บทความนี้เราจะพาไปตะลุย "ดันเจี้ยนผู้แข็งแกร่ง - ไรคาเงะ" ผู้นำแห่วแคว้นสายฟ้าที่มีการโจมตีที่รวดเร็วและโจมตีได้หลายครั้งต่อเทิร์น ในการปรากฏตัวครั้งนี้เค้ามาพร้อมกับ "คิลเลอร์ บี" รวมทั้งผู้ติดตามของไรคาเงะอีกมากมาย จะมีรายละเอียดอะไรกันบ้างไปชมกันได้เลย
ระบบผู้แข็งแกร่งปรากฏตัวนี้จะปลดล็อคให้ตั้งแต่เลเวล 43 ขึ้นไป สามารถเข้าดันเจี้ยนนี้ได้สัปดาห์ละ 6 ครั้งซึ่งจะรีเซ็ตให้ทุกๆวันจันทร์ตอนเวลา 05.00 น. ผู้แข็งแกร่งในครั้งนี้คือ "ไรคาเงะ" ผู้นำแห่งแคว้นสายฟ้าที่มีการโจมตีที่รวดเร็วและสามารถโจมตีได้หลายครั้งต่อเทิร์น โดยมีระดับความยากอยู่ด้วยกัน 3 ระดับก็คือ ระดับสวรรค์, ระดับยักษ์ และสุดท้ายระดับอาซูร่า ในทุกๆระดับนี้ศัตรูจะมีเลเวลเท่ากับตัวละครของเรา หรือหากเข้าเป็นทีมนั้นศัตรูจะยึดตามเลเวลที่มากที่สุดในทีม ในการลงแบบทีมนี้แนะนำให้จัดทีมกับเพื่อนที่มีเลเวลเท่าๆกันเพื่อไม่ให้ศัตรูยากจนเกินไป โดยรายละเอียดของศัตรูทั้งหมดมีดังนี้
ระดับนี้คือระดับที่ง่ายที่สุด สามารถเข้าแบบคนเดียวหรือแบบทีม 2-3 คนก็ได้ (แต่เมื่อเข้าแบบทีม 2-3 คน ศัตรูก็จะเยอะขึ้นอีก 1-2 เท่าตัว) โดยแต่ละครั้งที่ลงดันเจี้ยนระดับนี้จะใช้พลังกาย 10 แต้ม ต่อสู้กับศัตรู 3 รอบ ซึ่งรางวัลหลักๆของระดับสวรรค์คือ ผ้าทั่วไป, ผ้าระดับกลาง, และเข็มด้ายทั่วไป ไอเทมเหล่านี้เอาไว้อัพเกรดชุดต่อสู้เพื่อเพิ่มค่าความแข็งแกร่งของตัวละคร สำหรับรายละเอียดของศัตรูในระดับสวรรค์มีดังนี้
• ทีมมีดคู่คุโมะ : ศัตรูเหล่านี้โจมตีเป็นความเสียหายแบบกระบวนท่า และโจมตีตัวละ 2 ครั้งใน 1 เทิร์น
• แนะนำการเลือกใช้นินจา : แนะนำให้เลือกใช้นินจาที่มีค่าพลังป้องกันสูงมาวางไว้ในแนวหน้า หรือใช้นินจาที่สร้างร่างแยกเงาป้องกันความเสียหายในด้านหน้าแทนได้ เช่น "คิมิมาโร่" นินจาที่มีความสามารถในการป้องกันการโจมตีปกติได้ดี แต่อย่างไรก็ตามควรมีนินจาซัพพอร์ทที่คอยรักษาเพื่อนร่วมทีมด้วย ในที่นี่ขอแนะนำนินจาที่ชื่อว่า "คาบูโตะ" เป็นนินจาที่เข้าคู่กับคิมิมาโร่ได้ดี และยังสร้างซอมบี้มาป้องกันความเสียหายจากศัตรูได้
• ทีมแพทย์คุโมะ : ทีมแพทย์คุโมะนี้จะมีอยู่ด้วยกัน 4 คน มีความสามารถในการรักษาเพื่อนร่วมทีมสูง และใช้สกิลชุบชีวิตเพื่อนร่วมทีมเมื่อเพื่อนร่วมทีมตายได้ หากเราเข้าโจมตีศัตรูเหล่านี้จะทำให้เราติดสถานะ "เหน็บชา" ไม่สามารถตามโจมตีเพื่อทำคอมโบได้
