เราอาจจะคุ้นเคยกับชื่อของ Monster Hunter ในฐานะเกมแนว Action Hunting ซึ่งเป็นแนวเฉพาะทางที่มีระยะเวลาการโลดแล่นบนเครื่องเกมมา 17 ปีแล้ว และในปี 2021 ซีรี่ส์ล่าแย้นี้ก็ปล่อยเกมออกมาถึง 2 เวอร์ชั่นด้วยกัน โดยเวอร์ชั่นแรกคือ Monster Hunter Rise กับรูปแบบแนวเกม Action Hunting ต้นฉบับที่ลงให้กับเครื่อง Nintendo Switch และมีแผนจะลงให้กับ PC ในต้นปีหน้า และอีกเวอร์ชั่นหนึ่งที่มาในรูปแบบของ RPG ซึ่งวางจำหน่ายพร้อมกันทั้ง 2 แพลตฟอร์มกับ Nintendo Switch และ PC เช่นกัน กับ Monster Hunter Stories 2 โดยมีชื่อภาคพ่วงท้ายว่า Wings of Ruin และนี่คือการผจญภัยในโลกอีกใบของซีรี่ส์ล่าแย้
เรื่องย่อ
เหตุการณ์ของภาคนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องจากภาคที่แล้ว เมื่อเกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นบนเกาะนาม Hakolo เมื่อเหล่า Rathalos ได้เกิดหายไป รวมไปถึงการขุดค้นเจอเรื่องราวของตำนาน Rathalos ที่ไร้ปีก ที่ว่ากันว่าเมื่อใดที่ปีกของ Rathalos ในตำนานนี้สยายออกเมื่อใด ความวินาศจะเกิดขึ้นแก่โลกใบนี้ ซึ่งเรียกเหตุการณ์นี้ว่า Wings of Ruin (ปีกแห่งการทำลายล้าง) ด้วยเหตุนี้ ไรเดอร์หนุ่มน้อยฝึกหัด ผู้เป็นหลานชายของ Red ไรเดอร์ในตำนานจากภาคแรกได้กลายเป็นเหมือนความหวังของหมู่เกาะ รับมอบหมายให้ทำภารกิจในการหยุดยั้งหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้น พร้อมกับเหล่า Monstie คู่ใจ การผจญภัยและภารกิจอันยิ่งใหญ่ก็เริ่มต้นขึ้น
เกมเพลย์
สำหรับภาค Stories นั้นจะเน้นหนักในการเล่าเรื่องและนำเสนอในรูปแบบของเกมแนว RPG Turn-Base ซึ่งตัวเกมนั้นจะเป็นการให้ผู้เล่นเน้นการต่อสู้ร่วมกันกับมอนสเตอร์ (โดยในเกมเรียกว่า Monstie) โดยเราจะสวมบทบาทเป็น Rider ที่มี Monstie เป็นเหมือนตัวช่วยในการผจญภัย ซึ่งเหล่า Monstie นี้ก็คือมอนสเตอร์ที่อยู่ในซีรี่ส์ Monster Hunter ที่เรารู้จักกันดี ซึ่งมีมากกว่าร้อยแบบ โดยการจะได้เจ้า Monstie ไว้ใช้งานนั้น เราจะต้องไปขโมยไข่ในรังของมอนสเตอร์ (Monster Den) ออกมา แล้วนำมันมาฟักเพื่อให้เป็นตัว Monstie ไว้ใช้งานได้ ซึ่ง Monstie แต่ละชนิดก็จะมีความสามารถที่แตกต่างกันออกไป บางตัวสามารถกระโดดข้ามฝั่งได้ บางตัวสามารถว่ายน้ำได้ หรือบางตัวสามารถปีนได้ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการสำรวจเป็นอย่างมาก
รวมไปถึงในโหมดการต่อสู้ Monstie และไรเดอร์ต้องทำงานร่วมกัน ซึ่งการต่อสู้นั้นจะมีรูปแบบของการแพ้-ชนะทาง ทั้งหมด 3 แบบ คือ Power, Speed และ Technic รวมไปถึงหากต่อสู้จนสะสมเกจได้ก็สามารถใช้ท่าไม้ตายจากการขี่เจ้า Monstie นี้ เรียกว่าระบบ Kinship Skill ซึ่งจะช่วยให้การโจมตีนั้นรุนแรงกว่าเดิม
