมาชิกตระกูลมิชิม่าที่มีเชื้อปีศาจเหมือนกับ Kazuya พ่อของเขา และรวมไปถึง Kazumi Mishima ภรรยาสาวของ Heihachi ผู้ซึ่งเป็นเหมือนกุญแจสำคัญในเหตุการณ์ต่อสู้ครั้งนี้ จึงกลายเป็นบทสรุปสุดท้ายที่พ่อหรือลูกจะต้องอยู่รอด!! 

"จุดเริ่มต้นของความเกลียดชัง Heihachi โยนลูกชาย Kazuya ลงเหวหลังจากการต่อสู้ "

"Heihachi พ่อของ Kazuya ผู้ที่พยายามจะฆ่าลูกชายที่มีเชื้อของปีศาจ ผู้นำมาสู่ความวิบัติของวงศ์ตระกูล"

"Kazuya Mishima ลูกชายแท้ๆ ของ Heihachi และเป็นศัตรูคู่แค้นที่หวังจะฆ่าพ่อเพราะความทรงจำอันเลวร้าย"

การนำเสนอ

ใครที่เคยผ่านมาทั้ง 6 ภาคที่แล้ว ก็จะเข้าใจกับเนื้อหาของเกมนี้ได้ไม่ยาก โดยสำหรับคนที่หัดเล่นใหม่ๆ นั้นตัวเกมได้ใส่คัตซีนหรือที่มาต่างๆ ของทั้ง 6 ภาคมาในรูปแบบโหมด Gallery ให้ได้ทำความเข้าใจกันอีกด้วย

"มีครบทุกภาคตั้งแต่ 1 ยัน 6 สามารถปลดล็อคได้ด้วยการซื้อ"

เกมเพลย์

ลักษณะเกมยังคงเป็นเกมต่อสู้สามมิติ ที่เน้นการนำเอาศิลปะการต่อสู้แบบเฉพาะตัวมาปะทะกัน กับตัวละครที่มีให้เลือกเล่นมากถึง 36 ตัว รวมตัวละครใหม่อีก 9 ตัว นั่นคือ Claudio, Katarina, Lucky Chloe, Shaheen, Josie, Master Raven, Gigas, Jack-7 และ Akuma ตัวละครรับเชิญจากซีรี่ส์ Street Fighter นั่นเอง

"Akuma แขกรับเชิญจากซีรี่ส์ Street Fighter ผู้ซึ่งมีเป้าหมายจะหยุดยั้งสงครามพ่อลูก"

ในโหมดของ Tekken 7 จะมีโหมดให้เล่นหลักๆ คือโหมด Offline และ Online ซึ่งในโหมดออฟไลน์นั้นจะมีทั้ง Arcade Mode โหมดการเล่นทั่วไปที่ต้องสู้กับ Ai เพื่อไปเจอกับบอสใหญ่ Kasumi Mishima ซึ่งสเตจนั้นจะน้อยและสั้นมากๆ Tresure Battle โหมดตามหาสมบัติและเงินในเกม โดยการเล่นจะเหมือนกับ Arcade Mode แต่จะมีให้เล่นไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อชนะศัตรูได้ก็จะได้กล่องสมบัติเพื่อปลดล็อกไอเท็มตกแต่งตัวละคร และเงินจำนวนหนึ่ง VS Mode โหมดต่อสู้กับเพื่อนๆ ในรูปแบบออฟไลน์ ซึ่งเป็นพื้นฐานทั่วไปที่เกมต่อสู้ต้องมี และโหมด Practice ไว้ฝึกฝนท่าคอมโบต่างๆ ของตัวละคร 

"โหมด Arcade ที่จะต้องผ่านด่านเจอกับ Kasumi ภรรยาสาวของ Heihachi Mishima"

"Tresure Battle ต่อสู้กับ Ai เพื่อรับเงินและหีบสมบัติที่ซ่อนไอเท็มตกแต่งตัวละครมากมาย"

"โหมดตกแต่งตัวละครที่ให้คุณได้เลือกตกแต่งตามใจและสร้างสรรค์สไตล์ในแบบของตัวเอง" 

ส่วนในโหมดออนไลน์จะมีการเล่นทั้งในแบบ Quick Play เล่นแข่งกับเพื่อนๆ ทั่วไป Rank Match แข่งจัดอันดับเพื่อไต่ยศของตัวละครให้สูงขึ้น และ Tournament จัดการแข่งขันกับเพื่อนๆ ทั้งหมด 8 คนในการชิงเงินรางวัลและปลดล็อกไอเท็มแต่งตัวละคร

และโหมดสำหรับเนื้อเรื่องอย่าง Mishima Saga ที่จะให้ผู้เล่นได้เข้าถึงเนื้อเรื่องบทสุดท้ายของซีรี่ส์นี้ และเนื้อเรื่องย่อยของตัวละครอีกมากมายให้ได้สนุกกันด้วย 

ซึ่งถ้าเทียบกับเกมต่อสู้อื่นๆ เกมนี้ถือว่ามีโหมดให้เล่นเยอะและสนุกแทบทุกโหมดเลยทีเดียว ทำให้สามารถเล่นสนุกได้เรื่อยๆ ไม่รู้เบื่อ โดยเฉพาะ Tresure Battle ที่ต่อสู้ปลดล็อคไอเท็มตกแต่งตัวละครหลากหลายร้อยกว่าชนิด และเงินรางวัลที่เรียกว่าเล่นกันเพลินๆ เลยทีเดียว 

"Practice โหมดฝึกฝนคอมโบต่างๆ ของตัวละครเพื่อสร้างความเทพมากขึ้น"

