มาดูกันต่อสำหรับแนวทางการจัดทีมของเกม Naruto Online ในครั้งนี้เรามาแนะนำเป็นธาตุไฟ หรือผู้ใช้คาถาลวงตาและคาถาไฟในการโจมตีศัตรู แนวทางการจัดทีมในครั้งนี้เราได้รวบรวมนินจาที่หาได้ง่ายและเป็นที่นิยมกันในการจัดทีมเบื้องต้น ซึ่งถึงแม้จะเป็นนินจาที่หาได้ง่ายแต่ก็โหดได้ไม่แพ้ตัวแรร์เลยทีเดียว!
ตัวละครทุกๆตัวย่อมมีจุดเด่น, จุดด้อยแตกต่างกัน ทำให้ผู้เล่นเลือกใช้งานตัวละครนั้นๆได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น สำหรับรายละเอียดของตัวละครธาตุสายไฟมีดังนี้
จุดเด่น
• สามารถสร้างคอมโบได้สูงเมื่อโจมตีปกติ และสามารถในการตามโจมตีได้เมื่อคอมโบครบ 10 ครั้งด้วย
• โจมตีด้วยคาถาไฟเป็นหลัก คาถาไฟนี้จะทำให้ศัตรูติดสถานะไฟ ได้รับความเสียหายจากไฟและไม่ได้รับผลของการรักษา 1 เทิร์น
• เป็นนินจาตัวเดียวที่มีคาถาลวงตามากมายให้เลือกใช้เช่น คาถาหลับ, คาถาสะท้อนดีบัฟ, คาถาคุกสวรรค์ (หากศัตรูติดสถานะนี้ จะทำให้ได้รับความเสียหายเมื่อกดใช้งานสกิล)
จุดด้อย
• ไม่มีวิชาป้องกันตัว การโจมตีศัตรูนี้จึงต้องเน้นคาถาลวงตาเพื่อเอาตัวรอดในสนามรบ
• แพ้ทางนินจาที่ไม่ติดสถานะดีบัฟต่างๆเช่น ทีมนินจาผู้ใช้วิชาดาบของธาตุสายฟ้า หรือนินจาที่มีความสามารถในการลบสถานะดีบัฟสูง
• พลังโจมตีต่ำ ในการโจมตีของนินจาธาตุไฟนี้จะเป็นคาถาไฟ หรือคาถาลวงตาเท่านั้น ซึ่งทั้ง 2 คาถานี้จะต้องใช้เวลาค่อนข้างสูงกว่าศัตรูจะตาย
สกิลคาถาที่สำคัญของธาตุไฟในตอนต้นเกม
คาถาไฟมังกรเพลิงยักษ์ : วิชานี้จะได้มาเมื่อเลเวล 25 ขึ้นไป เป็นวิชาที่สามารถโจมตีศัตรูได้ถึง 7 ตัวและสร้างสถานะลอยตัวสูง สามารถใช้ได้ดีในโหมด PVE ในช่วงแรก เพราะโดยมากแล้วเราจะเจอศัตรูในดันเจี้ยนเนื้อเรื่องมากกว่า 4 ตัวขึ้นไป
คาถาเพลิงลูกบอลไฟยักษ์ : วิชาการตามโจมตีที่สร้างสถานะติดไฟแก่ศัตรูได้ สถานะนี้ทำให้ศัตรูได้รับความเสียหายจากไฟและไม่ได้รับผลของการรักษา 1 เทิร์น
วิชาลวงตากระจกเงา : วิชาป้องกันตัวที่สามารถสะท้อนดีบัฟกลับไปหาศัตรูแบบสุ่มได้ 1 ครั้ง ซึ่งจะทำงานกับทุกๆคนในทีมของตัวเอง ไม่ใช่เพียงผู้ใช้งานอย่างเดียว
ในช่วงประมานเลเวล 1-45 นี้ตัวละครหลักจะยังไม่มีคาถาที่ทำให้ศัตรูอยู่ในสถานะหลับและสถานะขยับไม่ได้ จึงมีเพียงวิชาลวงตากระจกเงานี้เองในการเอาตัวรอดในสนามรบ การจัดทีมในช่วงแรกแนะนำให้นำตัวละครหลักไว้แนวกลาง หรือหาร่างแยกเงาของนารูโตะมาแท้งในด้านหน้า
