สำหรับคอเกมแล้วชื่อ Gabe Newell น่าจะคุ้นหูคุ้นหน้าคุ้นตากันดี เพราะเป็นถึงผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Valve ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Launcher สามัญประจำคอมของเหล่าเกมเมอร์ Steam เขาได้เปิดโอกาสให้สัมภาษณ์ผ่านอีเมล โดย elpollodiablo187 ยูสเซอร์คนหนึ่งจากเว็บบอร์ด Reddit จุดเริ่มต้นของคำถามนั้นมากจากประเด็นของการพัฒนาเกม Serious Sam VR: The Last Hope ภาคใหม่ที่อาจจะลงเป็น Exclusive เกมให้กับ Oculus Rift เขาจึงต้องการสอบถามถามจุดยืนของบริษัทและการพัฒนาเกมเพื่อรองรับเทคโนโลยี Virtual Reality [VR] แบบ Exclusive และท่านลอร์ดได้ตอบกลับดังนี้
"ผมไม่คิดว่า การทำเกม Exclusive สำหรับพวกแว่น VR นั้นจะเป็นเรื่องดีสำหรับลูกค้าหรือแม้กระทั่งผู้พัฒนา มันจะนำมาซึ่งปัจจัยเสี่ยงอื่นๆอีกมากมาย ไม่ว่าคุณจะริเริ่มการพัฒนาใดๆ ต้องคิดเสมอว่ามีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐศาสตร์ การเงินการลงทุน การออกแบบ การจัดตารางที่เหมาะสม เยอะแยะเต็มไปหมด นักพัฒนาหน้าใหม่ก็มักชอบอะไรท้าทาย VR ก็เช่นกัน นั่นยิ่งนับความเสี่ยงคูณ 3"
"สำหรับเรา (Valve) ผ่านอะไรมามากมาย ประสบการณ์ทำให้เราแก้ปัญหาความเสี่ยงเหล่านั้นได้ดีกว่าทีมพัฒนาหน้าใหม่อยู่แล้ว เรามีความยินดียิ่งที่จะมอบเงินให้กับทีมพัฒนาหน้าใหม่ แต่เราไม่ได้ยึดติดว่าจะผูดมัดกับ Oculus หรือ PlayStation VR และเชื่อเสมอว่าเมื่อเขาได้รับงบไปแล้ว เขาจะเริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้น และนำไปต่อยอดในการพัฒนาเกมที่ไม่ได้ยึดติดกับเทคโนโลยีอย่างใดอย่างหนึ่ง"
แน่นอนว่าเป็นเรื่องดราม่าขนาดย่อมเพราะมีทั้งคงเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยว่าด้วยแนวคิดของ Gabe ที่ Valve พยายามจะควบคุมและจูงใจให้เหล่าผู้พัฒนาเปลี่ยนการทำเกมแบบ Exclusive มาเป็นลงให้ครบถ้วนทั่วแพลตฟอร์ม นักพัฒนาอาจจะหันหลังให้กับ Valve ไปพึ่งแหล่งอื่นเช่น Facebook อย่างไรก็ตาม Valve ก็เป็นบริษัทที่มีอิทธิพลสูงในวงการเกม ท้ายที่สุดหากไปไม่รอดก็ต้องกลับมาพึ่งพาพวกเขาอยู่ดี เรื่องราวทั้งหมดนี้อาจเป็นเพียงประเด็นการพัฒนาเล็กๆในวงการเกม แต่เชื่อเถอะว่าต่อไปในอนาคตมันจะส่งผล อย่างมากต่อเหล่านักพัฒนาและรวมไปถึงเกมเมอร์อย่างเราๆแน่นอน