• ซี : มีความสามารถในการสร้างสถานะ "ตาบอด" และลบบัฟทั้งหมดของนินจาที่ไม่ใช้ธาตุสายฟ้า ทำให้นินจาที่ไม่ใช้ธาตุสายฟ้านี้โจมตีปกติไม่ได้ (แต่ยังสามารถใช้งานสกิลได้) โดยซีจะสร้างสถานะตาบอดในทุกๆเทิร์น หากเราเข้าโจมตีซีจะทำให้เราติดสถานะ "เหน็บชา" ไม่สามารถตามโจมตีเพื่อทำคอมโบได้เช่นเดียวกับการโจมตีทีมแพทย์คุโมะ
• แนะนำการเลือกใช้นินจา : แนะนำให้เลือกใช้นินจาที่มีค่าพลังโจมตีสูง และสามารถโจมตีเป็นกลุ่มได้เมื่อใช้งานสกิล ในการต่อสู้กับศัตรูรอบที่ 2 นี้จะต้องฆ่าศัตรูพร้อมกันให้ได้มากที่สุดในการโจมตีครั้งเดียว ในที่นี้ขอแนะนำนินจาที่ชื่อว่า "อูคอนซาคอน" นินจาที่มีพลังโจมตีสูง เมื่อกดใช้งานสกิลจะสร้างความเสียหายเป็นกลุ่มได้ดี หรือเลือกใช้สกิลตัวละครหลักของเราให้เป็นสกิลโจมตีหมู่แทน เพราะว่าตัวละครหลักทุกๆธาตุนั้นจะมีสกิลที่โจมตีเป็นกลุ่มให้เลือกใช้อยู่แล้ว
ศัตรูรอบที่ 3
• คิลเลอร์บี : เมื่อเข้าสู่การต่อสู้บีจะใช้สกิลบัฟเพิ่มการโจมตีปกติ 1 ครั้งให้ไรคาเงะ สกิลของบีนี้สามารถป้องกันการขัดจังหวะได้ และบียังป้องกันสถานะดีบัฟทั้งหมดด้วย
• ไรคาเงะ : เมื่อเข้าสู่การต่อสู้ไรคาเงะจะใช้สกิล "สายฟ้าคุ้มกาย" มีผลให้ตัวไรคาเงะป้องกันดีบัฟทั้งหมด รวมทั้งเพิ่มการโจมตีปกติเป็น 4 ครั้งในเทิร์นแรกทันที การโจมตีปกติของไรคาเงะจะสร้างสถานะ "เครื่องหมาย" (สถานะนี้จะลดพลังป้องกันและค่าต้านทาน 30%) ทำให้โจมตีศัตรูได้รุนแรงมากขึ้น การโจมตีของไรคาเงะนี้จะสุ่มโจมตีศัตรู จึงหาวิธีรับมือได้ยาก
• แนะนำการเลือกใช้นินจา : แนะนำให้เลือกใช้นินจาที่สามารถสร้างเกราะป้องกันให้เพื่อนร่วมทีมได้ เช่น "คุเรไน" มีความสามารถในการสร้างเกราะป้องกันและฮีลเพื่อนร่วมทีมที่เลือกได้ในทีนที แนะนำเพิ่มเติมว่าก่อนเข้าสู่การต่อสู้กับไรคาเงะนี้ควรมีสกิลที่พร้อมกดใช้ได้ในเทิร์นแรก เพราะเราต้องกำจัดไรคาเงะให้ได้เร็วที่สุด
ระดับนี้คือระดับปานกลาง สามารถเข้าแบบคนเดียวหรือแบบทีม 2-3 คนก็ได้ (แต่เมื่อเข้าแบบทีม 2-3 คน ศัตรูก็จะเยอะขึ้นอีก 1-2 เท่าตัว) โดยแต่ละครั้งที่ลงดันเจี้ยนระดับนี้จะใช้พลังกาย 20 แต้ม ต่อสู้กับศัตรู 4 รอบ ซึ่งรางวัลหลักๆของระดับยักษ์คือ ผ้าระดับกลาง, ผ้าระดับสูง และเข็มด้ายทั่วไป ไอเทมเหล่านี้เอาไว้อัพเกรดชุดต่อสู้เพื่อเพิ่มค่าความแข็งแกร่งของตัวละคร สำหรับรายละเอียดของศัตรูในระดับยักษ์นี้จะคล้ายคลึงกับระดับสวรรค์ แต่จะเพิ่มรอบการต่อสู้จาก 3 รอบเป็น 4 รอบ และศัตรูนี้จะมี HP มากขึ้น
ศัตรูรอบที่ 1 และ 2
