[รีวิว] Watch Dogs Legion - กู้วิกฤติลอนดอนคืนมากับภาคต่อของเกมแฮกเกอร์สุดมันส์

Playulti 24 Nov 2020, 00:14:00
เกมรีวิว

กระแสของเกม Open World ยังคงติดเทรนด์อยู่ได้เสมอ ไม่ว่าจะนำเสนอในรูปแบบไหนก็ตาม ทั้งการสวมบทบาทเป็นอาชญากร เป็นคาวบอยขี่ม้า หรือแม้กระทั่งแฟนตาซีเหนือจินตนาการ Watch Dogs คือหนึ่งในซีรี่ส์เกม Action Open World ที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง บวกกับสไตล์เนื้อเรื่องที่ร่วมสมัยเข้าใจได้ไม่ยาก รวมไปถึงคอนเซ็ปต์ Hacking is Everything ก็ยังมีการพัฒนาและทำได้ดีอย่างต่อเนื่องกันมาสองภาค ในครั้งนี้ Watch Dogs ได้ยกระดับความเป็น Open World ไปอีกขั้น และคราวนี้ไม่ได้ตะลุยยังดินแดนลุงแซมเหมือน 2 ภาคที่ผ่านมา แต่จะพาคุณไปยังดินแดนผู้ดีอย่างกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ยินดีต้อนรับสู่ตำนานการแฮกบทใหม่กับ Watch Dogs Legion

เนื้อเรื่องย่อ 
ณ กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ ในช่วงเวลาอนาคตอันใกล้ กำลังเกิดวิกฤติความวุ่นวายจากเหตุการณ์ระเบิดตามจุดต่างๆ ด้วยฝีมือของอาชญากรปริศนานาม Zero Day กองกำลังแฮกเกอร์ใต้ดินนาม Dedsec กำลังตกที่นั่งลำบากเพราะโดนใส่ความว่าพวกเขาคือผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์วางระเบิดที่ทำให้ผู้คนในกรุงลอนดอนล้มตายเป็นจำนวนมาก หลังจากเหตุการณ์ผ่านไป Albion หน่วยงานรักษาความปลอดภัยเอกชน ซึ่งนำโดย Nigel Cass ได้เข้ามาดูแลรักษาความสงบของกรุงลอนดอน แต่ทว่าชาวเมืองกลับไม่พอใจในการดูแลของ Albion เนื่องจากประชาชนถูกกดขี่ ข่มเหง และโดนจำกัดสิทธิต่างๆ ทำให้ประชาชนต่างหวาดกลัวและไม่เชื่อใจหน่วยงานรัฐบาลที่จ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชนอย่าง Albion นี้ ทำให้ Sabine หนึ่งในผู้นำ Dedsec สาขาลอนตอน ต้องออกตามหาและเกณฑ์แนวร่วมครั้งใหม่ ภายใต้ชื่อ Resistance เพื่อร่วมกันแฮกและเปิดโปงความชั่วของหน่วยงานรัฐบาล พร้อมทั้งสืบหาว่าใครคือ Zero Day และผู้อยู่เบื้องหลังที่แท้จริงของโศกนาฏกรรมนี้

Gameplay
การนำเสนอของ Watch Dogs ยังคงใช้ความเป็น Open World ในการค้นหา ทำภารกิจ และแน่นอนการแฮกที่เป็นเหมือนหัวใจหลักของซีรี่ส์นี้ยังคงเหมือนเดิม สำหรับภาค Legion นั้นนอกจากจะมีการเปลี่ยนโลเกชั่นของเกมจากเมือง Chicago และ San Fransisco ใน 2 ภาคแรก เปลี่ยนมาเป็นกรุง London ประเทศอังกฤษแล้ว ระบบต่างๆ ของเกมนี้ถูกนำเสนอออกมาได้กว้างและอิสระมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการแฮกที่สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ และที่สำคัญภาคนี้ ไม่มีตัวละครพระเอก หรือนางเอกหลัก เพราะภาคนี้สามารถเล่นเป็นประชาชนในกรุงลอนดอนได้ทุกคน ซึ่งทาง Ubisoft เคลมไว้ว่ามีให้เล่นมากถึง 9 ล้านคนโดยประมาณ ซึ่งประชาชนแต่ละครก็จะมีภูมิหลัง อาชีพ และทักษะต่างๆ ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งผู้เล่นสามารถที่จะเกณฑ์ประชาชนเหล่านั้นเข้าร่วมกองกำลัง Dedsec ได้ทั้งหมด

