หลายคนเห็นหัวข้อบทความนี้คงต้องแซวผู้เขียนเป็นแน่ว่า "แหม่ๆๆๆ พอมีเกมมาทำเป็นหนังทีไรต้องทำบทความแบบนี้ออกมาทั้งปีเลยน้าาาา" ซึ่งผู้เขียนก็ขอทำหน้านิ่งและตอบกลับไปตามตรงเลยว่า "ก็มันขายได้นี่ (>///<)" แต่ !! ถ้าเพื่อนๆ คิดว่าบทความนี้ผมจะหยิบเอาแค่เกมมาเล่าว่ามันดีอย่างนู้นอย่างนี้ เพื่อนๆ ก็คงคิดผิดไปแล้วละ เพราะผมจะไม่ยกเกมมาเพียงอย่างเดียว แต่เราจะมาพูดถึงความ "ปัง" ของตัวหนังและตัวเกมว่าอันไหนมันปังกว่ากันหรือ "พัง" กว่ากันกันแน่ ทั้งนี้ผมคิดว่าเพื่อนๆ หลายคนคงสงสัยกันว่าทำไมถึงต้องมี Part ด้วยละสรุปมาเป็นบทความเดียวเลยไม่ได้เหรอ ? ผมก็ขอขมวดคิ้วและตอบกลับด้วยเสียงหนักแน่นเลยละกันว่า "ถ้ายกมาหมดก็ไม่มีเรื่องเขียนให้อ่านต่ออะเดะ !! ตกงานนะเห้ยยย !!! แล้วจะเอาอะไร๊กิ๊นนนนนน ฮะ !! (-*-)" ขอเชิญรับชมครับ...
"Warcraft"
- ค่ายเกม & ค่ายหนัง : Blizzard Entertainment // Legendary Pictures, Blizzard Entertainment
- วันวางจำหน่ายครั้งแรก & วันฉาย : พฤศจิกายน 1994 // 26 พฤษภาคม 2016
- จำนวนภาค & จำนวนหนัง : 5 // 1
นี่คือหนึ่งในซีรีย์เกมในตำนานที่ต้องถูกจารึกชื่อไว้ตลอดกาล และมันถือเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมเขียนบทความนี้ขึ้นมาครับ ดังนั้นถ้าพูดถึงเกมเกมนี้ ขอบอกเลยว่ามัยคือที่สุดของที่สุดมหากาพย์ที่เกมเมอร์สายเสพเนื้อเรื่องควรไปหามาเล่นดูซักครั้งหนึ่งเลยก็ว่าได้ แต่ถ้าพูดถึงตัวหนังหลังจากที่ผมได้ไปรับชมตัวหนังมาอย่างสดๆ ร้อนๆ ผมคิดว่าหนังเรื่องนี้ทำออกมาดีเกิดกว่าที่ผมคาดไว้มากครับ แม้มันจะไม่ใช่สุดยอดภาพยนต์ที่จะได้ถูกจารึกชื่อไว้ก็ตาม แต่อย่างไรผมก็ยังรอภาคต่อไปของภาพยนต์เรื่องนี้อยู่ดี และเชื่อว่าภาคหน้าจะต้องดีกว่าภาคนี้เป็นแน่ ดังนั้นถ้าให้ผมเทียบว่าเกมหรือหนังของ Warcraft อันไหนปังกว่ากัน ผมขอเลือกเป็นเกมละกันครับ แต่อย่างไรก็ตามตัวหนังก็ถือว่าปังอยู่ในระดับหนึ่งเช่นกัน
"Assassin's Creed"
- ค่ายเกม & ค่ายหนัง : Ubisoft // 20th Century Fox, Ubisoft Motion Pictures, New Regency
- วันวางจำหน่ายครั้งแรก & วันฉาย : 13 พฤศจิกายน 2007 // 22 ธนวาคม 2016
- จำนวนภาค & จำนวนหนัง : 15 // 0 + 1
