สวัสดีค่า เพื่อนพ้องชาว PlayUlti ทั้งหลาย วันนี้ทามาโมะจังและทีมงาน PlayUlti จะพาทุกคนไปซึมซับเรื่องราวของ Final Fantasy XIV Online ตั้งแต่แพทช์ 1.0 ไปจนถึงแพทช์ 4.5 แบบรวบรัด เพื่อเตรียมความพร้อมความเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด ก่อนที่พวกเรากำลังเข้าสู่ช่วงเนื้อหาใหม่สุดอลังการงานสร้างอย่าง Shadowbringers [แพทช์ 5.0] ไม่อย่างงั้นคนที่ไม่เคยเล่นมาก่อนอาจจะงงก็เป็นได้ ถ้าใครพร้อมแล้วก็เข้าไปอ่านกันได้เลยจ้า!
Final Fantasy XIV Online แพทช์ 1.0
เรื่องทั้งหมดมันเริ่มมาจากจักรวรรดิ Garlean เข้ามาบุกรุกรานยังดินแดน Eorzea แต่ทว่าเรือเหาะยักษ์ของกองทัพกลับถูกมังกรเทพพิทักษ์นามว่า “Midgardsormr” จับทุ่มลงสู่ทะเลสาบ จนเกิดระเบิดครั้งยิ่งใหญ่ขึ้น ส่งผลให้ชิ้นส่วนของคริสตัลนั้นกระจัดกระจายไปไกลทั่วแผ่นดิน Eorzea เลยทีเดียว
ชนเผ่าต่างๆ รวบรวมชิ้นส่วนของคริสตัลเพื่อเรียกมนต์อสูร Primal เทพเจ้าที่แต่ละชนเผ่านับถือออกมาอาละวาดเป็นจำนวนมาก กลุ่มนักผจญภัยทั้งหลายจึงออกเดินทางเพื่อปราบเหล่า Primal ก่อนเกิดหายนะอันเลวร้ายขึ้นมา
จนกระทั่งในช่วงที่กำลังเข้าเผด็จศึก Primal ซึ่งสามารถครอบงำจิตใจของชาวเมืองอยู่นั้น อยู่ดีๆ กองทัพที่ 7 ของจักรวรรดิ Garlean ก็เข้ามาแทรกแซงการต่อสู้แล้วเข้าไปจัดการ Primal ตัวดังกล่าวเสียเอง พร้อมกับดำเนินแผนการดึงแกนพลังงานจากดวงจันทร์มาล้างบางเหล่า Primal และผู้คนในดินแดน Eorzea ให้ราบเป็นหน้ากอง
เมื่อแผนการของจักรวรรดิ Garlean รู้ถึงหัวสามเมืองใหญ่แห่งดินแดน Eorzea พวกเขาจึงได้รวบรวมกองทัพพันธมิตร (ชั่วคราว) ไปขัดขวาง แต่ทว่าก็ช้าเกินไปเสียแล้ว โดยแกนพลังงานจากดวงจันทร์แตกทลายออกมากลายเป็น Primal สุดแกร่ง + โหดเอามากๆ นามว่า "Bahamut"
Bahamut พอโผล่ออกมาปุ๊บก็ปล่อยพลังทำลายล้างอออกมาสร้างความเสียหายดินแดน Eorzea เป็นอย่างมาก ถึงกระนั้นจอมเวทย์คนหนึ่งได้ร่ายคาถาปกป้องพรรคพวกแล้วย้ายไปยังที่ปลอดภัย ส่วนตนก็เสียสละชีวิตเพื่อแลกกับการทำลาย Bahamut ซึ่งหลังจากนั้นดินแดน Eorzea ก็กลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้ง
FFXIV : A Realm Reborn แพทช์ 2.0 - 2.5