และในการเกณฑ์คนเข้าร่วมกองกำลัง Dedsec นั้นบางครั้งก็เข้าร่วมได้อย่างง่ายๆ เรียกว่าคุยปุ๊บก็เข้าร่วมปั๊บ บางครั้งพูดคุยแล้ว ยังต้องทำภารกิจต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วง และในบางครั้งการเลือกประชาชนผู้มีความสามารถนั้นอาจจะยากนิดหน่อย เมื่อเจอไอคอนนิ้วโป้งสีแดง นั่นหมายความว่า เขาคนนั้นมีทัศนคติแง่ลบกับ Dedsec ดังนั้นต้องหาทางทำภารกิจบางอย่างเพื่อโน้มน้าวให้เชื่อจึงจะสามารถทำภารกิจเกณฑ์คนและพาเขาเข้าร่วมได้สำเร็จ ถือว่าเป็นไอเดียในการนำเสนอที่ค่อนข้างดีใช้ได้และดูหลากหลายจนสามารถสนุกกับมันจนลืมเนื้อหาหลักไปได้เลย

กรุงลอนดอนซึ่งเป็นฉากหลังของภาคนี้ มีขนาดที่ส่วนตัวมองแล้วรู้สึกว่าเล็กกว่าภาคก่อนๆ อยู่มาก ทำให้การสำรวจและการเดินทางของมันนั้นค่อนข้างที่จะใช้เวลาไม่นานก็รู้สึกว่าทะลุปรุโปร่งแล้ว แม้ว่าจะมีตึกราบ้านช่อง หรือซอกซอยให้เข้าไปก็ตาม แต่มันก็ทำให้ไม่รู้สึกตื่นเต้นมากมายนัก แถมการเดินทางของเกมนี้มันค่อนข้างหลากหลาย ไม่ว่าจะใช้รถ ใช้เรือ หรือโดรนขนส่งบินเหาะข้ามตึกราบ้านช่องก็ทำได้ หรือจะ Fast Travel ด้วยการนั่งรถไฟใต้ดินก็ทำได้ แต่ถ้าอยากได้บรรยากาศของกรุงลอนดอนอย่างเต็มที่ขอแนะนำเดินทางโดยไม่ใช้ Fast Travel จะเป็นอะไรที่ได้อรรถรสมากๆ

การนำเสนอเนื้อเรื่อง มีความเข้มข้นกว่า 2 ภาคที่แล้วอยู่พอสมควร ในภาคนี้จะเน้นเนื้อหาในการสืบสวนสอบสวนเสียเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ตัวเกมดูมีการเล่าเรื่องที่ยกระดับจากภาคก่อนๆ อย่างชัดเจน รวมไปถึงระบบเควสที่มีลูกเล่นมากไปกว่าการแทรกซึมเข้าเขตของฝั่งศัตรูทั้งการสแกน AR ในการสืบหาเหตุการณ์ต่างๆ เควสหลักเควสเสริมที่มีเยอะไปหมด ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่พ้นการแทรกซึมพื้นที่ศัตรู แฮกเข้าระบบข้อมูล หรือแม้กระทั่งการช่วยเหลือประชาชนที่โดนจับ มันเลยทำความมีความหลากหลายน้อยอยู่ดี 

