สำหรับผมคำว่าเกม Fighting ยุคใหม่ คือเกมที่มีการออกแบบรูปแบบการเล่นหรือมุมมองในการเล่นที่แตกต่างไปจากเดิม เพราะในยุคคเก่า เรามักจะติดอยู่กับเกม Fighting ที่มีมุมมองแบบด้านข้าง และระบบต่อสู้ที่ต้องกดกระบวนท่าไปมาค่อนข้างยาก ซึ่งต้องใช้เวลาในการฝึกที่สูง โดยในยุคนั้นตัวเกมก็จะมีลักษณะการเล่นที่คล้ายกันอยู่ เช่น Street Fighter, Tekken, หรือ King of Fighters ที่ถ้าเป็นผู้เล่นระดับสูงจะบอกได้ทันทีว่าเกมทั้ง 3 นี้มีความแตกต่างกันอย่างไร แต่สำหรับตัวเกมทั้ง 3 ก็ยังอยู่ในพื้นฐานเดียวกันอยู่ เพียงแต่ทริคและเทคนิคการเล่นในแต่ละเกมไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ 5 เกมที่ผมจะแนะนำให้เพื่อนได้ซื้อไว้เล่นจึงดูเป็นเกมยุคใหม่กว่า "ที่มีจุดเด่นหนึ่งเสริมเข้ามาเป็นส่วนประกอบ" โดยที่น้อยเกมนักจะมี~
เกมที่ 1 : Absolver
แพลตฟอร์ม : PS4, PC
"หลากหลายท่วงท่าที่เราสามารถเลือกสรรค์ได้เอง"
สิ่งที่ Absolver ถูกเลือกมาในครั้งนี้ก็เพราะด้วยระบบต่อสู้ ที่ผู้เล่นสามารถจัดแต่งขึ้นมาได้เอง หากมองในภาพรวม เกมนี้ถือเป็นเกม Fighting ยุคใหม่มากๆ มันใช้การเล่นมุมมองแบบ TPS กระบวนท่าที่สามารถเรียกและใช้ออกมาได้อย่างง่ายดาย แต่สิ่งที่แยกคนที่เล่นเก่ง กับคนที่พึ่งฝึกเล่นออกจากกันก็คือ การอ่านทาง จังหวะ และการออกแบบลูปคอมโบเป็นของตนเอง ประกอบกับมุมมองแบบ 360 องศา ทำให้ตัวเกมมีลักษณะการต่อสู้ที่ค่อนข้างกว้างและไม่เหมือนใคร
ซื้อตัวเกมได้ที่นี่ [คลิ๊ก]
เกมที่ 2 : Naruto Ultimate Ninja Storm Legacy
แพลตฟอร์ม : PS4, XB One, PC
"ศึกนินจา เกมต่อสู้ที่ง่ายแต่มากเอกลักษณ์"
สำหรับผม ซีรีย์เกม Naruto ถือเป็นเกมที่มาบุกเบิกเกม Fighting ยุคใหม่อย่างแท้จริง คือผมเคยได้เล่นตัวเกมตั้งแต่มุมมองแบบด้านข้าง จนตัวเกมเปลี่ยนมาใช้มุมมองแบบ 360 องศา ซึ่งในตอนนั้นมีไม่กี่เกมที่ทำแบบนี้ และโดยเฉพาะเกม Naruto ที่พอเล่นร่วมกับเพื่อน ไม่มีการแบ่งหน้าจอเหมือนเกมยุคเก่าๆ แต่ทั้งหมดจะเห็นอยู่ในหน้าจอเดียวกัน นอกจากนี้ตัวเกมยังออกแบบมาให้เล่นได้ง่ายมากๆ ซึ่งเกมที่ง่ายมากๆ ก็มักจะมีพื้นฐานการเล่นที่ไม่ซับซ้อนอะไร แต่จะแตกต่างกันไปที่เทคนิคการควบคุมในตัวละครต่างๆ ทำให้คนที่เล่นเกมนี้ด้วยกันสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าเกมที่ต้องฝึกท่าไปมาอยู่นาน
