Navigation
หน้าแรก
ข่าว
บทความ
Game & Community
Playultimate © 2020
Cookie Policy
,
About us
,
Contact Us
เมื่อนำโลกของวิญญาณใน Beyond: Two Souls กับ ปีหนึ่งเพื่อนกันฯ มาเล่าสู่กันฟังละ
Playulti
24 Jun 2017, 22:55:45
ข่าวเกม PC
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ชาว
Play
Ulti
กลับมาพบกับอาเจ๊นัทกันอีกเช่นเคยนะคะ วันนี้ขอนำเสนอบทความใหม่ที่จะพาเกมเมอร์ทุกคนไปรู้จักของโลกวีดีโอเกมและโลกของภาพยนตร์ให้ดีมากยิ่งขึ้น เพราะจริงๆ แล้วโลกทั้งสองก็มีความใกล้เคียงกันคือการนำเสนอและเล่าเรื่อง มีอยู่หลายเกมที่ทำออกมาเหมือนเรากำลังชมภาพยนตร์ดีๆ เรื่องหนึ่งเลย บทความนี้ขอนำเกม
“Beyond: Two Souls”
ว่าเนื้อเรื่องของเกมนี้สามารถนำไปเทียบกับภาพยนตร์หรือละครเรื่องใดบนโลกได้บ้าง
สำหรับเกม Beyond: Two Souls เป็นผลงานจากทีมผู้พัฒนา
Quantic Dream
ซึ่งเกมนี้ได้นักแสดงมากความสามารถอย่าง
Ellen Page
และ
Willem Dafoe
มาทำเป็นโมชั่นแคปเจอร์ให้กับเกมนี้ด้วย เนื้อเรื่องภายในเกมได้พูดถึง “โจดี โฮลมส์” เด็กสาวที่เติมโตในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีเท่าไหร่ เพราะตัวโจดีตั้งแต่เธอเกิดมาเธอมีบางอย่างที่ไม่เหมือนเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ นั้นก็คือเธอเหมือนมีวิญญาณตนหนึ่งคอยติดตามและช่วยเหลือเธอเวลาที่เธอต้องการ หรือ ตกอยู่ในอันตราย ซึ่งเธอเรียกวิญญาณตนนี้ว่า “เอเดน” สำหรับความคิดของโจดี เอเดนคือเพื่อนและพี่ที่คอยช่วยเหลือเธอทุกอย่างจึงทำให้มีความผูกพันกันเป็นอย่างมาก
ด้วยความพิเศษที่ไม่เหมือนเด็กคนอื่นทำให้เธอถูกสังคมและคนรอบข้างรังเกียจ ไม่เว้นแม้แต่แม่ของเธอเอง เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ เธอได้พาโจดีไปพบกับ “นาธาน ดอว์กินส์” นักวิทยาศาสตร์ผู้ที่กำลังวิจัยเรื่องเหนือธรรมชาติ ภายหลังโจดีได้มาอยู่กับนาธานที่ศูนย์วิจัยเพื่อที่เขาจะได้ศึกษาพลังของเอเดนว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง รวมไปถึงฝึกฝนให้ทั้งสองคนใช้พลังที่มีในการช่วยเหลือผู้คน และด้วยเหตุนี้เองทำให้เธอได้เข้าไปอยู่หน่วย CIA เพื่อทำภารกิจพิเศษตามคำสั่งของเบื้องบน แต่ท้ายสุดโจดีก็พบว่าสิ่งที่เธอทำเหมือนกำลังถูกหลอกใช้และทำเรื่องไม่ดี ทำให้เธอต้องหนีจากตัวตนที่เป็นอยู่ ทางหน่วย CIA เห็นเธอหลบหนีจึงออกตามล่า เพราะด้วยความสามารถพิเศษของเธอถือว่าเป็นตัวอันตราย งานนี้โจดีจะรอดพ้นกับเหตุการณ์นี้ได้หรือไม่ก็ต้องไปติดตามในเกมกันแล้วค่ะ