ด้านการอัปเกรดของเกมนี้ยังคงใช้ระบบการอัปเกรดด้วยแต้ม Tech Point เหมือนกับภาคที่ 2 แต่ครั้งนี้จะเป็นการปลดล็อกอาวุธ อุปกรณ์ gadget ต่างๆ รวมไปถึงความสามารถในการแฮกโดรนหรือป้อมปืนศัตรูเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ไม่ซับซ้อนและไม่ต้องปวดหัวในการอัปเกรดอีกแล้ว แถม Tech Point ยังสามารถหาได้จากการเก็บตามจุดต่างๆ หรือผ่านเควสเนื้อเรื่องหลักก็ได้อีกด้วย

กราฟฟิก
การพัฒนาในภาพกราฟฟิกของภาคนี้ดูดีขึ้นกว่าภาคที่แล้วมาก ทั้งสีหน้า อารมณ์ และการออกแบบดีไซน์ตัวละครทุกตัวที่มีเอกลักษณ์ และมีความหลากหลายมากๆ การนำเสนอของเมืองลอนดอนผสมกับเทคโนโลยีในยุคอนาคตอันใกล้มันทำออกมาได้ลงตัวไม่เกินจริง ทำให้รู้สึกเหมือนได้ออกเที่ยวกรุงลอนดอนด้วยตัวเอง สเปคคอมที่ใช้เล่นคือ Ryzen 5 2600 และการ์ดจอ RX580 ของ AMD ก็ให้คุณภาพกราฟฟิกในระดับสูงเล่นเฟรมเรตลื่นๆ ที่ 60 Fps อาจจะมีกระตุกบ้างนิดๆ หน่อยๆ แต่ก็พอเพลินๆ ได้ ส่วนใครที่ใช้การ์ดจอตระกูล RTX ของ Nvidia มีการแสดงผลเรื่องแสงและเงาที่ถือว่าสวยงามสุดๆ อีกด้วย

จุดสังเกต
การที่เปิดโอกาสให้ประชาชนในกรุงลอนดอนทั้งเมืองคือตัวละครหลัก มันเป็นไอเดียดี แต่ทว่าความน่าจดจำของตัวละครนั้นกลับส่งออกมาได้ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร เควสต่างๆ ของเกมนี้ แม้จะมีภารกิจสแกนด้วย AR ให้ดูน่าสนใจ แต่สุดท้ายมันก็ยังวนลูปอยู่ที่การแทรกซึม แฮกข้อมูลอยู่ดี นั่นอาจจะทำให้ความสนุกลดน้อยลง รวมไปถึงบั๊กต่างๆ ของเกมนี้ที่ยังมีให้เห็นและยังไม่ถูกแก้อย่างการว่ายน้ำข้ามฝั่งของเกมนี้ ที่เมื่อลงน้ำแล้วว่ายไปสักพัก ตัวละครจะจมและดิ่งหายไปยาวๆ ทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนตัวละครได้ และหากใครเล่นโหมดยากสุด โปรดจงระวัง ตัวละครดีๆ ที่คุณเกณฑ์มาได้ ตายคือตายทันที ไม่มีให้หาใหม่ด้วย

สรุป
ต่อยอดความเป็น Watch Dogs ไปอีกระดับหนึ่ง จากการเป็นศาลเตี้ย ขึ้นมาเป็นแก๊งป่วนเมืองสุดเกรียน กลายมาเป็นสเกลใหญ่อย่างกองกำลังต่อต้านรัฐบาลทำให้ Watch Dogs Legion ก้าวขั้นในเรื่องของการนำเสนอไปได้อย่างดีเยี่ยม ความอิสระของเกมเพลย์ และการค้นหาประชาชนเข้าร่วมกองกำลังกว่า  9 ล้านคนทำให้รู้สึกสนุกเหมือนกับเล่น Pokemon ฉบับแฮกเกอร์ เพลิดเพลินกับทัศนียภาพของกรุงลอนดอน และความสนุกของเนื้อหาสืบสวนที่เข้มข้น จัดว่าเป็นเกม Open World ที่ถือว่าดีแต่ยังไม่ดีที่สุดในปี 2020 นี้ ถ้ามีโอกาสและเป็นแฟนเกม Watch Dogs อยู่แล้ว ขอแนะนำให้ไปลองกันได้ครับ

กำลังโหลด...