ซื้อตัวเกมได้ที่นี่ [คลิ๊ก]
เกมที่ 3 : Brawlhalla
แพลตฟอร์ม : PS4, PC, Mac
"ตัวแทนของเกมฝั่ง 2D สนุก ง่าย และฟรี"
ผมเล่นเกมเกมนี้ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่ตัวเกมเปิดทดสอบ และก็เล่นต่อเมื่อตัวเกมปล่อยตัวเต็มให้เราได้เล่นกันในรูปแบบ Free to Play จนตอนนี้ตัวเกมติดอันดับ 1 ใน 10 ของเกม Free บน Steam ผมก็ยังชื่นชอบมันอยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย เหตุผลนั้นเกิดจากรูปแบบการเล่นของตัวเกม ที่เหมือนจะเล่นง่าย แต่ก็ยากในเวลาเดียวกัน คือปัจจุบันตัวเกมมีตัวละครออกมาเยอะมาก ซึ่งตัวละครแต่ละตัวมีเทคนิคการกดท่าต่างๆ ออกมาที่เหมือนกัน แต่จังหวะของท่า และการใช้อาวุธของตัวละครนั้นแทบจะเป็นจุดชี้ขาดของเกมเกมนี้เลย หากคุณมั่วใส่คู่ต่อสู้ที่มีสติคุณก็จะโดนสวนกลับ หากคุณช้าคุณก็จะตามผู้เล่นอีกฝ่ายไม่ทัน และความเครียดจากตัวฉากที่ตกลงไปตายได้ ก็ทำให้กดดันอยู่พอสมควร
ดาวน์โหลดตัวเกมได้ที่นี่ [คลิ๊ก]
เกมที่ 4 : Injustice 2
แพลตฟอร์ม : PS4, XB One
"เกมต่อสู้ของเหล่าฮีโร่ฝั่ง DC"
ความแปลกใหม่ที่สุดของเกมเกมนี้เลยก็คือ การใช้ฉากร่วมกับการเล่นครับ เห้ยคุณหลายๆ เกมมักเอาฟีเจอร์นี้ไว้เสริมการเล่น แต่ในเกมนี้คคุณแทบจะนำมาใช้เล่นเป็นกลยุทธ์หลักของในแต่ละฉาก แต่ละด่านได้เลย ไหนจะการโดนต่อยทะลุจนเปลี่ยนฉากอีก ผมจึงจัดให้ซีรีย์ Injustice มีความใหม่และโดดเด่นด้านการออกแบบลูกเล่นในฉากที่เกม Fighting เกมอื่นไม่มีใครเหมือนครับ
ซื้อตัวเกมได้ที่นี่ [คลิ๊ก]
เกมที่ 5 : DRAGON BALL XENOVERSE 2
แพลตฟอร์ม : PS4, XB One, PC, Nintendo Switch
"จุดเปลี่ยนของซีรีย์ Dragon Ball จ้าาาา"
ขอบอกก่อนนะครับ ใครชอบการเล่นของ XENOVERSE ก็คือหลงรักเลย แต่ถ้าใครไม่ชอบก็คือเกลียดเลยละ ส่วนสำหรับผู้เขียนชอบมากครับ ข้อแรกคือตัวเกมให้อิสระเราในการปรับแต่งตัวละครของตนเองให้สามารถใช้ท่าเท่ห์ๆ ที่ปรากฎในเรื่องได้ทั้งหมด และถ้าอยากเล่นตัวละครในเรื่องก็สามารถหยิบมาเล่นได้ทั้งหมดเช่นกัน มันทำให้ตัวเกมเล่นง่ายขึ้นมาก รวมไปถึงฉากต่อสู้ที่ดุเดือดเลือดพล่านอยู่แล้ว ผมว่ามันตอบโจทย์สำหรับคนที่ชอบเล่นเกม Fighting ง่ายๆ ไปจนถึงปานกลางนะครับ แต่สำหรับคนที่ติดภาพเกมเวอร์ชั่น PS2 ที่ต้องใช้นิ้วกดๆ ลากๆ ถูๆ ผมว่าคงไม่ชอบเกมนี้หรอก
ดาวน์โหลดตัวเกมได้ที่นี่ [คลิ๊ก]