ศัตรูในรอบที่ 1 และ 2 นี้จะมีการโจมตีเหมือนกันกับระดับสวรรค์ สิ่งที่ต่างกันของ 2 ระดับนี้ก็คือ ศัตรูมีค่า HP มากขึ้นเมื่อเทียบกับระดับสวรรค์ ทำให้การต่อสู้จะยากขึ้นเล็กน้อย หากไม่สามารถสู้ด้วยตัวคนเดียวได้ แนะนำให้ลงแบบทีมจะง่ายกว่า
• แนะนำการเลือกใช้นินจา : การเลือกใช้นินจานี้สามารถใช้นินจาแบบเดียวกับระดับสวรรค์ได้เลยคือ ในการต่อสู้รอบที่ 1 แนะนำให้เลือกใช้นินจาที่เน้นการป้องกันการโจมตีปกติได้ดี เช่น "คิมิมาโร่" เป็นนินจาที่มีการป้องกันการโจมตีปกติได้ดี และการต่อสู้ในรอบที่ 2 นี้แนะนำให้เลือกใช้นินจาที่เน้นการโจมตีเป็นกลุ่ม เราสามารถเลือกใช้สกิลของตัวละครหลักเป็นสกิลการโจมตีแบบกลุ่มแทนได้
• ดารุย : เมื่อเข้าสู่การต่อสู้ดารุยจะสร้างม่านพลังที่เพิ่มพลังโจมตีให้กับตัวเองและร่างแยกเงา 40% ร่างแยกเงาของดารุยที่สร้างขึ้นมาจะมีอยู่ด้วยกัน 3 ตัว สามารถโจมตีได้เช่นเดียวกับร่างหลัก ส่วนสกิลของดารุยนั้นจะสร้างความเสียหายเป็นกลุ่มซึ่งมากที่สุดคือ 7 ตัว ทั้งยังสร้างสถานะ "เหน็บชา" ทำให้ไม่สามารถตามการโจมตีเพื่อทำคอมโบได้
• แนะนำการเลือกใช้นินจา : แนะนำให้เลือกใช้นินจาที่สามารถขัดจังหวะการร่ายคาถาของดารุยได้ เช่น "ไก" นินจาที่มีความสามารถในการขัดจังหวะการร่ายคาถาของศัตรู อีกทั้งยังมีบัฟที่ทำให้นินจาในทีมเราได้รับ HP คืนกลับมา 15% ของดาเมจที่สร้าง ในการโจมตีดารุยนี้แนะนำให้กำจัดร่างหลักของดารุยก่อน เพื่อให้ม่านพลังหายไปและลดความเสียหายที่เราได้รับจากศัตรูได้
ศัตรูในรอบที่ 4 นี้จะมีการโจมตีเหมือนกันกับระดับสวรรค์ สิ่งที่ต่างกันของ 2 โหมดนี้ก็คือ ศัตรูมีค่า HP มากขึ้น และไรคาเงะนี้จะมีพลังโจมตีแรงขึ้นเมื่อเทียบกับระดับสวรรค์ ทำให้การต่อสู้จะยากขึ้น หากไม่สามารถสู้ด้วยตัวคนเดียวได้ แนะนำให้ลงแบบทีมจะง่ายกว่า
• แนะนำการเลือกใช้นินจา : การเลือกใช้นินจานี้สามารถใช้นินจาแบบเดียวกับระดับสวรรค์ได้เลยคือ เลือกใช้นินจาที่เน้นการสร้างเกราะป้องกันให้เพื่อนร่วมทีมได้ เช่น "คุเรไน" มีความสามารถในการสร้างเกราะป้องกันและฮีลเพื่อนร่วมทีมที่เลือกได้ในทีนที ที่สำคัญควรมีสกิลที่พร้อมกดใช้ไว้ด้วยในเทิร์นแรก เพราะเราต้องกำจัดไรคาเงะให้ได้เร็วที่สุด