ทีมเริ่มต้นในช่วงที่ยังมีตัวละครไม่มากนักซึ่งในตอนเลเวล 11 นั้นจะมีนินจาฟรีให้เปิดใช้ได้อยู่ 1 ตัว แต่แนะนำให้ใช้ทีม 7 ที่มีนารูโตะ, ซาสึเกะ และซากุระนี้ไปก่อน เพราะคอมโบของทีมนี้จะเข้ากันได้ดีในช่วงแรก การจัดทีมสำหรับธาตุไฟในช่วงแรกนี้เราจะเน้นการโจมตีให้ศัตรูได้รับสถานะ ติดไฟ ด้วยการตามโจมตีของวิชา "คาถาเพลิงลูกบอลไฟยักษ์"
เงื่อนไขที่ 1
- ตัวละครหลัก : → เปิดคอมโบด้วยคาถาไฟมังกรเพลิงยักษ์ และตามโจมตีโดยใช้คาถาเพลิงลูกบอลไฟยักษ์ ศัตรูอยู่ในสถานะติดไฟ พร้อมกับส่งคอมโบเป็นลอยต่ำให้เพื่อนร่วมทีมสร้างความเสียหายเพิ่มเติม
สถานะดีบัฟที่สร้างได้ : ติดไฟ
เงื่อนไขที่ 2
- นารูโตะ : เปิดคอมโบด้วยกระสุนวงจักร ↓
- ซากุระ : → ตามการโจมตีด้วยวิชาซากุระจู่โจม ↓
- ตัวละครหลัก → ตามโจมตีโดยใช้คาถาเพลิงลูกบอลไฟยักษ์ ศัตรูอยู่ในสถานะติดไฟ พร้อมกับส่งคอมโบเป็นลอยต่ำให้ซาสึเกะสร้างความเสียหายเพิ่มเติม
สถานะดีบัฟที่สร้างได้ : ติดไฟ
การจัดทีมสำหรับผู้เล่นเลเวล 1-45 ขึ้นไปโดยใช้คันกุโร่และฮินาตะ ซึ่งทั้ง 2 ตัวนี้จะได้รับจากดันเจี้ยนเนื้อเรื่อง, ดันเจี้ยน Elite แนะนำให้อัพเกรดดาวไปอีกขั้นนึงก่อนเพื่อให้ได้สกิลติดตัวในการตามโจมตี
ทีมนี้สำหรับผู้เล่นที่ได้รับคันกุโร่และฮินาตะจากดันเจี้ยนเนื้อเรื่อง, ดันเจี้ยน Elite มาแล้ว ในการนำมาใช้งานนี้เราสามารถนำคันกุโร่ไว้ในแนวหลังสุดได้ซึ่งหากวางตำแหน่งดังรูปนี้ จะทำให้หุ่นเชิดของคันกุโร่ที่อัญเชิญออกมานั้นสามารถเป็นแท้งแนวหน้าของตัวละครหลักได้เลย 
เงื่อนไขที่ 1
- ตัวละครหลัก : → เปิดคอมโบด้วยคาถาไฟมังกรเพลิงยักษ์ และตามโจมตีโดยใช้คาถาเพลิงลูกบอลไฟยักษ์ ศัตรูอยู่ในสถานะติดไฟ พร้อมกับส่งคอมโบเป็นลอยต่ำให้ซาสึเกะ ↓
- ซาสึเกะ : → ตามการโจมตีด้วยวิชาฟ้าถล่มและส่งคอมโบเป็นสถานะกระเด็น ↓
- ฮินาตะ : → ตามโจมตีด้วยฝ่ามือสกัดจุด ทำให้ศัตรูใช้คาถาไม่ได้ พร้อมกับตามโจมตีสร้างความเสียหายเพิ่มเติม และส่งคอมโบต่อเพื่อนร่วมทีม
สถานะดีบัฟที่สร้างได้ : ติดไฟ, สกัดจุด
เงื่อนไขที่ 2
- คันกุโร่ : → เปิดคอมโบด้วยวิชาลับดำสามมหาโศกนาฏกรรม สร้างสถานะลอยตัวสูง ↓