Assassin's Creed ถือเป็นสุดยอดซีรีย์เกมเกมหนึ่งที่ผมขอแนะนำให้เพื่อนๆ ไปลองหยิบยกมาเล่นดูซักภาค เพราะมันสนุกมากๆ ในเรื่องของรูปแบบการต่อสู้ เนื้อเรื่อง แนวคิด และธีมของมัน ทีนี้ถ้าบอกว่าตัวเกมมันปังไหมก็คงต้องบอกว่าปังมากครับ เพียงแต่ว่าซีรีย์นี้มันกลับเป็นเกมที่ออกมาบ่อยมากเกินไปจนเราไม่สามารถพบความเปลี่ยนแปลงของมันได้เลย ยกเว้นธีมเกมและเนื้อเรื่องเท่านั้นที่เปลี่ยนไป ทำให้ช่วงหลังๆ ผมค่อนข้างจะเบื่อเกมนี้ไปซะแล้ว และสำหรับเรื่องของตัวภาพยนต์นั้น จากที่ผมดูตัวอย่างมาผมคิดว่ามันมีสิทธิ์ที่จะปังและพังอยู่เท่าๆ กันครับ เพราะหนึ่งท่วงท่าในหนังมันดันทำออกมาได้ไม่ดุดันเท่ากับตัวเกม และสองจากที่ผมสังเกตุจากตัวอย่างคือตัวหนังพยายามจะดำเนินเนื้อเรื่องของทั้ง 2 ฝั่งมากเกินไป นั่นทำให้เวลาไม่กี่ชั่วโมงอาจเล่าเรื่องทั้งหมดในหนังไม่เคลียร์ได้เทียบเท่ากับตัวเกมที่กว่าจะจบซักหนึ่งเรื่อง ถึงกับต้องเข็นภาคต่ออกมาอย่างมากมาย ดังนั้นสำหรับความปังของเกมนี้ผมให้ฝั่งเกมปังมากกว่าครับ แต่ในอนาคตมันอาจพังก็ได้ ถ้าทางทีมพัฒนาไม่รู้จักหาอะไรใหม่ๆ มาใส่ให้กับตัวเกมบ้าง !!
"Tomb Raider"
- ค่ายเกม & ค่ายหนัง : Square Enix // Paramount Pictures, Mutual Film Company
- วันวางจำหน่ายครั้งแรก & วันฉาย : 25 ตุลาคม 1996 // 13 กรกฎาคม 2001
- จำนวนภาค & จำนวนหนัง : 11 // 2 + 1
ถ้าพูดถึงเกมผจญภัยที่สนุกที่สุดของผม ผมก็คงพูดชื่อเกม Tomb Raider ออกมาเป็นชื่อแรกๆ อย่างแน่นอน โดยไม่ว่าจะเป็นภาคเก่าในรุ่นก่อนๆ จนมาถึงในปัจจุบัน ซึ่งเรียกได้ว่าเกมนี้พัฒนามาอย่างก้าวกระโดดมากๆ และในอนาคต Tomb Raider ก็จะยังคงเป็นเกมที่ยังปังอยู่เสมอไม่เสื่อมคลายเป็นแน่ถ้าทีมงามไม่เผาตัวเกมออกมาอะนะ ส่วนตัวหนังผมถือว่าสอบผ่านทั้งสองภาคนะครับ ถึงแม้ว่าในภาคสองเขาจะด่ากันแค่ไหนก็ตาม แต่สำหรับผมแล้วหนัง Tomb Raider ถือเป็นภาพยนต์ที่เลือกตัวนักแสดงนำได้เจ๋งที่สุดแล้วก็ว่าได้ เพราะขุ่นแม่มาลีท่านนั้นเหมาะกับบทนี้อย่างแท้จริง จนในบางครั้งก็มีหลายคนเหมือนกันที่บอกว่าตัวเกมนั้นถูกสร้างมาจากหนัง !! ดังนั้นในครั้งนี้ผมจึงถือว่าทั้งเกมทั้งหนัง "ปัง" ทั้งคู่ และยังมีข่าวออกมาอีกว่าเขากำลังจะรีบูทหนัง Tomb Raider ขึ้นมาใหม่ ซึ่งมันจะปังหรือจะพังเราคงต้องรอรับชมกันต่อไป
"Resident Evil"