5 ปีต่อมา เหล่า Primal ที่กลุ่มนักผจญภัยเคยจำกัดให้สิ้นซากไปแล้ว กลับถูกชนเผ่าต่างๆ เรียกมนต์อสูร Primal ออกมาอยู่เรื่อยๆ ไม่หมดไม่สิ้นสักที จนทำให้กลุ่มนักผจญภัยที่เคยได้รับพรจากแสง ต้องผันตัวมาเป็นนักรบแห่งแสงสว่างอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อออกปราบเหล่า Primal กันอีกครั้งหนึ่ง ในขณะเดียวกันเหล่านักรบแห่งแสงสว่างก็ถูกกลุ่มเสื้อฮู้ดชุดสีดำพร้อมเรียกมอนสเตอร์มาขัดขวางการเดินทางอยู่นับครั้งไม่ถ้วน และแน่นอนว่าพวกเขาสามารถเอาชนะมาได้ตลอด
อีกทั้งนักรบแห่งแสงสว่างยังต้องเผชิญหน้ากองทัพของจักรวรรดิ Garlean อีกด้วย โดยได้รับการร่วมมือจากหัวสามเมืองใหญ่แห่งดินแดน Eorzea เพื่อก่อตั้งกองทัพพันธมิตรอย่างเป็นทางการ พร้อมลงสัญญากันว่าจะอยู่กันอย่างสันติ และร่วมกันปกป้องแผ่นดินเอาไว้ จนทำให้พวกเขาได้รับชัยชนะมาอย่างง่ายดาย แต่ทว่าความสงบสุขที่มากเกินไป กลับทำให้เกิดปัญหาด้านการเมืองของกลุ่มพันธมิตรด้วยกันเอง
สาเหตุเกิดมาจากบรรดาทหาร, อัศวิน และทหารรับจ้างต่างๆ เกิดไม่มีงานทำขึ้นมา นั้นก็เพราะความสงบสุขและไร้ซึ่งอันตรายใดๆ ทั้งสิ้น ส่งผลให้นักรบแห่งแสงสว่างต้องอพยพไปอยู่ที่เมือง Ishgard ที่ลอยตัวแยกจากปัญหาของกลุ่มพันธมิตรแห่งดินแดน Eorzea พร้อมกับเริ่มก่อตั้งบรรดาสมาคมนักเดินทาง (Guild) เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้คนที่ไม่มีงานทำได้ร่วมออกเดินทางตามหาเรื่องราวของดินแดนนี้ต่อไป
FFXIV : Heavensward แพทช์ 3.0 - 3.5
ซึ่งก็เป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะไม่ทันไรชาวเมือง Ishgard ก็ดันถูกเหล่ามังกรคลั่งจู่โจม จนเกิดเป็นสงครามยืดเยื้อขึ้นมาแทน ทำให้นักรบแห่งแสงสว่างต้องออกตามหาเจอต้นตอของเหตุการณ์ดังกล่าวจนได้ทราบว่าความจริงเหล่ามังกรโดนกลุ่มเสื้อฮู้ดชุดสีดำปั่นหัวและอ้างว่าชาวเมืองขโมยของล้ำค่าของพวกมัน เมื่อสามารถแก้ความเข้าใจผิดพร้อมจัดการกลุ่มเสื้อฮู้ดชุดสีดำเป็นที่เรียบร้อย เหล่ามังกรต่างให้สัญญาว่าจะคอยคุ้มครองชาวเมืองเป็นการตอบแทน
แม้เรื่องดังกล่าวจะส่งผลให้นักรบแห่งแสงสว่างต้องปวดหัวกันพอสมควร แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้พวกเขารู้เรื่องเกี่ยวกับพรแห่งแสงและ Primal มากยิ่งขึ้น อาทิ กลุ่มคนที่สามารถแปลงร่างเป็น Primal ได้ หรือไม่ก็วิทยาการสมัยอารยธรรมโบราณ ซึ่งสามารถใช้จับเหล่า Primal นั่นเอง ยิ่งไปกว่านั้นปัญหาการเมืองของกลุ่มพันธมิตรแห่งดินแดน Eorzea คลี่คลายลงไปเกือบหมด เมือง Ishgard จึงกลับมาเข้าร่วมเป็นกลุ่มพันธมิตรอีกครั้ง
