หลัง ๆ เริ่มมีกระแสที่แย่ ๆ ของบริษัท Konami ที่หลุดออกมามากขึ้นทุกที ๆ ทั้งจากข่าววงนอกโดยเฉพาะปัญหากับทาง ฮิเดโอะ โคจิมะเองหรือแม้กระทั้งคนในวงในของบริษัทเอง แม้ว่าตอนนี้ทาง Konami ยังไม่ได้แถลงข่าวออกสื่อ แต่น่นอนว่าคงจะไม่อยู่เฉยแน่นอน...เนื่องจากผู้อ่านบางทานที่ไม่ได้ติดตามผลงานของโคจิมะหรือไม่ได้เป็นแฟนเกม Metal Gear ล่ะก็อาจจะงงว่า...ใครกัน ทำไมเขาดังขนาดนั้นเลยเหรอ ? ฉะนั้นบทความนี้จะเป็นการเล่ามหากาพย์ดราม่าระหว่าง Konami กับคุณ ฮิเดโอะ โคจิมะแบบให้พอเข้าใจ ตั้งแต่ประวัติโดยย่อ สู่เส้นทางการร่วมงานในร่มเงาของ Konami จนไปถึงจุดแตกหักว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร
( คลิปจาก Channel: WarSnekey )
ในช่วงเวลาว่างของคุณโคจิมะ นอกจากรับชมภาพยนตร์แล้ว เขาก็ยังใช้เวลาในการเล่นวีดีโอเกมเครื่อง Famicom ด้วย และเกมแรกที่เขาได้เล่นคือ Super Mario Bros. ซึ่งเป็นการจุดประกายความฝันสองสิ่งภายในตัวเขานั้นก็คือ การได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาอุตสาหกรรมเกมในญี่ปุ่นและความฝันที่อยากจะเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ด้วย ในช่วงที่เขาเริ่มหางานทำ ก็ได้ไปสมัครที่บริษัทเกม Konami ในปี ค.ศ 1986 ตำแหน่ง Designer และ Game Planner และนี่คือจุดเริ่มต้นเส้นทางในร่มเงาของบริษัทนี้
ในช่วงที่คุณโคจิมะได้ทำงานร่วมกับบริษัท Konami ก็เริ่มมีผลงานแรก ในช่วงนั้นได้แก่ Penguin Adventure ในฐานะผู้ช่วยอำนวยการสร้าง ซึ่งก็ประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง และเขาก็สะสมประสบการณ์เรื่อย ๆ จนกระทั้งได้มีโอกาสสร้างเกมเป็นของตัวเองเกมแรกขึ้นโดยมีชื่อว่า Last World ซึ่งเป็นเกมแนว Action Side-Scrolling ได้อิทธิพลมาจากเกมมาริโอ้ แต่ไป ๆ มา ๆ ทาง Konami ก็สั่งให้ล้มโครงการนี้ไปซะ เพราะรู้สึกว่าไม่เปรี้ยงพอ และไม่มีเอกลักษณ์เท่าไหร่นัก...แน่ล่ะครับ มือใหม่หัดสร้างในสมัยนั้น ยังมีสกิลไม่แกร่งกล้าพอ ฮ่า ๆ
และถัดไปเป็นเวลา 1 ปี หรือ่วงปี ค.ศ 1987 และปี 1990 คุณโคจิมะก็ได้สร้างจุดเริ่มต้นของตำนานลุงงู นั้นก็คือเกม Metal Gear ภาคแรกและภาคสองขึ้น ซึ่งเป็นแนว Action ( จริง ๆ มันคือแนว Stealth แต่ในยุคนั้นยังไม่มีการบัญญัติชื่อแนวเกมเอาไว้ ) บนเครื่อง MSX2 ซึ่งเป็นเครื่องเล่นเกมคู่แข่ง Famicom แต่ !!....แต่มันไม่บูม มันยังไม่เปรี้ยงครับ ถึงแม้ว่าจะถูกเล่าปากต่อปากว่า เกมมันแหวกแนว ไม่ได้บู้ล้างพลาญก็ตาม เพียงเพราะมันไม่ได้อยู่ใน Famicom นั้นแหละ
