คำเตือนก่อนอ่าน
บทความนี้เป็นความเห็นของผู้เขียน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เมื่อสัปดาห์ก่อนเราได้พูดถึง 5 หนังห่วยที่สร้างมาจากเกมไปแล้ว คราวนี้เราก็จะมาพูดถึงหนังที่สร้างมาจากเกมที่ทำออกมาแล้วมันดีกับ 5 เรื่องที่จะพูดต่อไปนี้กันนะครับ
สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านตอนที่แล้วสามารถไปอ่านกันได้โดยคลิกที่นี่นะครับ
เกมที่1 Lala Croft: Tomb Raider [2001]
เกมแอคชั่นที่มีจุดขายของตัวละครสาวทรงโตที่เรารู้จักกันในนาม Lala Croft กับเกมที่ฮิตมากๆ ในยุค 90 เรียกว่าคอเกมหลายๆ คนไม่มีใครไม่รู้จักเธอคนนี้ และเป็นธรรมเนียมของความนิยมที่มักจะถูกนำเอามาทำเป็นภาพยนตร์ให้ได้ชมกันอีกในปี 2001 โดยก่อนหน้าที่ภาพยนตร์นี้จะถ่ายทำได้มีการแคสติ้งเฟ้นหานักแสดงที่มารับบทบาทเป็นสาวบุ๊ทรงโตคนนี้ ปรากฏว่าผู้ที่ได้รับบทไปนั้นคือ Angelina Jolie ซึ่งการแสดงของเธอนั้นก็ไม่ทำให้เกมเมอร์ผิดหวัง เพราะสัดส่วนและองค์ประกอบนั้นมันคือตัวละคร Lala Croft ที่แทบจะคล้ายกันทุกกระเบียดนิ้ว รวมไปถึงการถ่ายทอดแอคชั่นของเรื่อง บวกกับเนื้อหาการผจญภัยตามหาวัตถุโบราณที่เป็นคอนเซ็ปท์ตามตัวเกมด้วยแล้ว ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้จาก Box Office ไปมากกว่าทุนสร้างถึง 274 ล้านเหรียญสหรัฐกันเลยทีเดียว
เกมที่2 Hitman [2007]
เกมแอคชั่นในรูปแบบการสังหารแบบลอบเร้นที่ได้รับความนิยมจนถูกกลายมาเป็นภาพยนตร์จอเงินในปี 2007 แม้ว่าเนื้อหาจะไม่ได้ใกล้เคียงกับตัวเกมสักเท่าไหร่ แต่เรื่องรายได้และยอดวิจารณ์กลับอยู่ในระดับที่ทำออกมาใช้ได้ไม่แย่หรือเลวร้ายเกินไปนัก และได้มีการสร้างรีเมคกันอีกครั้งในปี 2015 และได้รับผลตอบรับในด้านคะแนนที่อยู่ในระดับพอใช้แต่ก็ยังสู้เวอร์ชั่น 2007 ไม่ได้ ที่สำคัญบทบาทของนักฆ่าหัวบาร์โค้ดนั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงนักแสดงทั้ง 2 ภาคอีกด้วย
เกมที่3 Need For Speed [2014]
เกมแข่งรถระดับตำนานจากค่าย EA ที่ออกมาหลายต่อหลายภาคด้วยกัน ในครั้งนี้ก็ถึงเวลาที่มีการนำเจ้าเกมนี้ออกมาทำเป็นภาพยนตร์กันเสียที หลังจากที่ลือกันมานานมากๆ ว่าจะสร้างกันหลายต่อหลายครั้งร่วมสิบปีได้ และในปี 2014 ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ถูกสร้างขึ้นมา โดยเนื้อหานั้นจะเน้นหนักในเรื่องของการแข่งรถข้ามรัฐ โดยเอารถสปอร์ตสุดหรูที่เป็นหัวใจหลักของเกมนี้มาซิ่งบนท้องถนนทางหลวงกัน กระแสเรื่องนี้ถือว่าดีมากๆ ทำรายได้สูงและมีคะแนนวิจารณ์ที่ค่อนข้างดี ได้ข่าวแว่วมาว่าภายในอนาคตจะมีการนำมาทำเป็นภาคต่ออีกครั้งด้วย