แต่แล้วอยู่ดีๆ นักรบแห่งความมืดปรากฏตัวออกมาก่อกวนความสงบสุขของ Eorzea พร้อมกับเล่าปัญหาระหว่างสมดุลของแสงสว่างและความมืดบนโลก The First ของพวกเขา อันเนื่องมาจากแสงสว่างที่มากเกินไป และมันทำให้ผู้คนบนโลก The First กลายเป็นปีศาจแห่งแสงสว่าง เพื่อป้องกันปัญหาเหล่านั้นจึงทำให้นักรบแห่งความมืดตัดสินใจที่จะรวมโลกของพวกเขาและโลกของนักรบแห่งแสงสว่างเข้าด้วยกัน แม้ผลที่ตามมาอาจทำให้เกิดหายนะร้ายแรงขึ้นก็ตาม
Minfilia ร่างสถิตของเจตจำนงแห่งแสงสว่างได้เข้ามาพบกับเหล่านักรบแห่งความมืด พร้อมกับอาสาจะไปยังโลก The First เพื่อหยุดยั้งแสงสว่างที่มากเกินไป ให้กลับเข้าสู่สภาวะสมดุลอย่างที่ควรจะเป็น เมื่อได้ยินแบบนี้เลยทำให้พวกเขายอมรามือและออกไปจากโลกของเหล่านักรบแห่งแสงสว่าง ในอีกด้านหนึ่งก็ทำให้เกิดคำถามขึ้นในใจของนักรบแห่งแสงสว่างแต่ละคนว่าควรใช้พลังจากพรแห่งแสงที่ตนมีไว้เพื่อรักษาสมดุลระหว่างแสงสว่างและความมืดได้อย่างไร
FFXIV : Stormblood แพทช์ 4.0 - 4.5
ต้องขอย้อนเล่าเรื่องราวในอดีตกันก่อน ไม่อย่างั้นเพื่อนๆ อาจไม่เข้าใจในบางจุด : 15 ปีก่อน จักรวรรดิ Garlean เริ่มแผ่ขยายอำนาจอันเกรียงไกร ด้วยกองทัพเรือเหาะและเครื่องจักรสงครามมากมาย ‘Ala Mhigo’ คือประเทศแรกที่ทางจักรวรรดิหมายปองไว้ตั้งแต่แรก เนื่องมาจากความรุ่งเรืองที่มั่งคั่งพร้อมกับปัญหาการเมืองภายในที่ร้อนระอุเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงทำให้ทาง จักรวรรดิเข้าไปยุยงและทำลายความสามัคคีของเมือง Ala Mhig
ยามเมื่อเมือง Ala Mhig ขาดความสามัคคีและกองทัพอ่อนแอลง จักรวรรดิ Garlean บุกเข้าทำสงครามแล้วได้รับชัยชนะ พวกมันสั่งทำลายวัฒนธรรมและอารยธรรมของเมือง Ala Mhig เด็กทุกคนที่เกิดมาจะต้องจงรักภักดีต่อจักรวรรดิ คนแก่เฒ่าท้องถิ่นถูกดูถูกเหยียดหยามเป็นดั่งพลเมืองชั้นสอง ประเทศที่เคยรุ่งโรจน์กลายเป็นแค่ส่วนหนึ่งของจักรวรรดิ Garlean อันยิ่งใหญ่
ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้ส่วนหนึ่งพยายามหลบหนีไปยังประเทศใกล้เคียง พร้อมสถาปนากลุ่มปลดเอก Ala Mhig รอคอยวันที่จะได้กลับไปเหยียบแผ่นดินเกิดอีกครั้ง
จนกระทั่งตัดกลับมาปัจจุบัน กลุ่มปลดเอก Ala Mhig ทนไม่ไหวกับจักรวรรดิ Garlean อีกต่อไป จึงทุ่มกำลังทั้งหมดเข้าโจมตีใส่กองทัพของพวกมันเพื่อทวงบ้านเกิดคืน และแน่นอนว่าเรื่องดังกล่าวย่อมไปถึงหูของนักรบแห่งแสงสว่าง เลยตัดสินใจไปช่วยเหลือกลุ่มปลดเอก Ala Mhig อีกแรงด้วย แต่ก็กลายเป็นว่าทำให้เกิดสงครามระหว่างกลุ่มพันธมิตรแห่งดินแดน Eorzea กับจักรวรรดิ Garlean ขึ้นอีกครั้งอย่างเลี่ยงไม่ได้
