ถึงแม้ว่าแพลตฟอร์มดิจิตอลเกมของ Epic Games อย่าง Epic Game Store เปิดตัวสะเทือนวงการเกมไปเมื่อปีที่แล้วก็ตาม ถึงกระนั้น The Yoys แห่งทีมงาน PlayUlti เคยให้ข้อมูลผ่านบทความ “5 ฟีเจอร์ที่ Epic Games Store ยังขาดอยู่ ถ้ามีล่ะก็ โคตรเจ๋ง!” ว่ายังขาดฟีเจอร์อีกหลายอย่างที่ทำให้มันอาจจะยังตีตลาดผู้ใช้งานชาวไทย (และ Global) ไม่ได้ ทว่าดูเหมือนความต้องการของท่าน The Yoys ได้เป็นจริงเสียแล้วล่ะคะ โดยเมื่อล่าสุดในวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา หนึ่งในผู้พัฒนา Epic Games Store ออกมาแถลงว่าเตรียมพร้อมสำหรับการปรับราคาเกมตามโซนพร้อมนโยบายการคืนเงินแล้วล่ะจ้า
เรื่องทั้งหมดมันเริ่มจากคุณ Sergey Galyonkin 1 ในผู้พัฒนา Epic Games Store [อดีตผู้พัฒนาเว็บไซต์ SteamSpy] ได้ออกมาแถลงผ่านทาง Twitter ไปเมื่อวานซืนว่า Epic Games Store รองรับการปรับราคาตามโซนถึง 30 โซน หรือก็คือรองรับถึง 130 ประเทศทั่วโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว [ยืนยันแล้วว่ามีประเทศไทยติดอยู่ในนั้น] ถึงกระนั้นค่าเงินภายในร้านค้าเกมจะยังใช้ค่าเงิน USD เป็นหลักไปก่อน เนื่องจากการปรับราคาให้เข้ากับตามแต่ละภูมิภาคมันต้องใช้เวลาศึกษาอยู่พอสมควร
อนึ่ง ทามาโมะจังขอยกตัวอย่างด้วยเกม Hades ที่แต่ก่อนขายในราคา $19.99 ตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 656 บาท จนพอได้ทำการปรับราคาตามโซนไทยแล้ว ปัจจุบันตัวเกมราคาอยู่ที่ $9.99 ตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 320 บาท ดังนั้นมั่นใจเลยว่าทางทีมงานได้ปรับราคาตามโซนไทยอย่างที่กล่าวไว้จริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้น Epic Games Store มาพร้อมกับนโยบายการคืนเงิน หรือ Refund ได้ทัดเทียมเท่าแพลตฟอร์ม Steam ซึ่งมีนโยบายดังต่อไปนี้
- ไม่ว่าเราเคยซื้อเกมใดๆ ผ่านทาง Epic Games Store สามารถทำเรื่องขอคืนเงินได้ทันที นับรวมไปถึงตัวเกมที่ยังอยู่ในรูปแบบ Early Access หรือ Beta ก็ตาม
- ระยะเวลาในการยื่นคำขอคืนเงินจะต้องไม่เกินภายใน 14 วันหลังจากเพื่อนๆ ซื้อเกมมาแล้ว และต้องเล่นดังกล่าวไม่เกิน 2 ชั่วโมงอีกด้วย
- การยกเลิก Pre-Order หรือการสั่งจองเกมล่วงหน้า สามารถทำเรื่องขอคืนเงินได้อย่างเต็มรูปแบบได้ตลอดเวลา แต่ต้องเป็นก่อนที่ตัวเกมนั้นจะวางจำหน่ายแล้วนะคะ
- จำนวนเงินที่เราจะได้รับคืนนั้น จะคืนให้ตามราคาของแต่ละโซน [ปัจจุบันช่องทางการจ่ายเงินของแพลตฟอร์มนี้ยังมีเพียงแค่ Credit Card และ PayPal เท่านั้น]
เรียกได้ว่าแพลตฟอร์ม Epic Games Store เริ่มเปิดฉากสงครามกับแพลตฟอร์ม Steam อย่างเต็มพิกัด เนื่องจากพวกเขาได้ทลายข้อจำกัดอันหนักใจของชาวไทย (และ Global) เพื่อมัดใจผู้ใช้งานไปเป็นที่เรียบร้อย คราวนี้ก็ถึงเวลาท้าชนบัลลังก์ยักษ์อย่าง Steam ได้สมน้ำสมเนื้อกันเสียที สงสัยจากนี้คงต้องติดตามดูกันหน่อยแล้วว่าบทสรุปของสงคราม 2 ค่ายยักษ์ใหญ่จะลงเอยเช่นไร หากมีรายละเอียดเพิ่มเติมเมื่อไหร ทามาโมะจังและทีมงาน PlayUlti จะรีบมาแจ้งให้ทราบทันที
