มีข่าวดีมาครับสำหรับผู้เล่นสายจริงจังเกมมิ่งของเกม Overwatch เพราะว่าทางผู้พัฒนาได้อัพเดทโหมด Competitive ( โหมด Rank ) เข้ามาแล้วเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งการอัพเดทครั้งนี้ทางผู้พัฒนาอย่าง Blizzard ได้ปล่อยออกมาในแพลตฟอร์ม PC ก่อน ส่วน Console จะตามมาเร็วๆ นี้ ซึ่งทางผู้พัฒนาได้ให้รายละเอียดและเงี่ยนไขเกี่ยวกับตัวโหมดนี้ที่ทางเว๊ปไซท์ตัวเองไว้อีกด้วย ส่วนรายละเอียดของตัวของโหมดนี้จะมีอะไรบ้าง ทุกท่านสามารถอ่านได้จากด้านล่างเลยครับ
รายละเอียด
การเริ่มต้นใช้งาน
โหมด Competitive ออกแบบมาเพื่อผู้เล่นที่ต้องการทดสอบทักษะของตัวเอง และพบเจอกับประสบการณ์ที่ดูจริงจังกว่าในโหมด Quick Play หรือโหมด Weekly Braw!! ซึ่งความจริงจังนี้ผู้เล่นจะต้องเข้าใจในแผนที่หรือกลศาสตร์ของเกมเสียก่อน ดังนั้นเกมจึงกำหนดให้ผู้เล่นที่เลเวล 25 ขึ้นไปเท่านั้นจึงจะสามารถเล่นโหมด Competitive ได้ ซึ่งถ้าผู้เล่นเลเวล 25 แล้วหล่ะก็ ปุ่ม Competitive จะปรากฏขึ้นมาให้ใช้งานได้ตรงฟังชั่นปุ่ม Play โดยเราสามารถเข้าไปเล่นคนเดียวหรือจะชวนเพื่อนของเราเป็นทีมเข้าไปเล่นในโหมดนี้ก็ได้ โดยเราจะสุ่มเจอกับฝ่ายศัตรูที่มีความสามารถพอๆ กับเรา
ตอนเริ่มแรกเราจะต้องเล่น Competitive โหมดให้ถึง 10 รอบซะก่อน เพื่อที่จะประเมินความสามารถของเรา และเราจะได้รับ Skill Rating (คะแนนจัดอันดับความสามารถ) เริ่มต้นมา ซึ่งการจัดอันดับนี้เริ่มต้นตั้งแต่ 1 ถึง 100 คะแนน โดยในการเล่นครั้งต่อๆ ไปถ้าเราชนะคะแนนก็จะเพิ่ม หรือถ้าเราแพ้คะแนนก็จะลด โดยถ้าคะแนนเรายิ่งมากเท่าไรมันก็จะบ่งบอกว่าเรานั้นเก่งแค่ไหน
การเล่น Competitive จะมีปีละ 4 Season ซึ่งแต่ละ Season จะใช้เวลาประมาณ 2 เดือนครึ่ง ในการเก็บ Rank (อาจจะพักครึ่งเดือนและเริ่ม Season ใหม่) โดยอันดับของเราจะถูกรีเซ็ดทุกๆ ครั้งที่เริ่ม Season ใหม่
ในการแข่งขันนั้นจะใช้ 3 โหมดเดิมที่เคยเล่นใน Quick Play มาแข่งขันนั่นก็คือ Control Maps, Escort and Hybrid Maps และ Assault Maps และรายละเอียดของแต่ละโหมดมีดังนี้
Control Maps: เป็นการแย่งเข้ายึดจุดระหว่างผู้เล่นทั้งสองฝ่าย ซึ่งถ้าหากใครเข้ายึดจนได้คะแนนครบ 100 คะแนนก่อน ฝ่ายนั้นจะชนะไปในเกมแรก โดยตัวโหมดนี้นั้นเล่นกันแบบ Best of 5 (ใครได้ 3 วินก่อนชนะ) ซึ่งตัวโหมดนี้จะเห็นผลผู้ชนะอย่างแน่ชัด ไม่ยุ่งยากเท่าไร
Escort and Hybrid Maps: เป็นการที่ผู้เล่นฝั่งบุกจะต้องเข้ายึดจุดเพื่อเข็นรถ Payload (หรือบางด่านเริ่มต้นด้วยการเข็น Payload เลย) เพื่อให้ถึงจุด Checkpoint และได้รับสกอร์ 1 แต้ม โดยทีมป้องกันจะต้องทำทุกวิธีทางเพื่อที่จะไม่ให้ฝ่ายบุกเข้ายึดจุด Checkpoint โดยแต่ละทีมจะสลับฝั่งกันบุก ซึ่งถ้าหากใครทำคะแนนได้มากที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะ และถ้าหากคะแนนเท่ากัน เรากับฝ่ายตรงข้ามก็จะต้องไปเจอกันใน Sudden Death