สำหรับเกม Beyond: Two Souls ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นเกมแอ็คชั่นเต็มรูปแบบ แต่เสน่ห์ของเกมนี้คือการเล่าเรื่องที่ครบรสจริงๆ จึงทำให้ตัวเกมประสบความสำเร็จพอสมควรเลยทีเดียว ปัจจุบันตัวเกมวางจำหน่ายบนเครื่อง PlayStation 3 และ PlayStation 4 ใครที่สนใจและมีเครื่องอยู่หาซื้อมาเล่นกันได้เลย ส่วนภาพยนตร์ที่อาเจ๊นัทขอหยิบยกมาเปรียบเทียบและใกล้เคียงกับเกมนี้ ขอยกเป็นภาพยนตร์ไทย และ ละครไทยเรื่อง “ปีหนึ่งเพื่อนกันและวันอัศจรรย์ของผม”
สำหรับเรื่อง
“ปีหนึ่งเพื่อนกันและวันอัศจรรย์ของผม”
เป็นบทประพันธ์ของ
คุณ คิง สมจริง ศรีสุภาพ
ถูกทำเป็นภาพยนตร์เมื่อปี พ.ศ. 2536
โดยค่ายไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์เป็นผู้จัดสร้าง
ซึ่งดึงนักแสดงฝีมือดีอย่างพี่แท่งศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง และ พี่มอส ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ เป็นนักแสดงนำ ซึ่งตัวภาพยนตร์ประสมความสำเร็จอย่างล้นหลาม จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2538 ทาง
ดาราวิดีโอ
ได้นำบทประพันธ์เรื่องนี้มาเขียนเป็นบทละคร โดยฉายที่ช่อง 7 ซึ่งนักแสดงที่มารับบทก็คือพี่เต๋า สมชาย เข็มกลัด และ พี่ออย ธนา สุทธิกมล ในเวลานั้นละครเรื่องนี้กระแสมาแรงชนิดที่ละครช่องอื่นๆ ไม่สามารถสู้ได้เลย
และถือว่าเป็นยุครุ่งเรืองของค่ายเพลย RS เลยก็ว่าได้
ที่นักแสดงในยุคนั้นจะมาเล่นละคร, ภาพยนตร์ และ ร้องเพลงประกอบให้ด้วย
"โปสเตอร์เวอร์ชั่นภาพยนตร์"
เนื้อเรื่องของ “ปีหนึ่งเพื่อนกันและวันอัศจรรย์ของผม” ได้พูดถึงสองพี่น้องรักกันมาก คนพี่ชื่อเต้ย คนน้องชื่อต้น เต้ยเป็นเด็กที่ชอบการวาดรูปเป็นชีวิตจิตใจ ทำให้เขาตั้งใจว่าถ้าจะเข้ามหาลัยก็จะเลือกคณะที่เกี่ยวข้องกับด้านนี้ โดยเขามีความฝันที่จะสร้างการ์ตูนออกมาสักเรื่อง แต่แล้วความฝันของเต้ยก็ต้องดับลงเมื่อผู้เป็นพ่อดูไม่ชื่นชอบกับความคิดนี้สักเท่าไหร่ เพราะเขาต้องการอยากให้เต้ยมีเส้นทางเดินเกี่ยวกับตน คืออยากให้เรียนคณะวิศวะ เมื่อเรียนจบก็จะสามารถหางานดีๆ ทำเพื่อดูแลครอบครับต่อไป ซึ่งเต้ยกับพ่อทะเลาะกันเรื่องนี้หลายครั้ง ก็ดูเหมือนจะมีแค่แม่และต้นที่จะเข้าใจเขาและให้กำลังอยู่อยู่เคียงข้างเสมอๆ
"สองนักแสดงนำในเวอร์ชั่นละคร"
