TERA 8 สิ่งที่ต้องรู้ถ้าอยากลงดันเจี้ยนให้โหด !!

Playulti 22 Mar 2018, 01:34:21
ข้อมูล, เทคนิค (PC)

สวัสดีครับทุกคน ^0^ อยู่กับแอดเร็นในโลก TERA กันเหมือนเคย วันนี้มีทริคดี ๆ มาบอกเกี่ยวกับการลงดันเจี้ยนอย่างไรให้โหด ซึ่งถ้าเราศึกษาข้อมูลแล้วลองทำตาม การันตีเลยครับว่าตีบอสได้โหดไส้แตกแน่นอน และเกี่ยวข้องกับอาชีพทุกสายไม่ว่าจะเป็นตำแหน่ง TANK, DPS, SUPPORT ซึ่งวันนี้จะมาพูดถึง 8 เรื่องด้วยกันไปดูเลยยยย ♥

ข้อที่ 1 รู้หรือไม่ว่าเจาะเกราะแต่ละอาชีพในตำแหน่งนั้น ๆ ทับกัน
ใช่ครับสกิลเจาะเกราะของแต่ละตำแหน่งนั้นทับกัน เช่น ตำแหน่ง FULL-TANK อย่าง Lancer, Brawler และ OFF-TANK อย่าง Warrior, Berserker ซึ่งแต่ละอาชีพมีสกิลประเภทเจาะเกราะไม่เท่ากัน โดยสาย Full-Tank จะเยอะสุดที่ 12% ดังนั้นใน 1 ปาร์ตี้ไม่ควรจะมี Tank 2 คน เพราะการใช้สกิลเจาะเกราะจะทับกัน รวมไปถึงการยั่วยุบอสอีกด้วย
 Debilitate : สกิลเจาะเกราะของ Lancer เจาะเกราะ 4% ที่สามารถเจาะสะสมได้ 3 ครั้ง คือ 12%
 Jackhammer : สกิลเจาะเกราะของ Brawler ต่อยรัวหมัดทั้งหมด 8 Hit / เจาะเกราะ 12 %
 Combative strike : สกิลเจาะเกราะของ Warrior ใช้ดาบแทงศัตรู ลดเกราะ 8% ทำดาเมจเล็กน้อย
สำหรับสาย SUPPORT อาชีพ Priest, Mystic มีสกิลประเภทเจาะเกราะเช่นเดียวกัน ซึ่งความสามารถเจาะเกราะของทั้ง 2 อาชีพเท่ากันที่ 10% พิเศษตรงอาชีพ Mystic จะมีสกิลที่ชื่อว่า Contagion สามารถเจาะเกราะเพิ่มอีก 5% แต่คูลดาวน์นานพอสมควร สำหรับตำแหน่งซัพจะสามารถเล่นคู่กันได้หรือที่เรียกกันว่า Double Healer โดยจะบัพจาก Priest และออร่าจาก Mystic ทำให้ปาร์ตี้มีพลังโจมตีที่แรงขึ้น ส่วนเรื่องการเจาะเกราะให้นัดแนะกันเอาว่า ใครจะเป็นคนเจาะเกราะหลักนั่นเองครับ
 Triple Nemesis : สกิลเจาะเกราะของ Priest ปล่อยลำแสงใส่เป้าหมายได้ 3 ครั้ง ทำการเจาะเกราะสูงสุด 10%
 Volley of Curses : สกิลของ Mystic เจาะเกราะ 10%
 Contagion : สกิลของ Mystic เจาะเกราะเพิ่มอีก 5% แต่คูลดาวน์นาน 

ข้อที่ 2 อยากแรงต้องเจาะเกราะให้ครบ !!