ระดับนี้คือระดับที่ยากที่สุด สามารถเข้าแบบคนเดียวหรือแบบทีม 2-3 คนก็ได้ (แต่เมื่อเข้าแบบทีม 2-3 คน ศัตรูก็จะเยอะขึ้นอีก 1-2 เท่าตัว) โดยแต่ละครั้งที่ลงดันเจี้ยนระดับนี้จะใช้พลังกาย 30 แต้ม ต่อสู้กับศัตรู 4 รอบ ซึ่งรางวัลหลักๆของระดับอาซูร่าคือ ผ้าระดับกลาง, ผ้าระดับสูง และเข็มด้ายทั่วไป แต่ไอเทมนี้จะต่างจากระดับยักษ์ตรงที่จำนวนของผ้าระดับสูงจะมีโอกาสได้มากกว่า ไอเทมเหล่านี้เอาไว้อัพเกรดชุดต่อสู้เพื่อเพิ่มค่าความแข็งแกร่งของตัวละคร สำหรับรายละเอียดของศัตรูในระดับอาซูร่านี้จะคล้ายคลึงกับระดับยักษ์ตรงที่มี 4 รอบเหมือนกัน แต่จะเพิ่มจำนวนศัตรูในรอบที่ 2 และรอบที่ 4 เข้าไป อีกทั้งศัตรูนี้ยังมี HP มากกว่าระดับยักษ์ด้วย
• ทีมมีดคู่คุโมะ : ศัตรูในรอบที่ 1 นี้มีการโจมตีเหมือนกันกับระดับสวรรค์และยักษ์ คือโจมตีเป็นความเสียหายแบบกระบวนท่า ซึ่งจะโจมตีตัวละ 2 ครั้งใน 1 เทิร์น ศัตรูในรอบแรกนี้จะมีค่า HP เท่ากับระดับยักษ์ ทำให้ผู้ที่เคยผ่านระดับยักษ์มาก่อนแล้ว สามารถสู้กับศัตรูในรอบที่ 1 ได้อย่างสบายๆ
• แนะนำการเลือกใช้นินจา : การเลือกใช้นินจานี้สามารถใช้นินจาแบบเดียวกับระดับสวรรค์และยักษ์ได้เลยคือ เลือกใช้นินจาที่เน้นการป้องกันการโจมตีปกติ เช่น "คิมิมาโร่" นินจาที่มีความสามารถในการป้องกันการโจมตีปกติได้ดี และควรมีนินจาซัพพอร์ทที่คอยรักษาเพื่อนร่วมทีม ในที่นี่ขอแนะนำนินจาที่ชื่อว่า "คาบูโตะ" เป็นนินจาที่เข้าคู่กับคิมิมาโร่ได้ดี อีกทั้งยังสร้างซอมบี้มาป้องกันความเสียหายจากศัตรูได้
ศัตรูรอบที่ 2
• ทีมแพทย์คุโมะ : ทีมแพทย์คุโมะนี้จะมีอยู่ด้วยกัน 4 คนเหมือนกันกับระดับอื่นๆ แต่ศัตรูในรอบที่ 2 นี้จะมีค่า HP มากกว่าะดับยักษ์และสวรรค์ ซึ่งทีมแพทย์คุโมะนี้มีความสามารถในการรักษาเพื่อนร่วมทีมสูง ใช้สกิลชุบชีวิตเพื่อนร่วมทีมเมื่อเพื่อนร่วมทีมตายได้ หากเราเข้าโจมตีศัตรูเหล่านี้จะทำให้เราติดสถานะ "เหน็บชา" ไม่สามารถตามโจมตีเพื่อทำคอมโบได้
• ซี : มีความสามารถในการสร้างสถานะ "ตาบอด" และลบบัฟทั้งหมดของนินจาที่ไม่ใช้ธาตุสายฟ้า ทำให้นินจาที่ไม่ใช้ธาตุสายฟ้านี้โจมตีปกติไม่ได้ (แต่ยังสามารถใช้งานสกิลได้) โดยซีจะสร้างสถานะตาบอดในทุกๆเทิร์น หากเราเข้าโจมตีซีจะทำให้เราติดสถานะ "เหน็บชา" ไม่สามารถตามโจมตีเพื่อทำคอมโบได้เช่นเดียวกับการโจมตีทีมแพทย์คุโมะ
• มาบูอิ : เมื่อเข้าสู่การต่อสู้จะสร้างเกราะป้องกัน 30% ให้นินจาของฝ่ายตัวเอง มีความสามารถในการ "ลบดีบัฟทั้งหมด" รวมทั้งฟื้นฟูจักระ 40 แต้มก่อนโจมตีทุกเทิร์น ทำให้ทีมศัตรูนี้มีจักระในการชุบชีวิตมากขึ้น หากเราเข้าโจมตีมาบูอิก็จะทำให้เราติดสถานะ "เหน็บชา" เหมือนโจมตีนินจาในทีมตัวอื่นๆ