ทางกลุ่มพันธมิตรแห่งดินแดน Eorzea เห็นว่าในเมื่อเปิดฉากสงครามขึ้นไปเสียแล้วก็ต้องเอาให้ถึงอย่างที่สุด พอหลังจากช่วยปลดเอกเมือง Ala Mhig เป็นที่เรียบร้อย พวกเขาก็ตัดสินใจทวงคืนสองเมืองขึ้นที่ปกครองโดยจักรวรรดิ Garlean แล้วฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้กลุ่มพันธมิตรต่างก็มีหัวเมืองใหญ่รวมตัวกันถึง 6 เมืองแล้ว
ในขณะที่อีกฝั่งอย่างจักรวรรดิ Garlean ที่พ่ายแพ้มานับไม่ถ้วน ส่วนหนึ่งแป็นเพราะปัญหาการเมืองภายในของตน เลยแสดงประสิทธิภาพการรบได้ไม่เต็มที่ เมื่อจัดการปัญหาส่วนใหญ่ลงได้ จักรวรรดิ Garlean จึงเปิดศึกสงครามประจันหน้ากลุ่มพันธมิตรแห่งดินแดน Eorzea เต็มอัตราศึก 100%
แต่ในจังหวะที่สงครามกำลังเริ่ม นักรบแห่งแสงสว่างก็ถูกเรียกโดยเสียงปริศนาว่าให้ไปช่วยเหลือ The First โลกของเหล่านักรบแห่งความมืดที่กำลังเจอหายนะจากแสงสว่างที่มากเกินไป ทำใหเกิดความสงสัยขึ้นมามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับ Minfilia ร่างสถิตของเจตจำนงแห่งแสงสว่างเข้าหรือเปล่า
และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมา ซึ่งเนื้อเรื่องในช่วง Final Fantasy XIV Online: Shadowbringers จะเป็นเช่นไรก็ขอให้ไปติดตามกันเอาเองได้เลยค่ะ โดยเนื้อหาเสริมดังกล่าวเปิดให้วางจำหน่ายกันเรียบร้อยแล้ว โดยจะมีสองแพ็คเกจประกอบไปด้วย Standard Edition สนนราคาอยู่ที่ราวๆ $39.99 ตีเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1,249 บาท และ Collector's Edition สนนราคาอยู่ที่ราวๆ $59.99 ตีเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1,875 บาท สามารถไปดูรายละเอียดการสั่งซื้อเพิ่มเติมได้ที่ คลิ๊กที่นี่ นะจ๊ะ
สำหรับเกม Final Fantasy XIV Online เป็นเกมแนว MMORPG ที่ดีที่สุดในตอนนี้และเป็นหนึ่งในความทรงจำที่ดีที่สุดของเหล่าแฟนซีรี่ส์ Final Fantasy เลยล่ะคะ ปัจจุบันเปิดให้บริการบนเวอร์ชั่น PC และ PlayStation 4 เท่านั้น ซึ่งเซิร์ฟเวอร์ใช้เล่นร่วมกัน ดังนั้นไม่ว่าเพื่อนๆ จะเล่นเวอร์ชั่นไหนก็สามารถพบเจอผู้เล่นคนอื่นๆ กันได้ตลอดค่ะ ส่วนการให้บริการผู้เล่นจำเป็นต้องซื้อตัวเกมพร้อมกับจ่ายค่าบริการรายเดือนถึงจะเล่นได้นะจ๊ะ แต่ถ้าใครที่อยากจะทดสอบตัวเกมก่อนก็สามารถสมัคร ID เพื่อขอรับเข้าร่วมทดสอบตัวเกม Free Trial ได้ คลิ๊กที่นี่ หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ คลิ๊กที่นี่