ตลอดเวลาที่ผ่านมาเต้ยเป็นพี่ชายที่แสนดีรักและห่วงต้นผู้เป็นน้องมาก ซึ่งเต้ยมักจะเรียกน้องชายตัวเองว่า “ไอ้ตัวเล็ก” คอยรับหน้าแทนเวลาต้นทำอะไรผิด จนกระทั่งวันหนึ่งเต้ยและพ่อได้ทะเลาะกันอย่างรุนแรงถึงขั้นแตกหัก ด้วยความน้อยอกน้อยใจในความคิดของพ่อ เต้ยได้ตัดสินใจจะหนีออกไปจากบ้าน โดยได้ฝากคำพูดหนึ่งไว้กับต้นว่า “เราจะไม่ทิ้งนายไปไหน เราจะกลับมาเมื่อนายต้องการ” เต้ยได้ขับมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านไป แล้วตัดสินใจพุ่งเข้าประสานงานกับรถบรรทุกจนเสียชีวิต
การสูญเสียในครั้งนั้นครอบครัวของต้นได้ตัดสินใจย้ายไปอยู่กรุงเทพเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อต้นโตขึ้นเขาได้สอบเข้าคณะวิศวะสำเร็จ แต่ตัวต้นเองก็พบว่าสิ่งที่ตัวเองชอบไม่ใช่คณะนี้แต่ก็จำใจเรียนเพราะตัวเองคือความหวังของครอบครัว ด้วยเหตุการณ์ต่างๆ นำพาต้นกลับไปยังบ้านหลังเดิม แล้วพบกับเหตุการณ์แปลกประหลาดคือเขาได้พบกับ “เต้ย” ผู้เป็นพี่ชายของตนเองอีกครั้ง หลังจากนั้นเขาทั้งสองก็พาไปเจอเหตุการณ์สนุกๆ มากมาย
สาเหตุที่ทำไมอาเจ๊นัทถึงเลือก “ปีหนึ่งเพื่อนกันและวันอัศจรรย์ของผม” มาเปรียบเทียบกับเกม “Beyond: Two Souls” ก็มีหลายอย่างเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดราม่าที่เกี่ยวกับครอบครัว หรือ สิ่งแปลกประหลาดเกี่ยวกับวิญญาณที่มีอะไรเหมือนกันพอสมควร แต่สิ่งที่เราจะได้รับจากทั้งสองเรื่องนี้ก็คือมุมมองการใช้ชีวิตค่ะ ทุกคนมีเส้นทางที่ตัวเองต้องเดินอยู่แล้ว บางครั้งการที่เราไปบังคับให้ใครทำตามแบบที่เราต้องการ เขาคนนั้นอาจจะสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองเลยก็ได้ ดังนั้นให้เขาตัดสินใจและเลือกใช้ชีวิตในแบบของตนเอง เพียงแค่เรามองดูอยู่ห่างๆ จะดีกว่า เช่นเดียวกับบางคนที่อาจจะมีความแปลกประหลาดไม่เหมือนคนอื่น อย่าไปดูถูกว่าเขาไร้ค่า เพราะสุดท้ายแล้ว คนๆ นั้นก็เป็น “มนุษย์” ไม่แตกต่างจากเราเสียหน่อย
ขอบคุณข้อมูลภาพยนตร์และละครเรื่อง "ปีหนึ่งเพื่อนกันและวันอัศจรรย์ของผม" จากวิกิพีเดีย
ขอบคุณภาพภาพยนตร์และละครเรื่อง "ปีหนึ่งเพื่อนกันและวันอัศจรรย์ของผม" จาก wunjun.com, musicuptome และ pantip.com กระทู้ของคุณสมาชิกหมายเลข 1264228 ด้วยนะคะ
Tags :
Beyond: Two Souls
ปีหนึ่งเพื่อนกันและวันอัศจรรย์ของผม
บทความพิเศษ
ละคร
ภาพยนตร์
ข่าวเกม-Pc
ข่าวเกมคอนโซล
กำลังโหลด...
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ 🍪
เราใช้คุกกี้เพื่อนำเสนอเนื้อหาที่ท่านอาจสนใจ เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น
คลิก
เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้คุกกี้ของเรา
ตกลง