รีวิว Rainbow Six Extraction ปฏิบัติการลับครั้งใหม่ กับภารกิจใหญ่ระดับพิทักษ์โลก

Makee 04 Feb 2022, 13:29:00
ข่าวเกม PC Review Game Console ข่าวเกม Console เกมรีวิว


ชื่อของ Rainbow Six นั้นแน่นอนว่า หลายๆ คนก็คงจะนึกถึงเหล่าเจ้าหน้าที่หน่วยรบปฏิบัติการพิเศษ ที่ต้องรวมทีมใช้กลยุทธ์ในการแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ผ่านการเล่นในรูปแบบของเกม Co-Op หรือในปัจจุบันก็จะนึกถึง การชิงไหวชิงพริบของเหล่าเจ้าหน้าที่พิเศษในการเอาชนะสมรภูมิต่างๆ อย่างภาค Siege และแน่นอน มันประสบความสำเร็จจนกลายเป็นเกมการแข่งขันอีสปอร์ตกันในปัจจุบัน และในปีนี้ Ubisoft ขอสานต่อเรื่องราวของหน่วยรบสีรุ้ง กับการคืนสู่สามัญด้วยเกมแนว Co-op Tactical ที่ถนัดอีกครั้ง โดยคราวนี้ เล่นใหญ่กับศัตรูที่ไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย ไม่ใช่อาชญากรสุดโฉด แต่มันคือภัยจากเชื้อร้าย ภายใต้ปฏิบัติการใหม่ในชื่อ Extraction




เรื่องย่อ

ภาคต่อของซีรี่ส์เกม Tactical Shooter จาก Ubisoft นี้มีเนื้อหาที่แตกต่างจากภาคก่อนๆ อย่างชัดเจน โดยครั้งนี้จะเป็นเรื่องราวของ การแพร่กระจายเชื้อปรสิตปริศนา ที่โผล่มาจากผืนโลก และเริ่มรุกรานมนุษย์ตามเมืองต่างๆ ทำให้เกิดการระบาดครั้งใหญ่ ส่งผลทำให้มนุษย์ที่ติดเชื้อปรสิตนี้กลายเป็นอสูรกายสุดดุร้าย  เมื่อเหตุการณ์นี้ลุกลามแพร่กระจายไปรวดเร็วและรุนแรง เหล่าเจ้าหน้าที่ต่างๆ ก็อยู่นิ่งเฉยไม่ได้ เลยได้จัดตั้งหน่วยพิเศษเพื่อปราบปรามภัยคุกคามจากเชื้อปรสิตปริศนานี้ในชื่อ REACT ซึ่ง Ash เจ้าหน้าที่สาวเป็นผู้ควบคุมและดูแลปฏิบัติการครั้งนี้ โดยเป้าหมายของปฏิบัติการนี้คือ สำรวจ ช่วยเหลือ และทำลายปรสิตที่กระจัดกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ เพื่อยับยั้งไม่ให้เกิดกลายเป็นหายนะ ที่ซึ่งจะเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก


ต่อยอดจากโหมด Outbreak ของ Siege สู่การเป็นเกม Co-Op เต็มตัว

ใครที่เคยเล่นภาค Siege มาก่อน ก็คงจะเคยเห็นโหมดช่วยกันอย่าง Outbreak มาบ้าง โดยครั้งนี้ ได้ใช้โหมด Outbreak ของภาค Siege ต่อยอดจนกลายเป็นเรื่องราวและเป็นเกมแนว Co-Op แบบเต็มรูปแบบ โดยในเกมนี้จะให้คุณได้สวมบทบาทเป็นเจ้าหน้าที่พิเศษ  REACT ซึ่งก็คือตัวละครเจ้าหน้าที่ Operator ที่คุ้นเคยกันใน Siege นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็น Ela, Hibana, Sledge เป็นต้น ซึ่งเจ้าหน้าที่แต่ละคนก็จะมีอุปกรณ์พิเศษที่แตกต่างกัน โดยเกมนี้ จะเน้นการเล่นแบบช่วยเหลือกันเป็นหลัก ซึ่งสามารถเล่นได้สูงสุด 3 คน เป้าหมายหลักของเกมคือ การสำรวจด่านต่างๆ พร้อมกับทำภารกิจเพื่อบรรลุเป้าหมาย ซึ่งภารกิจนั้นก็จะมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การวางระเบิด ทำลายรังของศัตรู การช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ที่โดนจับตัว หรือการยึดพื้นที่ เป็นต้น ซึ่งในแต่ละด่านก็จะมีระดับความยากของภารกิจเพื่อเพิ่มความท้าทายและโอกาสในการได้ของรางวัลที่ดียิ่งขึ้นด้วย