• แนะนำการเลือกใช้นินจา : แนะนำให้เลือกใช้นินจาที่มีค่าพลังโจมตีสูง และสามารถโจมตีเป็นกลุ่มได้เมื่อใช้งานสกิลเช่นเดียวกับระดับอื่นๆ แต่ให้เน้นโจมตีไปที่ทีมแพทย์คุโมะทั้ง 4 ให้หมดก่อน เพื่อทำให้ไม่สามารถชุบชีวิตเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ แนะนำเพิ่มเติมว่าหากพลังโจมตีของเรานั้นไม่สามารถฆ่าศัตรูในรอบที่ 2 ได้ (อาจเป็นเพราะว่าอัพเกรดไอเทมยังไม่เพียงพอ หรือยังเรียนสกิลในบ้านกิลด์ยังไม่ครบ) ควรจัดทีมกับเพื่อน 2-3 คน เพื่อให้ผ่านระดับอาซูร่าได้ง่ายขึ้น
• ดารุย : เมื่อเข้าสู่การต่อสู้ดารุยจะสร้างม่านพลังที่เพิ่มพลังโจมตีให้กับตัวเองและร่างแยกเงา 40% ร่างแยกเงาของดารุยที่สร้างขึ้นมาจะมีอยู่ด้วยกัน 3 ตัว สามารถโจมตีได้เช่นเดียวกับร่างหลัก ซึ่งเหมือนกับระดับยักษ์ แต่จะมีค่า HP มากกว่าะดับยักษ์ ส่วนสกิลของดารุยนั้นจะสร้างความเสียหายเป็นกลุ่มซึ่งมากที่สุดคือ 7 ตัว ทั้งยังสร้างสถานะ "เหน็บชา" ทำให้ไม่สามารถตามการโจมตีเพื่อทำคอมโบได้
• แนะนำการเลือกใช้นินจา : แนะนำให้เลือกใช้นินจาที่สามารถขัดจังหวะการร่ายคาถาของดารุยได้เช่นเดียวกับระดับยักษ์คือ "ไก" นินจาที่มีความสามารถในการขัดจังหวะการร่ายคาถาของศัตรู อีกทั้งยังมีบัฟที่ทำให้นินจาในทีมเราได้รับ HP คืนกลับมา 15% ของดาเมจที่สร้าง ในการโจมตีดารุยนี้แนะนำให้กำจัดร่างหลักของดารุยก่อน เพื่อให้ม่านพลังหายไปและลดความเสียหายที่เราได้รับจากศัตรู
ศัตรูรอบที่ 4
• คิลเลอร์บี : เมื่อเข้าสู่การต่อสู้บีจะใช้สกิลบัฟเพิ่มการโจมตีปกติ 1 ครั้งให้ไรคาเงะซึ่งเหมือนกับระดับอื่นๆ แต่ศัตรูจะมีค่า HP มากกว่าะดับยักษ์ สกิลของบีนี้สามารถป้องกันการขัดจังหวะได้ และบียังป้องกันสถานะดีบัฟทั้งหมดอีกด้วย
• ไรคาเงะ : เมื่อเข้าสู่การต่อสู้ไรคาเงะจะใช้สกิล "สายฟ้าคุ้มกาย" มีผลให้ตัวไรคาเงะป้องกันดีบัฟทั้งหมด รวมทั้งเพิ่มการโจมตีปกติเป็น 4 ครั้งในเทิร์นแรกทันที การโจมตีปกติของไรคาเงะจะสร้างสถานะ "เครื่องหมาย" (สถานะนี้จะลดพลังป้องกันและค่าต้านทาน 30%) ทำให้โจมตีศัตรูได้รุนแรงมากขึ้น การโจมตีของไรคาเงะนี้จะสุ่มโจมตีศัตรู จึงหาวิธีรับมือได้ยาก
• สึจิคาเงะ : เมื่อเข้าสู่การต่อสู้สึจิคาเงะจะสร้างม่านพลังที่เพิ่มพลังโจมตีให้กับทีมตัวเอง 40% แนะนำให้กำจัดสึจิคาเงะก่อนเพื่อให้ม่านพลังนี้หายไป และทุกๆครั้งก่อนโจมตีจะทำการบัฟเพิ่มการโจมตีปกติ 1 ครั้งแบบสุ่มเป้าหมายในทีมตัวเอง