ความแรงของสกิลในปาร์ตี้จะขึ้นอยู่หลายปัจจัยพอสมควร แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดภายในทีมนั้นคือการ "เจาะเกราะ" โดยหน้าที่นี้จะทำได้ในตำแหน่ง Tank, Support ถ้าทั้งสองตำแหน่งนี้ทำหน้าที่ได้ดี จะสามารถเจาะเกราะบอสได้ตลอดเวลารวมกันถึง 24% ทำให้สาย DPS ทำดาเมจได้แรงมากขึ้นมหาศาลแน่นอน

ข้อที่ 3 ตบบอสตอนมันโกรธ !!


บอสโกรธหรือบ้าคลั่ง เป็นช่วงที่บอสโหดและอ่อนแอในเวลาเดียวกัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วบอสจะเข้าช่วงโกรธตอนเลือดลดไปถึง 90% สังเกตได้ว่าหลอดเลือดบอสจะกระพริบสีแดง และจะโกรธเป็นเวลา 36 วินาที เวลาบอสโกรธนั้นคือเวลาที่ทุกคนในปาร์ตี้จะประเคนทุกสกิลใส่บอส ไม่ว่าจะเป็นบัพเพิ่มพลังต่าง ๆ เจาะเกราะพิเศษของ Mystic เพราะบอสจะโดนตีแรงขึ้นจากออพชั่นของอาวุธที่เราได้ใส่มา เช่น เพิ่มความเสียหายในการโจมตีมากขึ้น 9.3% เมื่อโจมตีมอนสเตอร์ที่โกรธอยู่ 2 แถว ทำให้เราตีบอสเวลาโกรธแรงขึ้นถึง 18.6% นั่นเอง

ข้อที่ 4 อยากแรงต้องกดยา !!

ยาเสริมพลัง มีให้เลือกใช้อยู่หลายแบบทั้งแบบกดเป็นชิ้น แบบนับเวลา ซึ่งสามารถทำได้หาได้ภายในเกม ซึ่งจะมีรายละเอียดดังนี้
1.  Elite Everful Nostrum - หรือยาเหลือง พละกำลังเพิ่ม 27% / ทนทาน 20% / ฟื้นฟู MP 13% ทุก ๆ 5 วินาที / ลดคูลดาวน์สกิล 15% / ความเสียหายคริติคอลแรงขึ้น 1.42 เท่า สำหรับสายแท้งค์และดาเมจ / ความเร็วโจมตีเพิ่ม 10 หน่วย ให้กับตำแหน่งซัพพอต
2.  Noctenium Infusion - จะสามารถใช้ได้กับบางสกิลเท่านั้น การโจมตีหรือการใช้สกิลแต่ละครั้งจะลดกระสุนไป 1 เม็ด
3.  Uncommon-Superior Noctenium Infusion - เป็นกระสุนพลังแบบจับเวลา มีทั้งหมด 3 สี เขียว น้ำเงิน ทอง ความแตกต่างของสีก็จะแตกต่างเรื่องเวลา เขียว 15 นาที / น้ำเงิน 20 นาที / ทอง 30 นาที และข้อดีของกระสุนชนิดนี้คือ ความแรงของสกิลทุกสกิลจะแรงขึ้นอย่างมหาศาล
4.  Bravery Potion - เพิ่มความเร็วโจมตี 4% ดาเมจสกิล 10% ความเสียหายที่ได้รับลดลง 10%
5.  Strong Braver Potionเพิ่มความเร็วโจมตี 6% ดาเมจสกิล 12% ความเสียหายที่ได้รับลดลง 10%
6.  Canephora Potion - เพิ่มความเสียหายมากขึ้น 12%
7.  Strong Canephora Potion - เพิ่มควมเสียหายมากขึ้น 15%

ข้อที่ 5 ความเร็วในการโจมตีมีผลกับหลายสิ่ง

ความเร็วในการโจมตีในเกมนี้แสดงผลได้หลายอย่าง เช่น
- การร่ายสกิล ขณะร่ายจะดูเร็วขึ้นเช่น การชุบชีวิต, Meteor Strike
- การชาร์จสกิล (เวลาชาร์จจะเป็นหลอดสกิลนั้นล่ะ) เช่น Thunder Strike, Cyclone
- การออกท่าทางการโจมตี ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีธรรมดา หรือการออกสกิลทำให้ดูเร็วขึ้น ปล.ฮีลเร็วขึ้นด้วยนะ
- การใช้สกิลประเภทหลบหลีกต่าง ๆ จำพวกสกิลกลิ้งหลบ จะทำได้เร็วขึ้นแต่ระยะเวลา I-Frame ก็จะสั้นลงไปด้วย