กว่าจะมาบูมจริง ๆ จัง ๆ ก็ต้องรอไปถึงปี 1998 ซึ่งได้สร้างเกม Metal Gear Solid ขึ้นมาบนเครื่อง PlayStation 1 ซึ่งในยุคนั้นถือว่างานดีมาก ทั้งเนื้อเรื่องและระบบเกม พร้อมกับได้บัญญัติไว้ว่านี่คือเกมแนว Stealth และที่สำคัญ มันคือจุดกำเนิดของ สายลับกับกล่องมหัศจรรย์ เพราะมีระบบหลบสายตาศัตรูด้วยการมุดหลบในกล่องกระดาษ มันเป็นความที่ไม่ Make Sense แต่ชอบและเป็นเอกลักษณ์ที่ผู้เล่นเกมนี้ทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่จะคุ้นเคยอย่างดี และระบบมุดกล่องกระดาษก็ใช้มาจนภาคล่าสุดและภาคสุดท้ายของซีรี่ส์ ( หากไม่นับ Metal Gear Survive ) นอกจากนี้เขาก็ได้เป็นผู้กำกับและเขียนบทอีกหลายเกมมากมายซึ่ง จะเน้นเนื้อหาที่เข้มข้นและคาดเดาไม่ได้ให้ผู้เล่นลุ้นได้เกือบตลอดเวลา
แต่ทว่า จุดผลิกผันที่ทำให้เกิดรอยร้าวระหว่างคุณโคจิมะและ Konami ได้เกิดขึ้นนั้นก็คือ ช่วงที่เขากำลังพัฒนาเกม Metal Gear Solid V: The Phantom Pain นั้น ภายในบริษัทก็มีการเปลี่ยนแปลงโครางสร้างผู้บริหารใหม่ซึ่งคนปัจจุบันนั้น เขามีมุมมองต่อบริษัทที่จะเน้นไปยังเรื่องผลกำไรที่ได้และการลุยตลาดตู้สล็อตแมชีนหรือปาจิงโกะในภาษาญี่ปุ่น แถมยังมองว่า ทีมงาน Kojima Production ใช้งบในการสร้างเกม MGS V มากเกินไป
คุณโคจิมะเขาจะเป็นพวกที่หากสร้างเกมแต่ละที ต้องให้ดีเริศประเสริฐศรี ซึ่งแต่ก่อนมันก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะผู้บริหารคนเก่าเขาเชื่อมั่นว่าแม้จะใช้งบจนบานปลาย แต่ได้กำไรกลับมาทุกครั้งแถมทำให้บริษัทมีชื่อเสียงมาก ๆ ซึ่งแน่นอนครับ แต่ละภาคของเกม Metal Gear Solid ใช้งบเยอะนะ แต่ก็ได้คืนมาทุกภาค ( เฉพาะภาคที่โคจิมะกำกับเอง ) แต่กับผู้บริหารคนใหม่นั้นต่างไป เขามองว่าคุณโคจิมะใช้งบพลาญเกินไป ได้ไม่คุ้มเสีย เลยมีการลดคุณภาพของตัวเกมลงและให้รีบ ๆ ขายออกไปซะ ซึ่งคุณโคจิมะไม่ได้อยากทำอย่างนั้นหรอก มันไม่ใช่แนว และแถมยังบอกอีกว่าทำไมถึงไม่เข้าใจตลาดวงการเกมทั้งที่ได้มาเป็นผู้บริหาร
สุดท้ายยังไงซะ อำนาจการตัดสินใจก็ขึ้นอยู่กับผู้บริหารอยู่แล้วนั้นคือ ลดคุณภาพลงซะ ประหยัดงบ แถมยังต้องยกเลิกโปรเจค Silent Hills ที่ผู้คนนนี่ตั้งตารออย่างมากมาย แน่นอนว่ามันส่งผลให้ตัวเกมออกมาไม่สมบูรณ์อย่างแน่นอนและสร้างความไม่พอใจต่อทีมงานพัฒนาเกมมากด้วย ว่ากันว่าถึงขึ้นมีปากเสียงเลยทีเดียว และในที่สุด...ฮิเดโอะ โคจิมะก็ประกาศลาออกจากการเป็นบุคคลากรของบริษัท Konami เกือบจะทันทีทันใด และส่งผลให้ลูกทีมของ Kojima Productions และพนักงาน Konami หลายคนทยอยกันออกตามไปด้วย
คุณผู้อ่านยังจำกันได้ไหมครับ ? ตั้งแต่ข่าวคุณโคจิมะลาออกจากการเป็นพนักงานของ Konami ผู้คนก็ต่างพากันโกรธแค้นบริษัทนี้เป็นอย่างมาก บ้างก็ว่าไม่เข้าใจควาามคิดของผู้บริหาร บ้างก็ว่าผู้บริหารโง่ที่ทำลายเกมดี ๆ ที่พวกเขารอคอย บ้างก็ว่าผู้บริหารคิดได้อย่างไรที่ยอมปล่อยพนักงานฝีมือดีเพียงแค่เห็นกำไรเป็นที่ตั้ง ?