Assault Maps: โหมดนี้จะคล้ายกับโหมด Escort and Hybrid Maps แต่ว่าโหมดนี้นั้นจะไม่มี Payload ให้เราได้เข็น ซึ่งมันจะเป็นการเข้ายึดจุดล้วนๆ โดยแต่ละด่านจะมีอยู่สองจุดและถ้าหากฝ่ายใดเข้ายึดจุดได้มากกว่ากันฝ่ายนั้นจะชนะ หรือว่าถ้าหากคะแนนของฝ่ายเราเท่ากันกับฝ่ายตรงข้ามทั้งสองฝ่ายจะต้องเล่นเพิ่มอีกหนึ่งรอบ แต่ว่ารอบที่สองนั้นฝ่ายที่บุกจะยังคงใช้เวลาจากแมทแรก ( เวลาเริ่มต้นจากแมทแรกคือ 5 นาที ) ซึ่งถ้าเวลาของฝ่ายบุกฝ่ายใดต่ำกว่าสองนาที ทางตัวเกมจะปัดเวลาให้เป็นสองนาทีอัตโนมัตเพื่อที่จะได้มีโอกาศเข้ายึดเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งแต่ละทีมจะต้องผลัดกันยึดไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีผู้ชนะ แต่ถ้ายังหาผู้ตัดสินไม่ได้และเวลาแต่ละทีมนั้นไม่เหลือแล้ว เรากับฝ่ายศัตรูจะต้องไปเจอกันใน Sudden Death
Sudden Death: ในโหมดนี้จะออกมาหลังจากที่คะแนนของทั้งสองฝ่ายเท่ากัน ซึ่งตัวเกมจะโยนเหรียญสุ่มให้ว่าทีมไหนอยู่ฝ่ายบุกหรือป้องกัน โดยฝ่ายบุกจะต้องเข้ายึดจุด Objective ให้ได้ก่อนหมดเวลาไม่งั้นฝ่ายป้องกันจะได้รับชัยชนะ ซึ่งโหมดนี้จะเป็นการแข่งรอบเดียวจบไม่มีการสลับ
ในช่วงสุดท้ายของซีซั่นผู้เล่นจะได้รับรางวัลในการเข้าร่วมโหมด Competitive 10 ครั้งแรกเป็น Spray และ Player Icon ที่ออกแบบมาพิเศษสำหรับแต่ละ Season และถ้าหากเราชนะการแข่งขันเราจะได้คะแนนการแข่งขันมา (ผู้แพ้ไม่ได้) โดยแต้มนี้เราสามารถสะสมเพื่อที่จะนำไปแลก Golden Weapons สวยๆ มาใส่ให้กับฮีโร่ของเราได้ และตัวเกมจะมีระบบ Leaderboard ที่จะ Highlight ผู้เล่นที่เก่งที่สุด 500 คน (ของแต่ละแพลตฟอร์ม) ซึ่งตัวระบบนี้จะมีการจัดอันดับไปลงใน Overwatch Community ซึ่งถ้าหากใครที่อยากจะติดอันดับ คุณก็จะต้องเก็บคะแนนการแข่งขันให้ได้ 500 อันดับแรก
ถ้าหากว่าใครนั้นออกกลางคันในระหว่างเล่นโหมด Competitive อยู่นั้น เราจะไม่มีสิทธิ์ที่จะหาห้องใหม่จนกว่าแมทที่เราเข้าไปตอนแรกจะจบ ซึ่งเราสามารถกลับเข้าไปเล่นต่อได้และมีเวลาให้เชื่อมต่อ 2 นาที แต่ถ้าหากเรานั้นไม่กลับเข้าร่วมไปเราอาจจะได้รับการลงโทษนั้นก็คือ เราจะถูกจำกัดในการเล่น Competitive ในอนาคต ซึ่งถ้าหากเราออกจากเกมมากขึ้นเรื่อยๆ เราอาจจะถูกล๊อคในการเล่นโหมดนี้ระยะเวลาหนึ่ง หรือที่ร้ายไปกว่านั้นเราอาจจะถูกห้ามเล่นโหมด Competitive ไปจนจบ Season ก็ได้ รวมถึงการริบของรางวัลทุกอย่างที่ควรจะได้ในตอนจบ Season อีกด้วย หรือถ้าหากเรานั้นเข้าไปเล่นแต่ว่าไม่ได้ทำการขยับเมาส์หรือคีบอร์ดในเวลา 30 วินาที ตัวเกมจะแจ้งเตือนเราเป็นเวลา 15 วินาที ซึ่งถ้าหากเรายังไม่ตอบสนองใดๆ เราจะถูกเตะออกจากเกม