ข้อที่ 6 สกิลประเภทหลบหลีกมีหลายแบบ
 Shadow Jump : เป็นสกิลหลบหลีกพื้นฐานของนินจา สามารถกดใช้ได้ 2 ครั้งติดกัน (I-Frame)
 Impact Bomb : ทำการโยนระเบิดและกระโดดถอยหลังออกมาได้ทันที
Teleport Jaunt : เทเลพอร์ทระยะทางประมาณ 13 เมตรไปทางทิศทางตามที่เรากดในคีย์บอร์ด (I-Frame)

 Backstep : สกิล iFrame ใช้เพื่อเปลี่ยนตำแหน่งหลบสกิล/เมคานิค เป็นสกิลที่ใช้บ่อยๆ คูลดาวน์น้อย

 Breakaway Bolt : สกิล iFrame ยิงลูกพลังลงพื้นเพื่อดีดตัวออกทำดาเมจและเพิ่มระยะไปด้วยในตัวคูลดาวน์จะนานกว่า 

สกิลหลบของแต่ละอาชีพนั้นจะมีไม่เท่ากัน บางอาชีพมาก บางอาชีพน้อย แต่ประเภทของสกิลหลบจะแบ่งออกเป็นอยู่ 2 ส่วน
6.1 สกิลหลบหลีกประเภท I-Frame คือ สกิลหลบที่สามารถกดใช้หลบได้แม้ยังอยู่ในวงแดง ซึ่งวงแดงเวลาที่บอสใช้ จะมีทั้งหลบได้และหลบไม่ได้ เพราะฉะนั้นควรศึกษาวงแดงสกิลของบอสก่อนทำการหลบด้วย
ปล.สกิลหลบที่ได้มาตั้งแต่เลเวล 1 นั้นแหละครับส่วนใหญ่จะเป็นประเภท I-Frame

6.2 สกิลหลบหลีกประเภทหลบฉาก หรือกระโดดออกมา คือ สกิลเอาตัวรอดอีกแบบที่ใช้หนีออกมาจากตำแหน่งนั้น แต่ไม่สามารถหลบในวงแดงได้ ส่วนใหญ่แล้วเอาไว้ เข้า-ออก จำพวกสกิล พุ่งเข้า กระโดดออก เป็นต้น