ศัตรูครั้งนี้ มันไม่ใช่มนุษย์ 

ลืมภาพจำของการต่อกรกับเหล่าอาชญากรหรือผู้ก่อการร้ายในภาคก่อนๆ ไปได้เลย เพราะภาคนี้ ศัตรูมันไม่ใช่มนุษย์ แต่มันคือเหล่า Archaeans ปรสิตสุดโหดที่มีการโจมตีที่รุนแรงมากๆ และที่สำคัญ มันสามารถโผล่มาได้ทุกจุดของแผนที่ แถมมันไม่ได้มีรูปแบบเดียว แต่ยังมีรูปแบบอื่นๆ ให้ผู้เล่นได้รับมือ เช่น บางตัวมีการจู่โจมที่รวดเร็ว บางตัวก็จะมีระเบิดที่เป็นทั้งระเบิดทำลายล้าง และระเบิดแก๊สที่จะลดพลังชีวิตของผู้เล่นไปเรื่อยๆ ซึ่งแต่ละตัวนั้นอันตรายมากๆ มันทำให้ท้าทายและต้องใช้สมองในการรับมือกับเหล่าศัตรูพวกนี้พอสมควร และมีทางเลือกในการสู้ได้หลากหลายรูปแบบ จะบู๊แหลกแจกกระสุนก็ได้ จะลอบเร้นสังหารเงียบๆ ก็ได้ หรือจะใช้อุปกรณ์ประจำตัวของเจ้าหน้าที่ในการผ่านก็ทำได้เช่นกัน ซึ่งศัตรูเหล่านี้ ถือว่าเป็นไอเดียชั้นดีที่ทำให้ผู้เล่นต้องรู้สึกตื่นตัวและใช้หัวคิดตลอดเวลา


ภารกิจนี้จะไปต่อ หรือพอเพื่อปลอดภัย?

ภารกิจต่างๆ ภายในเกมนี้ มีความหลากหลายและมีระดับความยากที่แตกต่างกัน ซึ่งใน 1 ด่านนั้นจะมีภารกิจสุ่มทั้งหมด 3 ภารกิจ ที่ต้องไปทำ เมื่อเคลียร์ภารกิจ 1 ใน 3 ได้สำเร็จก็จะสามารถเลือกได้ว่าจะทำภารกิจต่อไป หรือจะเซฟตัวเองเพื่อกลับไปยังฐานก็ได้ แต่ถ้าหากเลือกทำภารกิจต่อ ก็จะมีโอกาสได้ค่าประสบการณ์ เพื่อใช้ในการปลดล็อกอุปกรณ์ต่างๆ รวมไปถึงของตกแต่งของเจ้าหน้าที่เพื่อใช้ในเกมต่อๆ ไป ซึ่งระยะเวลาในการทำภารกิจของด่านต่างๆ นั้นจำกัดเพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้น ดังนั้นในการเล่นทุกครั้งจะต้องปรึกษากับทีมเสมอว่าควรจะทำสิ่งไหนก่อนหลัง หรือจะไปต่อจนจบด่านหรือไม่ ฉะนั้นการสื่อสารของเกมนี้คือสิ่งสำคัญมากๆ และถ้าหากในระหว่างภารกิจ ผู้เล่นเกิดทำภารกิจล้มเหลว หรือตายในภารกิจ เจ้าหน้าที่ที่ตายจะอยู่ในสถานะ MIA (Missing in Action) ซึ่งจะไม่สามารถใช้เจ้าหน้าที่คนนั้นซ้ำได้อีก ทำให้ต้องใช้เจ้าหน้าที่อื่นปฏิบัติภารกิจแทน และถ้าหากในด่านนั้นมีภารกิจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ที่ติดสถานะ MIA อยู่ หากช่วยสำเร็จ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็จะกลับมาใช้งานได้ และยังสามารถปล่อยทิ้งไว้ 1-2 เกมเพื่อให้เจ้าหน้าที่นั้นฟื้นเลือดพร้อมที่จะใช้งานได้อย่างเต็มที่อีกด้วย