เกมที่4 Prince Of Persia The Sands Of Time [2010]
ตำนานเกมแอคชั่นมหาหินในสมัยก่อนกับเรื่องราวของหนุ่มอาหรับที่ต้องฝ่าดงกับดักมาช่วยเหลือลูกสาวสุลต่านที่ถูกกักขังโดยพ่อมดชั่วร้าย ซึ่งได้รับความนิยมมากและการันตีว่าเป็นหนึ่งในเกมที่เล่นยากอีกเกมหนึ่งในยุคปลาย 80 ในฉบับภาพยนตร์ปี 2010 ได้หยิบยกเอาเรื่องราวและพล็อตมาจากตัวเกมภาค The Sands Of Time ที่ถูกลงไปเมื่อปี 2003 ซึ่งได้รับความนิยมไม่แพ้เวอร์ชั่น 2D กันเลยทีเดียว แล้วด้วยความนิยมนี้ ในปี 2010 ก็ได้ถูกหยิบมาทำเป็นรูปแบบภาพยนตร์ขึ้น ซึ่งตัวภาพยนตร์นั้นก็อยู่ในกระแสที่ดีและมีรายได้ที่เรียกว่ากำไรพอสมควร อีกทั้งรูปแบบแอคชั่นและเนื้อหาที่ทำออกมาได้ดีและสนุกไม่แพ้รูปแบบเกมอีกด้วย
เกมที่5 Silent Hill [2006]
ถ้าตอนที่แล้วเราพูดถึง Resident Evil เกมนี้ก็ถือว่าเป็นคู่แข่งในสายเกมสยองขวัญกับ Silent Hill เกมสยองขวัญที่ได้รับการยอมรับว่ามีเนื้อเรื่องที่ระทึกและชวนหลอนอีกเกมหนึ่ง ได้ถูกสร้างมาทำเป็นภาพยนตร์สยองขวัญชื่อเดียวกันในปี 2006 เนื้อหามีการอ้างอิงจากตัวเกมภาคแรกและมีการเปลี่ยนแปลงตัวละครออกมา ผลตอบรับของเรื่องนี้อยู่ในระดับที่ดีและทำรายได้ไปได้พอสมควร และในปี 2012 ก็ได้ทำภาคต่อออกมาโดยภาคนี้ได้เพิ่มระบบการฉายแบบสามมิติเข้าไปให้มีความสยองมากขึ้นอีกด้วย
ยังมีภาพยนตร์ที่สร้างจากเกมอีกมากมายที่เราไม่ได้พูดถึงกัน ซึ่งแต่ละเรื่องก็มีความทรงจำทั้งดีและไม่ดีปะปนกันไป และในอนาคตเราจะมีโอกาสได้ชมภาพยนตร์ที่สร้างจากเกมถึง 2 เรื่องด้วยกันนั่นคือ Warcraft และ Assassin's Creed ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้ก็เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากเกมที่คอเกมและคอหนังทั้งโลกกำลังจับตามอง และอื่นๆ อีกมากมายที่กำลังจ่อคิวรอดำเนินการสร้าง ซึ่งจะเห็นได้ว่าวิวัฒนาการของอุตสาหกรรมเกมนั้นมีความก้าวหน้าและไปไกลเทียบเท่ากับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ จนทำให้ทั้งสองสิ่งนี้มาอยู่ควบคู่และดำเนินไปด้วยกันได้ โดยพื้นฐานของทั้งสองสิ่งนี้ก็คือ "ความบันเทิง" ที่จรรโลงให้มนุษย์อย่างเราได้รู้สึกสนุกและมีความสุขนั่นเอง
ขอบคุณเครดิตภาพ
- wikipedia.com
-weapons-universe.com
-mlive.com
-artymind.com
-cassavafilms.com
-cinema.com
-dan-dare.org
-engadget.com