ข้อที่ 7 หินคริสตัลสีแดงสำคัญ ควรเลือกใช้ให้ถูกต้องตามความเหมาะสม

หินคริสตัลคือไอเทมช่วยเสริมความสามารถให้กับตัวละครได้อย่างมาก ถ้าเลือกใช้ให้ถูกต้องตามความเหมาะสม โดยส่วนใหญ่แล้วหินคริสตัลจะแบ่งออกเป็นอยู่ 4 ประเภท คือ
7.1 หินคริสตัลของตำแหน่ง Tank : แท้งค์ส่วนใหญ่จะยืนตีหน้าบอส จึงเน้นหินที่เพิ่มพลังโจมตีด้านหน้า รวมไปถึงหินประเภทยั่วยุ  และเพิ่มความแรงคริติคอลขณะบอสโกรธ เช่น
 Wrathful - เพิ่มพลังโจมตีเมื่อทำการโจมตีด้านหน้า
 Pounding - เพิ่มพลังโจมตีทั่วไป
 Threatening - เพิ่มค่าปฏิปักษ์หรือยั่วยุ ทำให้ดึงบอสได้ง่ายขึ้น
 Focused - เพิ่มความแรงคริติคอลเมื่อโจมตีศัตรูขณะบ้าคลั่ง
7.2 หินคริสตัลของตำแหน่ง DPS : เน้นไปที่หินโจมตีด้านหลัง คริติคอลแรงขึ้นเมื่อโจมตีด้านหลัง และเพิ่มความแรงคริติคอลขณะบอสโกรธ เช่น 
 Savage - เพิ่มความแรงคริติคอลในการโจมตีด้านหลัง
 Bitter - เพิ่มความแรงคริติคอลในการโจมตีด้านหลัง (หินของสายระยะใกล้), 
 Spiteful - เพิ่มความแรงคริติคอลในการโจมตีด้านหลัง (หินของสายระยะไกล), 
 Pounding - เพิ่มพลังโจมตีทั่วไป
 Forceful - ถ้ามีค่าคริติคอลเกิน 270-280 หน่วยขึ้นไปจะใช้กัน ช่วยเพิ่มพลังพละกำลัง เมื่อโจมตีคริติคอลสำเร็จ
 Focused - เพิ่มความแรงคริติคอลเมื่อโจมตีศัตรูขณะบ้าคลั่ง
7.3 หินคริสตัลของตำแหน่ง Support : จะใช้หินสำหรับการฟื้นฟู MP ความเร็วการเคลื่อนที่ ความเร็วในการโจมตี
 Brilliant - ฟื้นฟู MP ทุก ๆ 5 วินาที
 Swift - เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ขณะต่อสู้
 Carving - เพิ่มโอกาสติดคริติคอล (ทำให้ฮีลติดคริได้ง่ายขึ้น)
7.4 หินคริสตัลในสาย PVP : หินประเภทนี้จะใช้ในการต่อสู้กับผู้เล่นด้วยกัน เช่น หินที่ล้มแล้วตีแรงขึ้น คริตอนล้มแรงขึ้น ตีคนแล้วฟื้นฟู MP ส่วนหนึ่ง ในจับคู่สนามรบค่า MP เป็นสิ่งสำคัญ เพราะไม่สามารถกดยาเพิ่ม MP ได้
 Brutal - เมื่อโจมตีเป้าหมายที่ล้มลงจะสร้างความเสียหายมากขึ้น
 Cruel - เมื่อเป้าหมายล้มจะสร้างความเสียหายคริติคอลมากขึ้น
 Salivating - ฟื้นฟู MP เมื่อโจมตีโดนผู้เล่น

ข้อที่ 8 เรียนรู้ความสามารถของบอส สกิลของบอส หรือที่เรียกว่า "Mechanical"

การรู้สกิลบอสหรือเรียกสั้นๆว่า "เมคบอส" คือสกิลที่บอสใช้กับเราไม่ว่าจะเป็น เมคเล็ก เมคใหญ่ เมคบังคับตาย รวมไปถึงการโจมตีปกติของบอส ซึ่งทุกตำแหน่งในปาร์ตี้จำต้องเรียนรู้ หรือศึกษามาพอสมควรถ้าอยากให้การลงดันเจี้ยนผ่านฉลุย ยิ่งเป็นดันเจี้ยนใหม่ หลายปาร์ตี้ต้องลงไปตายซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อฝึกฝนเมคบอสและเรียนรู้วิธีการหลบหลีกกับมัน ในระดับ Normal เราจะสามารถเปิดวงแดงดูเมคบอสต่าง ๆ ได้ แต่ในระดับ Hard Mode เมคบอสที่เคยเห็นจะไม่มีการแจ้งเตือนให้เห็นอีกต่อไป จำต้องดูท่าทางของบอสว่ากำลังจะทำอะไร หรือคำอธิบายกลางหน้าจอที่บอสได้ประกาศออกมาเป็นต้น เมื่อรู้เขา รู้เรา การลงดันเจี้ยนจะผ่านไปได้โดยง่าย ^0^

เข้ากลุ่มผู้เล่นไทยได้ที่นี่

กำลังโหลด...