กราฟิกที่ดูดี พร้อมเกมเพลย์ที่ไหลลื่น

สำหรับคนใช้เครื่องคอนโซลอย่าง PlayStation 5 นั้น หายห่วงได้เลยเรื่องของกราฟิก และการแสดงผล เพราะมันทำออกมาได้อยู่ในระดับที่ดี แถมเฟรมเรตของเกมนั้นก็ลื่นอยู่ในระดับ 60fps รวมไปถึงในฝั่งของเครื่องเกมเจนเก่าอย่าง PlayStation 4 ก็มีเฟรมเรตนิ่งอยู่ที่ 30fps แถมที่สำคัญตัวเกมมีระบบ Crossplatform ที่สามารถเล่นข้ามแพลตฟอร์มระหว่างคอนโซลและ PC ซึ่งเล่นได้ไม่มีปัญหา และสามารถสนุกได้ทั้งคู่ รวมไปถึงการเล่นบนคอนโซลข้ามเจนก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดี ที่สำคัญเกมนี้มีภาษาไทยอีกด้วย ซึ่งทีมแปลนั้นขอชื่นชมเลยว่าแปลออกมาได้ดีจริงๆ


ความยากท้าทายที่คนเดียวไม่สามารถเอาชนะได้

จุดสังเกตใหญ่ๆ ของเกมนี้คือความยากท้าทายของมัน ซึ่งส่วนตัวมองว่าปาร์ตี้ 3 คนนั้นอาจจะยังตึงมือมากๆ สำหรับการเล่น ดังนั้นในการเล่นทุกครั้งจะไม่มีคำว่าผ่อนคลายเลย ควรแนะนำว่าหาเพื่อนที่ไว้ใจได้ และเล่นเข้าขากันจะทำให้เกมนี้สนุกขึ้น อีกทั้งตัวเกมนี้มีระบบที่เรียกว่า Buddy Pass ซึ่งสามารถเชิญเพื่อนอีก 2 คนเข้ามาเล่นได้ฟรีๆ โดยมีระยะเวลาจำกัดแค่ 14 วันเท่านั้น ก็อาจจะเป็นตัวชี้วัดว่า เพื่อนนั้นจะยอมซื้อเกมนี้มาเล่นด้วยหรือไม่ ก็เป็นหนึ่งในไอเดียที่โอเคสำหรับการป้ายยาเพื่อนคนใดคนนึง และสำหรับฝั่ง PC ก่อนจะเล่นเกมนี้ ควรอัปเดตโปรแกรมและไดรฟ์เวอร์ต่างๆ บนเครื่องด้วย เพราะตอนทดสอบมีปัญหาในเรื่องไดรฟ์เวอร์การ์ดจอทำให้ไม่สามารถเข้าเกมได้ ซึ่งก็อย่าลืมไปอัปเดตและลงไดรฟ์เวอร์ใหม่กันด้วย อ้อ! เกมนี้ต้องต่ออินเตอร์เน็ตทุกครั้ง และที่สำคัญ เกมนี้เล่นคนเดียวไม่ได้นะครับ


สรุป

เป็นการกลับสู่เกมแนว Co-Op ที่แฟนๆ Rainbow Six คุ้นเคย พร้อมด้วยความท้าทายที่ยากขึ้น โหดขึ้น เป็นการฉีกการนำเสนอของ Rainbow Six ที่ถือว่าแปลกใหม่ และโอเคมากๆ ถ้าหากใครที่เบื่อกับการเล่นเกมในรูปแบบ PVP กับคนเล่นด้วยกันเอง ลองหาเพื่อนอีก 2 คนมาช่วยกันสู้กับศัตรูนอกโลก ก็อาจจะเป็นไอเดียที่เข้าท่าเหมือนกันนะครับ ขอขอบคุณทาง Ubisoft ที่เอื้อเฟื้อตัวเกมมาให้ทางทีมงานได้ทดสอบกันด้วยนะครับ




กำลังโหลด...