นาทีนี้คงจะไม่มีหนังเรื่องไหนทำกระแสทั้งด้านความร้อนแรง รายได้ คำชม ไปมากกว่าเรื่องนี้แล้วอย่าง
Ready Player One สงครามคนเกมอัจฉริยะ ผลงานกำกับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องล่าสุดของพ่อมดแห่งวงการฮอลลีวูดอย่าง
สตีเวน สปีลเบิร์ก ที่หยิบเอาสุดยอดนวนิยายแห่งปี 2011 ในชื่อเดียวกันที่เขียนโดย Ernest Cline มารังสรรค์เป็นภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งหนังก็ทำออกมาได้ถูกจริตทั้งคอหนังและคอนิยายเป็นอย่างมากจริงๆ วันนี้แอดฟูเลยจะนำเอาเนื้อหาฉบับนิยายกับหนังมาเทียบกันให้ดูว่าตรงส่วนไหนบ้างที่แตกต่างกัน
**ย้ำกันอีกครั้งตัวโตๆว่าสปอยล์หนักมาก ทั้งหนังสือและหนังนะจ๊ะใครอยากดูหรืออยากอ่าน ปิดไปก่อนได้เลย**ตามต้นฉบับนิยายนั้น ตัวละครที่ไดโตะแปลงร่างคือ อุลตร้าแมน ไม่ใช่กันดั้มแบบที่ในหนังได้นำเสนอมาครับ และการแปลงร่างของเขาก็เพื่อช่วยให้โช (ในนิยายไดโตะกับโชเป็นพี่น้องกันในเกม ไม่ใช่ในชีวิตจริงด้วย) สามารถไขปริศนาเอากุญแจหยก (กุญแจที่ 2) หลบหนีออกมาได้ ก่อนที่เขาจะโดนหน่วย IOI บุกไปฆ่าตายถึงบ้านจริงๆนอกโอเอซิสของเขา ส่วนกันดั้มนั้นเป็นหุ่นยนต์ที่ เอช เลือกมาเป็นของรางวัลจากการเอาชนะและได้รับกุญแจคริสตัล (กุญแจที่ 3) มาได้ ซึ่งในหนังสือนั้นกันดั้มมีบทเพียงน้อยนิดเท่านั้นเมื่อเทียบกับในหนัง และการที่หนังเลือกที่จะไม่ฆ่าตัวละครไดโตะ ก็ทำให้หนังดูสนุก และจบสวยมากยิ่งขึ้นในหนังสือนั้นมีความยากในการเคลียร์ปริศนามากกว่าในหนังเยอะเลยทีเดียว ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่แค่การเอาชนะเงื่อนไขต่างๆที่เจมส์ ฮัลลิเดย์ตั้งขึ้น แล้วได้รับกุญแจเลย ในหนังสือนั้นเมื่อได้รับกุญแจมาแล้ว ยังต้องไขเข้าไปในประตูนั้นๆแล้วทำภารกิจเพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งความยากมันก็ระดับโหดหินเลยทีเดียว ไม่ใช่ปริศนาไก่กาที่ใช้เวลาคิดเพียงแปปเดียวแล้วก็ไขออก แต่ด้วยความที่มาทำเป็นหนังเลยต้องทำให้มันกระชับมากยิ่งขึ้นอยู่แล้วครับในหนังสือกว่าที่สองคนพระนางของเราจะได้พบเจอตัวเป็นๆกันก็เป็นช่วงที่สามารถเคลียร์เกมได้แล้ว และพาร์ซิวอลหรือเวดส์ของเราก็ได้เป็นเจ้าของโอเอซิสด้วย ทั้งสองถึงจะมาเจอกันที่นอกโอเอซิส ส่วนในหนัง ทั้งสองคนนี้เจอกันตั้งแต่กลางเรื่องเพื่อช่วยไขปริศนากุญแจดอกที่ 2 ตรงส่วนนี้ถ้าใครอ่านนิยายมาอาจจะขัดใจนิดหน่อย เพราะมันทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนไม่ค่อยมีพลังเท่าไรเลย