ภารกิจของเกมนี้นอกจากจะมีเป้าหมายในการผจญภัยเพื่อหยุดยั้งวิกฤติปีกแห่งการทำลายล้างแล้ว ตัวเกมยังมีภารกิจเสริมที่ได้จากการสนทนากับ NPC หรือการรับเควสตามกระดานในหมู่บ้าน เพื่อได้รางวัลและผลตอบแทนดีๆ ไว้ใช้ในการอัปเกรดทั้งตัวไรเดอร์และ Monstie ที่เรามีอยู่ได้อีกด้วย ในส่วนการอัปเกรดนั้น ไรเดอร์ของเราจะทำได้แค่สวมใส่อาวุธและอุปกรณ์เท่านั้น แต่สำหรับ Monstie นั้นจะมีการอัปเกรดในเรื่องของค่า Stat ต่างๆ ซึ่งมาในรูปแบบของยีนส์สายพันธุ์ โดยสามารถปรับแต่งธาตุ ปรับแต่งสกิลต่างๆ ทำให้ Monstie ของเรานั้นสามารถมีท่าไม้ตายใหม่ๆ จากการปรับแต่งอีกด้วย ทำให้ผู้เล่นสามารถครีเอทหรือปรับแต่งอัปเกรดเจ้า Monstie ตามที่ตัวเราต้องการได้อย่างเต็มที่ และไม่เหมือนใคร
แม้ว่าภาคนี้ไม่ได้มีระบบการล่ามอนสเตอร์แบบเวอร์ชั่นต้นฉบับ แต่สำหรับ Stories 2 นี้ก็มีระบบบางอย่างจากเวอร์ชั่นหลักให้ได้ใช้งานกันอยู่ อย่างเช่น ระบบการคราฟท์ไอเทม การรวบรวมชิ้นส่วนของมอนสเตอร์เพื่อนำไปทำเป็นอาวุธหรืออุปกรณ์ให้กับไรเดอร์อีกทั้งหัวใจหลักของการสำรวจหรือการค้นหาด้วยการใช้ Scoutflies แบบในภาค World ก็มีแทรกมาให้เห็นอยู่เป็นระยะ และภาคนี้เป็นภาคแรกของซีรี่ส์ Stories ที่มีระบบ Coop ที่สามารถชวนผู้เล่นไปช่วยกันสำรวจและต่อสู้กับมอนสเตอร์ รวมไปถึงค้นหาไข่มอนสเตอร์จากรังได้อีกด้วย
กราฟฟิก
เนื่องจากตัวเกมนั้นวางจำหน่ายทั้งใน Nintendo Switch และ PC ดังนั้นขอรีวิวในการเล่นจากฝั่ง PC นะครับ กราฟฟิกของเกมนั้นถือว่าอยู่ในระดับที่ดี และเป็นมิตรกับเครื่อง PC สเปกต่ำๆ ได้ เฟรมเรตในการเล่นนั้นไหลลื่น ไม่มีอาการกระตุกใดๆ ให้เห็น รวมไปถึงในฉากต่อสู้ของเกมนี้ ก็ทำออกมาได้สวยงามอลังการ รวมไปถึงตัวเกมได้ใส่ระบบเพิ่มความเร็วในการต่อสู้ ซึ่งจากที่ลองปรับสุดตัวเกมก็ไม่มีอาการกระตุกแต่อย่างใด
จุดสังเกต
เรื่องของ Performance และการนำเสนอของเกมนั้น ยอมรับตามตรงว่าสอบผ่านทุกอย่าง แต่จุดอ่อนสำคัญของซีรี่ส์ Monster Hunter แทบทุกภาคคือการดำเนินเรื่องหรือเล่าเรื่องที่เบาบางไปหน่อย ซึ่งใน Stories 2 ก็เช่นเดียวกัน แม้ว่าการดำเนินเรื่องของเกมนี้จะดูจืดๆ แบบสไตล์การ์ตูนเด็กไปหน่อยที่ขาดความหวือหวาหรือจังหวะต่างๆ ให้ดูตื่นเต้นก็ตาม แต่ก็ยังรู้สึกว่าสนุกอยู่บ้าง ถ้าสำหรับใครมองว่าสตอรี่ไม่ใช่ปัญหา ก็นับว่าเป็นเกมที่ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว
สรุป
เป็นอีกหนึ่งไลน์อัพของซีรี่ส์ล่าแย้ที่ค่อนข้างประทับใจ และทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว สำหรับผมที่เป็นแฟนเกม Monster Hunter อยู่แล้วมองว่าเกมนี้ให้ฟิลของมอนฮันได้อย่างเต็มอิ่ม มีความสดใสน่ารัก เหมาะกับผู้เล่นที่ชอบเกมแนว JRPG เล่นฆ่าเวลารอ Rise ลง PC ก็ไม่เลวเลยทีเดียว ถ้าจะให้พูดถึงตัวเกม JRPG ที่น่าสนใจ ณ ตอนนี้ Monster Hunter Stories 2: Wings of Ruin คือตัวเลือกที่ไม่เลวสำหรับปีนี้เลยครับ และสุดท้ายนี้ขอขอบคุณทาง Sicom Amusement ที่มอบตัวเกมให้ทางทีมงานได้ทดสอบกันนะครับ