หากเพื่อนๆ ยังจำกันได้ว่าในช่วงงาน E3 2018 ของ Bethesda ได้ปล่อยคลิปวิดีโอจิกกัดตัวเองที่เกมซีรี่ส์ Skyrim หรือ The Elder Scrolls เกมแนว RPG Open World สุดโด่งดังวางจำหน่ายลงด้วยการเล่นแบบสั่งการด้วยเสียงลำโพงยันไปจนถึงตู้เย็นแบบทำน้ำแข็งอัตโนมัติ เพื่อแสดงให้เห็นว่าตลอดระยะ 7 ปีที่ผ่านมา ตัวเกมประสบความสำเร็จด้านยอดขายอย่างสูงในการวางจำหน่ายลงทุกแพลตฟอร์มไม่ว่าจะทั้งบน PC [Steam], PlayStation 4, Xbox One และ Nintendo Switch ก็ตาม แต่เพื่อนๆ หลายคนก็อาจสงสัยว่าทำไมถึงนำตัวเกมพอร์ตมาลงหลายเวอร์ชั่นจังเลย ในวันนี้เรามีคำตอบมาคลายข้อสงสัยแล้วล่ะคะ
โดยเรื่องเริ่มมาจากงานสัมมนาสำหรับทีมผู้พัฒนาเกมและเปิดตัวเกมอินดี้ฟอร์มเล็กโดยเฉพาะ Gamelab 2018 ที่จัดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คุณ Geoff Keighley ได้เข้าสัมภาษณ์คุณ Todd Howard ผู้กำกับเกม Skyrim ถึงความสำเร็จของการวางจำหน่ายเกม Skyrim ลงทุกแพลตฟอร์มแล้วประสบความสำเร็จด้านยอดขายทุกครั้ง คุณ Todd ได้ตอบกลับมาว่า “ปัจจุบันยังมีผู้เล่นจำนวนมากประมาณหลายล้านคนเล่น Skyrim กันอยู่ทุกเดือน จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเราวางจำหน่ายเกมซ้ำแล้วซ้ำเล่า หากคุณอยากให้เราเลิกวางจำหน่ายลงแพลตฟอร์มอื่นๆ คุณก็หยุดซื้อเกมของเรามาเล่นซะสิ”นอกจากนี้คุณ Todd ออกมาให้เหตุผลว่าทำไมถึงใช้เวลานานกว่าจะพัฒนาเกมซีรี่ส์ Skyrim ภาคต่อด้วยวิสัยทัศน์กว้างไกลของเขาว่า “ตัวผมชอบแนวคิดสร้างเกมที่เราสามารถเล่นได้ยาวๆ และยั่งยืนต่อไปเป็นระยะเวลานาน แทนที่จะวางจำหน่ายเป็นรายปีหรือเป็นเกมภาคแยก นอกจากนี้ในทุกปีมักจะมีแนวคิดหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ สำหรับพัฒนาเกมอยู่มากมายให้แปลกใจอยู่ตลอดเวลา หากวันหนึ่งตัวผมล้างมือจาก Bethesda ไปแล้ว ผมมั่นใจว่าจะมีใครสักคนที่จะนำพาเกมซีรี่ส์นี้ไปไกลกว่าที่ตัวผมเคยทำมาก่อน ”
สำหรับทามาโมะจังแล้วก็รู้สึกเห็นด้วยกับสิ่งที่คุณ Todd กล่าวมานะคะ เพราะเกมสมัยนี้หากเราทำยอดขายแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่งแล้วประสบความสำเร็จสูง ย่อมต้องพอร์ตมาลงแพลตฟอร์มอื่นเพื่อทำกำไรเพิ่มค่ะ นอกจากนี้การขายลงแพลตฟอร์มอื่นยังเป็นตัวกำหนดชี้วัดอีกด้วยว่าตัวเกมจะได้ไปต่ออีกด้วยไหม ยกตัวอย่างง่ายๆ จากแคปหมู เอ้ย Capcom ที่ปัจจุบันขยันเอาเกมรุ่นเก่าอย่างเกมซีรี่ส์ Devil May Cry หรือ Megaman มาลงในแพลตฟอร์มสมัยใหม่ให้เกมเมอร์ได้เล่นเพื่อดูยอดขายว่าจะไปได้เท่าไหร หากยอดขายที่เป้าที่ตั้งไว้ก็จะเป็นการยืนยันว่ายังมีกลุ่มผู้เล่นที่รอคอยเกมนี้เยอะพอสมควรในการสร้างภาคต่อ แต่หากยอดไม่ถึงเป้าตัวเกมก็จะยุติการสร้างต่อทันที ถือได้ว่าเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทีมผู้พัฒนาทุกแห่งทำตามกันหมดแล้วล่ะคะ แล้วเพื่อนพ้องชาว PlayUlti ละค่ะ คิดเห็นยังไงกันบ้างเอ่ย