เจอกันง่ายไปนิด ในหนังสือนี่ลุ้นมากกว่าจะลงเอยกันยังไงในหนังนั้นอ็อกเตน มอร์โรว์ (รับบทโดยนักแสดงนำชายที่แอดฟูชอบมากๆอย่าง ไซมอก เพกก์) แทบจะเป็นบทตัวประกอบด้วยซ้ำไปแม้ว่าหนังจะเล่าว่าเขาคือเพื่อนสนิทของเจมส์ ฮัลลิเดย์ก็ตาม แต่ในหนังสือนั้นเขาเป็นผู้ช่วยให้รอดของเหล่าพระเอกตัวจริง เพราะเขานี่ล่ะถึงทำให้พาร์ซิวอล เอช โช และอาร์ทิมิสได้มาเจอกันจริงๆ ทั้งการสนับสนุนค่าเดินทาง ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และเครื่องเล่นโอเอซิสที่ใช้ในการทำสงครามครั้งสุดท้าย ล้วนได้อ็อกเตน มอร์โรว์ช่วยไว้ทั้งนั้น น่าเสียดายที่ในหนังเขาถูกลดบทบาทลงไปมากอย่างที่เห็นกลับมาที่คู่นี้กันอีกสักครู่ ในหนังสือจริงๆแล้วนั้นทั้งสองคนรู้จักกันเพียงอวตารภายในเกมเท่านั้น ก่อนที่พาร์ซิวอล หรือเวด วัดส์ของเราจะตกหลุมรักเธออย่างจริงจังคลั่งไคล้ จนลืมจุดประสงค์ของการตามหาไข่ไป ซึ่งนั่นทำให้อาร์ทิมิสไม่พอใจเป็นอย่างมาก หลังจากจบศึกในบาร์เหล้าที่พวกเขาโดนไอโอโอบุกถล่ม อาร์ทิมิสก็หายหน้าหายตาไปนานมาก รวมไปถึงเธอยังคงเป็นคนที่ไขปริศนาและคว้ากุญแจหยก (กุญแจที่ 2) มาได้ก่อนพาร์ซิวอลเสียอีก ซึ่งต่างจากในหนังที่ทั้งคู่ร่วมมือกันมาตั้งแต่ช่วงกลางเรื่องในการตามหากุญแจหยก
ในตอนจบของหนังนั้น เราจะได้เห็นเวดและซาแมนธา (พาร์ซิวอลและอาร์ทิมิสนั่นแหละ) ครองคู่กันอย่างกันอย่างมีความสุขในโลกแห่งความเป็นจริง โดยไม่ได้กลับไปโฟกัสในส่วนของเกมโอเอซิสอีก แต่ในหนังสือนั้น พาร์ซิวอลได้รับสืบทอดมรดกทั้งหมดของเจมส์ ฮัลลิเดย์ นั่นทำให้ตัวละครเขามีเลเวลอินฟินิตี้ มีพลังไร้ขีดจำกัด สามารถเสก สร้าง ไอเทม หรือทะลุไปห้องแชตชาวบ้านได้อย่างอิสระ (คนสร้างเกมดีๆนี่เอง) ก่อนที่จะออกมารับมรดกนอกจออีกที น่าสนใจเหมือนกัน หากหนังนำเสนอพาร์ซิวอลที่ตัวละครเลเวลเต็มแล้วมีอำนาจในการควบคุมเซิร์ฟเวอร์ แม้จะนิดเดียวก็ยังดี
ก็คือการที่ทั้งสองเวอร์ชั่นสอนให้เรารู้ว่า แม้โลกภายในเกม (โอเอซิส) จะดูสวยงาม อิสระ และสมจริงแค่ไหน แต่สิ่งที่มีค่าที่สุดทั้งของเราและของตัวละครในหนัง คือการที่ชีวิตจริงของพวกเขามีค่ามากกว่า เจมส์ ฮัลลิเดย์ พลาดที่เขาไม่มีความกล้าพอจะแสดงความรักที่เขามีให้ต่อคีร่า เวด จึงเลือกที่จะไม่พลาดแบบเขา รวมไปถึงประเด็นความบาดหมางใจของมอร์โรว์และฮัลลิเดย์ที่จบได้อย่างสวยงาม ดังนั้นเกมเมอร์ทุกคนพึงคิดนึกไว้เสมอว่า แม้เกมจะมีความหมาย มีคุณค่าต่อชีวิตคุณ แต่ก็คงไม่เท่าครอบครัว เพื่อนฝูง ที่อยู่นอกจอหรอก จริงไหมครับ ^^