หลังจากดราม่าภายในบริษัทนั้น เกม Metal Gear Solid V: The Phantom Pain ก็ยังดำเนินการพัฒนาต่อไป แต่... เครดิตทีมงาน Kojima Productions ได้ถูกถอดออกจากหน้าเว็บไซต์ แถมพอเกมทำเสร็จและวางจำหน่าย ตัวเกมกลับเสร็จไม่สมบูรณ์เพราะไม่ได้สร้างตอนสุดท้ายของเกมไว้ ( จนกระทั้งมี DLC ปล่อยตามหลัง ซึ่งเป็นเบื้องหลังการสร้างตอนสุดท้าย ไม่ใช่ตัวเกมเสริมเลย ) เคราะห์ซ้ำของคุณโคจิมะที่ผมมองว่าเจ็บปวดที่สุดคือในงาน E3 เขาไมไ่ด้มาขึ้นบนเวทีเพื่อโปรโมต Metal Gear Solid V: The Phantom Pain เลย แถมตัวแผ่นปกของเกมสำหรับคนที่ซื้อเกมแแผ่น จะไม่มีคำว่า Product by Hideo Kojima เหมือนภาคก่อน
แน่นอนครับคุณโคจิมะไม่ได้แคร์อีกแล้ว เพราะภาคสุดท้ายที่สร้างก็เสร็จแล้วแม้จะรู้สึกปวดใจเพราะมันไม่สมบูรณ์ Fox Engine ที่พัฒนามากับมือกลายเป็นทรัพย์สินของ Konami ไปเรียบร้อย แต่ยังโชคดีที่ทาง Sony Entertainment ต้องการตัวเขามาร่วมงานด้วยเลยยื่นข้อเสนอดึงตัวเขาร่วมงานกับบริษัทแห่งใหม่เกือบจะทันทีซึ่งตอนนี้ก็พัฒนาเกม Death Stranding และส่วนทาง Konami ได้เลิกโปรเจคเกมบน Console ทั้งหมด ( ยกเว้น Pro Evolution Soccers หรือวิ่นนิ่ง ) แล้วหันมาทุ่มทุนลุยตลาดสล็อตแมชชีนกับสมาร์ทโฟนแทน ผู้คนก็ยิ่งสาปส่งเข้าไปใหญ๋อีก
ที่อ่านมาทั้งหมดนั้นยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้นมหากาพย์เท่านั้นครับ ดราม่าที่แท้จริงมันเริ่มจากตรงนี้ ตรงที่ว่าทางคุณโคจิมะได้บอกว่า เงินค่าชดเชย์ให้กับอดีตพนักงาน Konami ยังให้ไม่หมด ซึ่งตอนนั้นบริษัทเงียบกริบจนกระทั้งได้มีการออกสื่อลงโซเชียลเน็ตเวิร์ก ถึงจะมีแถลงการตอบกลับซึ่งบอกว่า ทางบริษัทจ่ายหมดแล้ว ทั้งที่ความเป็นจริงนั้นยังเลย ต่อมาทีมงานใน Kojima Productions ก็ไม่สามารถทำเรื่องประกันสุขภาพของ Kanto IT Software Health Insurance Association ได้เนื่องจากผู้บริหาร Konami คนปัจจุบันเป็นประธานที่นี่ด้วยสิ จึงไม่มีใครการทำประกันให้เลย
