เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ผมได้เจอกับเพื่อนคนหนึ่ง และได้พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องเกมกันตามปกติ แต่มีอยู่หัวข้อหนึ่งที่ผมคิดว่าน่าสนใจ เลยนำมาเขียนเป็นบทความนี้
“เวลาเราเล่นเกม จะต้องเก็บ Achivement ให้ครบทุกอันหรือไม่?” ผมกลับมาคิดจนเกิดคำถามขึ้นมาว่า จริงๆ ไอ้ระบบ Achivement หรือระบบความสำเร็จของเกมเนี่ย มันมีผลต่อการเล่นเกมมากน้อยขนาดไหนกัน?
มาทำความเข้าใจกันก่อนว่าระบบ Achivement นั้นมันคืออะไร ระบบ Achivement หรือภาษาของชาว PlayStation เรียกมันว่า Trophy บางแพลตฟอร์มเรียกว่า Medal,Challenge หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวกับความสำเร็จ คือระบบการให้รางวัลสำหรับผู้เล่นที่มีความพยายามหรือผ่านการท้าทายในโจทย์ที่ตัวเกมนั้นกำหนดให้สำเร็จ ซึ่งเมื่อผ่านได้ก็จะได้รางวัลเป็นแต้มบ้าง เป็นถ้วยเงิน ถ้วยทองบ้าง โดยประโยชน์ของมันนั้นเป็นเพียงแค่รางวัลประดับไอดีของตัวเองว่าในครั้งหนึ่งเคยผ่านโจทย์แบบนี้ หรือแบบท้าทายตัวนี้เพียงแค่นั้น
ย้อนไปในสมัย 1982 Activision ถือว่าเป็นเจ้าแรกๆ ที่คิดค้นระบบความสำเร็จนี้ขึ้นมา แต่ไม่ได้เรียกว่า Achivement นะครับ มันเรียกระบบนี้ว่า High Score คอเกมตู้หรือเกมทั่วไปคงจะคุ้นชื่อนี้กันใช่ไหมล่ะครับ มันคือระบบการจัดอันดับคะแนนของเกมต่างๆ โดยเมื่อใดที่ผู้เล่นทำคะแนนได้มากกว่าที่กำหนดให้ ผู้เล่นจะต้องถ่ายรูปคะแนนของตัวเองจากจอทีวี แล้วส่งให้ทางค่ายพัฒนา เพื่อทางค่ายจะมอบรางวัลให้เป็นตราสัญลักษณ์ไว้ติดเสื้อ คล้ายๆ กับตราหรือบั้งต่างๆ ที่ติดตามเสื้อลูกเสือนั่นแหละครับ และมันก็ได้รับความนิยมมากในสมัยที่เครื่องเกม Atari 2600 นั้นกำลังเป็นที่นิยมอีกด้วย
แต่ระบบนี้กว่าจะเป็นที่ยอมรับจริงๆ ก็ต้องไปที่ปี 2007 เมื่อ Games for Windows - Live ของทาง Microsoft ได้นำเอาระบบ Achivement มาใช้ในเกม Halo 2 และในขณะเดียวกัน Valve ก็เป็นเจ้าที่สองในการหยิบเอาระบบ Achivement มาใช้ใน STEAM ตามมาด้วยปี 2008 Sony ก็หยิบเอาระบบความสำเร็จนี้มาใช้ในชื่อเฉพาะว่า Trophy บนเครื่อง PlayStation 3 และนั่นก็ทำให้ระบบ Achivement นั้นมีอิทธิพลต่อเหล่าเกมเมอร์ทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน
จะเห็นได้ว่าเกมที่วางจำหน่ายมากมายหลายเกมนั้น ส่วนใหญ่มักจะมีระบบ Achivement ให้ได้ทำกันไปหมด ไล่มาตั้งแต่ระดับง่ายสุดที่เพียงแค่เล่นจบตาสองตาแล้วปลดล็อกรางวัลความสำเร็จ ไปจนถึงระดับโหดหินที่กาลเวลาผ่านไป 4-5 ปีก็ยังไม่สามารถพิชิตมันได้เลย และในโลกนี้ก็มีคนที่สามารถเล่นเกมเพื่อเก็บรางวัลความสำเร็จอย่างเดียวโดยไม่สนใจความสนุก ทำให้ต้องมีสภาพหน้าตาซูบผอมเหมือนคนอดหลับอดนอนอีกด้วย
ระบบ Achivement ไม่ได้เป็นเพียงแค่สิ่งที่ประกาศความภาคภูมิใจของผู้เล่น ในแพลตฟอร์มบางเจ้า มีการนำเอาระบบ Achivement ไปผนวกกับการแลกรับของรางวัลจริงๆ ยกตัวอย่างเช่น PlayStation Network ในโซนฝั่งอเมริกา ผู้เล่นคนไหนที่เก็บถ้วยรางวัลตั้งแต่ Platinum Trophy ,Gold Trophy หรือ Silver Trophy ตามที่กำหนด สามารถแลกรับเงินจริงในการซื้อสินค้าของ PlayStation Store ฟรี หรือจะเป็นของฝั่ง Uplay แพลตฟอร์มเกมจากค่าย Ubisoft ก็ใช้ระบบ Achivement ในการนำเอาแต้ม Unit มาใช้แลกไอเท็มในเกมหรือเป็นส่วนลดในการซื้อเกมในเครือได้ เป็นต้น ทำให้เพิ่มความน่าสนใจและเป็นตัวกระตุ้นให้เหล่าเกมเมอร์นั้นมีเป้าหมายในการเล่นที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
ผลประโยชน์ของระบบ Achivement นั้นไม่ได้มีแต่ผู้เล่นเพียงอย่างเดียว ฝั่งนักพัฒนาเกมก็ถือว่าได้ประโยชน์เช่นเดียวกัน โดยสตูดิโอเกมบางแห่ง มีการยืนยันออกมาอย่างชัดเจนว่า ระบบ Achivement นั้นมีส่วนช่วยให้วงการเกมเติบโต และสร้างรายได้ให้กับผู้พัฒนาไม่น้อย ซึ่งนั่นส่งผลให้มีเงินทุนในการพัฒนาเกมอื่นๆ ในอนาคต เรียกว่าเป็นผลดีทั้งคนทำและคนเล่นอีกด้วย
ใครจะไปคิดว่าจากระบบการทำคะแนนสูงสุดในวีดีโอเกมเล็กๆ กลายมาเป็นระบบรางวัลความสำเร็จที่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในทุกแพลตฟอร์ม ดังนั้นแนวโน้มของระบบ Achivement ในอนาคต มันจะยังคงขับเคลื่อนไปพร้อมกับอุตสาหกรรมเกม และจะเป็นตัวแปรสำคัญในการดึงดูดผู้เล่นให้สามารถสนุกกับการเล่นเกมมากขึ้น บางทีในปีต่อๆ ไปข้างหน้า ระบบ Achivement อาจจะเกี่ยวข้องกับสินค้าบางอย่างที่ใกล้ตัวเราในชีวิตประจำวันก็เป็นได้
ข้อมูลอ้างอิง
https://kotaku.com/playstation-trophies-can-now-earn-you-a-very-small-amou-1820163899