• แนะนำการเลือกใช้นินจา : แนะนำให้เลือกใช้นินจาที่สามารถสร้างเกราะป้องกันให้เพื่อนร่วมทีมได้เช่นเดียวกับระดับอื่นๆ เพราะไรคาเงะจะเข้าโจมตีก่อนทีมของเรา ซึ่งการโจมตีในระดับอาซูร่านี้จะรุนแรงกว่าในระดับอื่นๆมาก เพราะมีม่านพลังที่เพิ่มความเสียหายขึ้นอีก 40% แนะนำเพิ่มเติมว่าหากไม่สามารถรับพลังโจมตีของไรคาเงะไหว (อาจเป็นเพราะว่าอัพเกรดไอเทมยังไม่เพียงพอ หรือยังเรียนสกิลในบ้านกิลด์ยังไม่ครบ) ควรจัดทีมกับเพื่อน 2-3 คน เพื่อให้ผ่านระดับอาซูร่าได้ง่ายขึ้น
จากที่ทดลองใช้แต่ละธาตุเข้าสู้กับผู้แข็งแกร่งไรคาเงะมาทั้งหมดแล้ว ในตรงนี้ขอแนะนำให้ใช้เป็นทีมธาตุลมซึ่งจะผ่านง่ายมากที่สุด โดยมีนินจาแนะนำคือ "คิมิมาโร่" เป็นตัวแท้งหลักในแนวหน้า "คาบูโตะ" เป็นนินจาแพทย์ และนินจาตัวสุดท้ายแนะนำเป็น "คุเรไน" สามารถสร้างเกราะป้องกันและฮีลให้กับเพื่อนร่วมทีมที่เลือกได้ทันทีเมื่อกดใช้สกิล นอกจากนี้จุดสำคัญที่แนะนำให้ใช้ธาตุลมในการผ่านผู้แข็งแกร่งไรคาเงะนั้นก็คือ
• ธาตุลมชนะธาตุสายฟ้า : ศัตรูในดันเจี้ยนนี้เป็นธาตุสายฟ้าทั้งหมด ทำให้สกิลการโจมตีของตัวละครหลักธาตุลมที่ใช้ "กระสุนวงจักร์ยักษ์" โจมตีศัตรูเป็นกลุ่มได้รุนแรงมากขึ้น จึงผ่านได้ง่ายมากกว่าธาตุอื่นๆ
• ธาตุลมสร้างร่างแยกเงาได้ : ธาตุลมนี้มีความพิเศษกว่าธาตุอื่นๆคือสามารถสร้างร่างแยกเงาได้ทุกๆเทิร์น โดยเปลี่ยนการโจมตีปกติเป็น "คาถาแยกเงา" ร่างแยกเงานี้สามารถรับความเสียหายแทนร่างหลักได้ และทำให้ต่อสู้กับไรคาเงะได้ง่ายขึ้น
• ธาตุลมสร้างเกราะป้องกันได้ : นอกจากความสามารถในการสร้างร่างแยกเงาแล้ว ยังสร้างเกราะป้องกันให้กับนินจาหญิงในทีม (รวมทั้งสร้างเกราะให้ร่างแยกเงาด้วย) โดยใช้คาถา "ผู้พิทักษ์บุปผา" คาถานี้จะสร้างเกราะป้องกันและลบดีบัฟก่อนเข้าโจมตีทุกครั้งด้วย ทำให้สถานะเหน็บชาของศัตรูไม่มีผลกับนินจาหญิงธาตุลม
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงการแนะนำทีมที่ผ่านได้โดยง่ายเท่านั้น ผู้เล่นสามารถนำแนวทางนี้ไปปรับเปลี่ยนเป็นให้เข้ากับธาตุของตัวเอง หรือเปลี่ยนเป็นธาตุลมเพื่อให้ผ่านได้ง่ายขึ้น ซึ่งทุกๆคนสามารถเปลี่ยนธาตุได้ฟรีวันละ 1 ครั้งตั้งแต่เลเวล 60 ขึ้นไป และอย่าลืมว่าในโหมดนี้สามารถจัดทีมกับเพื่อน 2-3 คนเพื่อให้ผ่านได้ง่ายมากขึ้นด้วย ก่อนจะจากกันไปเราขอแนะนำกลุ่มผู้เล่นนารูโตะออนไลน์เซิร์ฟเวอร์ไทย ซึ่งหากมีข้อสงสัยอื่นๆ หรืออยากพูดคุยสอบถามหาเพื่อนเล่นด้วยกัน สามารถเข้ามาโพสคอมเม้นได้ในกลุ่มนี้เลย