ในช่วงปี 2016 Konami ก็ได้โปรโมตเกม Metal Gear Survive ขึ้นมา ซึ่งสร้างความแปลกใจให้กับคนที่ติดตามข่าวสารมากเพราะบริษัทเคยประกาศว่าจะไม่สร้างหรือพัฒนาเกมเกม Console ขึ้นมาอีก ( แม้ว่าจะมีการเคยพูดว่าไม่ได้บอกแบบนั้นก็ตาม ) และการสร้าง Metal Gear ภาคนี้มีแต่คนบอกว่าไม่เคารพต้นฉบับเลย และเรื่องนี้ก็ไปถึงหูคุณโคจิมะ จึงได้นั่งดู Trailer ของมัน ทำให้เขาแอบขำเบา ๆ เช่นกันว่าซีรี่ส์ที่เหมือนเป็นลูกรักของเขากลายเป็นเกมแนวซอมบี้ไปแล้วพร้อมลงคลิปในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ( แต่เอาจริง ๆ ภาค 5 ก็มีสิ่งที่เกือบจะเป็นซอมบี้กลาย ๆ แล้วนะ )
พอเรื่องคลิปนี้ไปผ่านตาบริษัท Konami เท่านั้นแหละถึงกับต้องเคลื่อนไหวออกมาเลยโดยมีการส่งจดหมายไปยังบริษัท Kojima Productions ว่า "รังแกแต่ผม ไม่ยุติธรรมเลย" เท่านั้นแหละครับ บริษัท Konami ก็เริ่มมีข่าวลือแปลก ๆ ออกมานับตั้งแต่นั้นจนปัจจุบันที่พนักงานภายในถึงกับเอามาพูด ส่วนใหญ่ก็จะมีแต่ข่าวเสียทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการตั้งกฎห้ามและบังคับเกินพอดี, ห้ามใช้อีเมลส่วนตัว, ใครพักเกินเวลาจะถูกประจาน, ข่มขู่ กดดันอดีตพนักงานบริษัทที่ทำธุรกิจส่วนตัวจนต้องล้มเลิกไป, ห้ามใช้ Resume ว่าเคยทำงานกับ Konami มาก่อน หนักสุดก็หากอดีตพนักงาน Konami ได้ที่ทำงานใหม่ก็จะได้รับจดหมายหรือโทรศัพท์มาบอกว่าบุคคลนี้อันตรายต้องระวังไว้ด้วย
ทั้งหมดนี้คือความเป็นมามหากาพย์ดราม่าระหว่างคุณโคจิมะและ Konami ตั้งแต่ก่อนเกิดเรื่องจนปัจจุบันซึ่งเขียนไว้และสรุปจากข่าวที่ผ่าน ๆ มา รวมเป็นบทความเดียวและสรุปให้กระชับขึ้น หวังว่าจะไม่เยอะเกินไปจนผู้อ่านตาลายนะครับ หากข้อมูลตรงไหนตกหล่นสามารถนำเสนอ เพิ่มเติมหรือติชมได้เลยครับ เอ้อ ! ผมไม่ได้เขียนอวยคุณโคจิมะแต่อย่างใดนะเพราะถึงจะมีผลงานดี ๆ แต่ใช่ว่าจะไม่มีอะไรที่ไร้ที่ติ และสำคัญเลยคือ ผมก็ไม่ได้รู้ลึกตื่นหนาบางขนาดนั้นว่าแท้จริงแล้วเป็นอย่างไร แต่อยากให้ติดตามกันต่อไปแล้วผู้อ่านตัดสินกันดูครับ !