- ค่ายเกม & ค่ายหนัง : Capcom // Screen Gems, Constantin Film
- วันวางจำหน่ายครั้งแรก & วันฉาย : 22 มีนาคม 1996 // 5 เมษายน 2007
- จำนวนภาค & จำนวนหนัง : 24 // 5 + 1
อีกหนึ่งซีรีย์เกมที่ยิ่งมีภาคใหม่ออกมามากเท่าไหร่ บรรยากาศของตัวเกมก็เปลี่ยนตามไปมากขึ้นเท่านั้น ทำไมผมถึงพูดอย่างนั้นเหรอ ? เพราะถ้าหากคุณได้เคยลองเล่น Resident Evil ในภาคแรกๆ คุณจะรับรู้ได้ทันทีว่านี่คือเกมสยองขวัญชั้นเยี่ยมที่หาเกมไหนมาเทียบได้ติด แต่ถ้ามาเล่นในช่วงหลังๆ เกมนี้ก็ถือเป็นเกม Action ที่หาเกมไหนมาเทียบเอียงได้ยากเช่นกัน ซึ่งในตรงส่วนนี้มันก็เหมือนกับฝั่งตัวหนังเสียด้วยสิ เพราะยิ่งตัวหนังออกภาคใหม่มามากเท่าไหร่ ความสนุก ความตื่นเต้นมันก็ลดลงมาเรื่อยๆ โดยถ้าให้ผมพูดตรงๆ ก็คือมันพังตั้งแต่ภาคที่ 3 ลงมาเลยก็ว่าได้ ส่วนในภาค 6 ที่จะออกฉายปีหน้าจะพังด้วยไหม ผมก็คิดว่ามันไม่น่ารอดเช่นกัน โดยถ้าให้พูดถึงความปังของทั้ง 2 ฝั่งนี้ ในฝั่งเกมปัจจุบันก็ถือเป็นเกมที่ยังปังอยู่ และขายออกอยู่ตลอดเวลา ส่วนฝั่งหนังผมขอไม่พูดถึงละกัน เพราะสำหรับผมหนังมันจบไปตั้งแต่ภาคที่ 2 แล้ว วุ้ย !!!
"Silent Hill"
- ค่ายเกม & ค่ายหนัง : Konami // TriStar Pictures, Major Cinepictures
- วันวางจำหน่ายครั้งแรก & วันฉาย : 31 มกราคม 1999 // 21 เมษายน 2006
- จำนวนภาค & จำนวนหนัง : 12 // 2
Silent Hill ถือเป็นซีรีย์เกมสยองขวัญเกมหนึ่งที่ถูกจารึกชื่อไว้ในความทรงจำของทุกผู้คน เพราะด้วยความยากของตัวเกม และบรรยากาศสุดหลอนที่จะพาเราเข้าไปยังเมืองแห่งหมอก พร้อมผจญไปกับเหล่าอสูรสุดวิปลาศและเนื้อเรื่องสุดดราม่าจนบางครั้งคุณถึงกลับต้องกับหลังน้ำตา ส่วนสำหรับตัวหนังทั้ง 2 ภาคที่ได้ทำออกมานั้น ผมค่อนข้างจะชอบภาคแรกเอามากๆ ครับ เพราะด้วยเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างจะดราม่าหักมุม ชวนจิตตกในท้ายเรื่องถือว่าทำออกมาได้ไม่เลวเลย แต่กลับกันในภาค 2 ของหนังเรื่องนี้กลับทำออกมาได้พังเอามากๆ จนทำให้ภาคแรกดูหมองไปด้วยเลยก็ว่าได้ ดังนั้นถ้าให้ผมสรุปเกี่ยวกับความปังของทั้ง 2 ฝั่งนี้ ฝั่งเกมก็คงกินขาดไปอย่างไร้ที่ติ ส่วนฝั่งหนังถ้าไม่มีภาค 2 ออกมามันคงจะดีกว่านี้ครับ เพราะฉะนั้นผมแนะนำให้ดูภาคแรกอย่างเดียวพอละกัน ส่วนภาค 2 ช่างมันเถอะ !!