ในภาคที่ 7 มีระบบการต่อสู้เข้ามาใหม่นั่นคือระบบ Rage Arts และ Rage Move โดยเมื่อตัวละครมีเกจเลือดใกล้จะหมดหลอด ระบบ Rage จะมีขึ้นให้โดยอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้เล่นสามารถใช้ท่าพิเศษของตัวละครนั้นๆ ในการสร้างความได้เปรียบ-เสียเปรียบของเกมนั้นๆ ได้ ถือว่าเป็นระบบที่ทำออกมาเจ๋งและสนุกมากๆ รวมไปถึงยังมีการสโลว์ช็อตสำคัญให้เห็นว่าใครโจมตีได้ก่อนซึ่งทำให้เกมมันดูลุ้นหนักเข้าไปอีกด้วย นอกจากระบบที่กล่าวมาแล้วอีกอันที่น่าสนใจคือ ระบบการแก้ทุ่มที่ตามปกติจะต้องแก้ตามตำแหน่งการทุ่ม ยกตัวอย่างเช่น หากทุ่มซ้ายต้องแก้ด้วยปุ่มต่อยซ้ายหรือเตะซ้าย โดยในภาคนี้ได้ตัดระบบการแก้ทุ่มให้ตรงปุ่มออกไป กลายเป็นการแก้ทุ่มด้วยตำแหน่งหรือปุ่มไหนก็ได้ ทำให้การเล่นดูง่ายขึ้นเยอะ รวมไปถึงทุ่มด้วยปุ่มคู่ที่ปรับการแก้ด้วยปุ่มคู่นะครับ เช่น ทุ่มปุ่มคู่ต่อย ก็ต้องแก้ด้วยปุ่มคู่ต่อยหรือคุ่เตะก็ได้ และคอมมานด์ท่าไม้ตายถ้าใครเคยเล่นภาค 6 หรือ Tag Tournament 2 มาก็สามารถเรียนรู้ได้เร็วมากขึ้นอีกด้วย 

"Rage Art ท่าอเวจีของ Akuma มีให้ได้เห็นในภาคนี้ด้วย บอกเลยว่าเท่มากๆ"

กราฟฟิก

ในภาคนี้มีการใช้กราฟฟิก Unreal Engine 4 ซึ่งเป็นเอนจิ้นกราฟฟิกที่ถูกใช้ในหลายๆ เกมมาก และถือเป็นภาคแรกๆ ที่ใช้เอนจิ้นนี้ในการทำ ซึ่งบอกเลยว่ามีความสวยงามทั้งในเรื่องของผิวตัวละคร พื้นผิวของด่านต่างๆ และเอฟเฟ็กต์ที่ดูอลังสะใจ แถมระบบเสียงในเกมก็ทำออกมาค่อนข้างดี โดนต่อยเตะตรงไหน เสียงเอฟเฟ็กต์ดังฟังชัดเจนมากๆ ทำให้ได้อรรถรสในการต่อสู้ที่มันส์ยิ่งขึ้น และคุณภาพภาพของเกมนี้ บนเครื่อง PlayStation 4 ถูกรันด้วยความละเอียด 900p เฟรมเรต 60 fps และบน PC อยุ่ที่ความละเอียด 1080p เฟรมเรต 60 fps (ขึ้นอยู่กับสเป็คคอมของแต่ละคน)  ซึ่งทำออกมาได้ลื่นไหลมากๆ ในระดับเกมต่อสู้ด้วยกัน 

จุดที่ไม่ประทับใจ 

ส่วนตัวผมเองได้ทดสอบเกมนี้บนเครื่อง PlayStation 4 เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นจะขอพูดถึงจุดไม่ประทับใจบนแพลทฟอร์มนี้แทนนะครับ สำหรับเวอร์ชั่น PlayStation 4 มักจะมีปัญหาในเรื่องของการค้นหาผู้เล่นในระบบ Online ที่ดูช้าและเฉื่อยกว่ามาก แต่เมื่อเจอผู้เล่นแล้ว การเล่นที่มีสัญญาณในระดับ 3 ขีดขึ้นไป ถือว่าทำออกมาได้ลื่นไหล เฟรมเรตไม่ตก และไม่มีการกระตุกให้เห็น และในโหมด Tournament มักจะเจอผู้เล่นที่ปิงเยอะกว่าทำให้หงุดหงิดเวลาสู้ เพราะเฟรมเรตจะกระตุกสุดๆ ไม่แพ้กัน ส่วนบน PC นั้นแทบไม่มีอะไรต้องติ เพราะการพอร์ทมานั้นถือว่าดีสุดๆ รวมไปถึงการออนไลน์เจอกันในเกมจากที่ได้ยินมามีคนออนไลน์กันเยอะกว่าคอนโซลด้วย และที่น่าเสียดายยิ่งกว่านั้นคือ เกมนี้ ไม่มีระบบ Cross Platform ให้เจอกันเหมือน Street Fighter V จึงเลยเป็นอะไรที่น่าผิดหวังไปสักหน่อยครับ 

สรุป

ถือว่าเป็นการปิดตำนานที่สมเกียรติ สมการรอคอยสำหรับชาวเกมกล่องหลายๆ คน Tekken 7 การันตีและตอกย้ำว่านี่คือเกมต่อสู้ที่ดีที่สุดในปี 2017 อย่างไร้ข้อกังขา และในอนาคตก็ไม่แน่เหมือนกันว่า Harada ซัง ผู้พัฒนาเกมนี้ จะหวนกลับมาทำภาคใหม่หรือไม่ แต่ ณ ตอนนี้ ชั่วโมงนี้บอกเลยว่า "Tekken 7 คือเกมต่อสู้ที่คุณควรต้องซื้อติดไว้ที่บ้าน" จริงๆ ครับ