- ตัวละครหลัก : → ตามโจมตีโดยใช้คาถาเพลิงลูกบอลไฟยักษ์ ศัตรูอยู่ในสถานะติดไฟ พร้อมกับส่งคอมโบเป็นลอยต่ำให้ซาสึเกะ ↓
- ซาสึเกะ : → ตามการโจมตีด้วยวิชาฟ้าถล่มและส่งคอมโบเป็นสถานะกระเด็น ↓
- ฮินาตะ : → ตามโจมตีด้วยฝ่ามือสกัดจุด ทำให้ศัตรูใช้คาถาไม่ได้ พร้อมกับตามโจมตีสร้างความเสียหายเพิ่มเติม และส่งคอมโบต่อเพื่อนร่วมทีม
สถานะดีบัฟที่สร้างได้ : ติดไฟ, สกัดจุด
เงื่อนไขที่ 3
- ซาสึเกะ : เปิดคอมโบโดยใช้ด้วยพันปักษาร่ำไห้ ↓
- ฮินาตะ : → ตามโจมตีด้วยมวยก้าวสิงห์คู่สร้างความเสียหายเพิ่มเติม ↓
- คันกุโร่ : → ตามการโจมตีวิชาเชิดหุ่น ↓
- ซาสึเกะ : → ตามการโจมตีด้วยวิชาฟ้าถล่มและส่งคอมโบเป็นสถานะกระเด็น ↓
- ฮินาตะ : → ตามโจมตีด้วยฝ่ามือสกัดจุด ทำให้ศัตรูใช้คาถาไม่ได้
สถานะดีบัฟที่สร้างได้ : สกัดจุด
ในช่วงเลเวล 45-50 นี้แนะนำให้หาคารินมาใช้งานในทีม ซึ่งสามารถหาสุ่มได้รับจากการเปิดหีบผนึกและร้านค้าต่อสู้ชิงอันดับ พร้อมกับอัพเกรดซาสึเกะเป็น 3 ดาวก่อนนำมาใช้งานเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
คารินนินจาหญฺิงที่มีความสามารถในการสร้างสถานะพิษสูง อีกทั้งยังมีการตามโจมตีเมื่อทำคอมโบครบ 10 ครั้งเช่นเดียวกับซาสึเกะ และตัวละครหลักของเราอีกด้วย [การจัดทีมนี้จะเน้นไปที่การคอมโบแบบครบ 10 ครั้ง และตามการโจมตี]
สกิลคาถาที่สำคัญของเน้นคอมโบ 10 ครั้ง
คาถาไฟ-คาถาเพลิง : การโจมตีนี้จะโจมตีศัตรูไม่สามารถหลบหลีกได้ และมีโอกาสติดคอมโบ 10 ครั้งในการโจมตีครั้งเดียว
คาถาลูกไฟนกฟีนิกซ์ : คาถานี้จะทำงานเมื่อคอมโบที่สร้างแก่ศัตรูครบจำนวน 10 ครั้งซึ่งจะสร้างสถานะติดไฟแก่ศัตรู 2 ตัวแบบสุ่ม
เงื่อนไขที่ 1
- ซาสึเกะ : เปลี่ยนฟิลด์และใช้การเปิดคอมโบด้วยคาถากิเลนในเทิร์นที่ 2 ↓
- ฮินาตะ : → ตามโจมตีด้วยมวยก้าวสิงห์คู่สร้างความเสียหายเพิ่มเติม ↓
- คาริน : → ตามโจมตีด้วยวิชากระโดดเตะสร้างความเสียหายเพิ่มเติม ↓
- ซาสึเกะ : → ตามการโจมตีด้วยพันปักษาหอกคม ทำให้ศัตรูติดสถานะเหน็บชา และตามการโจมตีอีกครั้งเพื่อสร้างความเสียหายเพิ่มเติม ↓
- ฮินาตะ : → ตามโจมตีด้วยฝ่ามือสกัดจุด ทำให้ศัตรูใช้คาถาไม่ได้ ↓
- ซาสึเกะ : → ตามโจมตีเมื่อคอมโบครบ 10 ครั้งด้วยคาถาไฟมังกรเพลิง ทำให้ศัตรูได้รับสถานะ ติดไฟ 2 ตัวแบบสุ่ม ↓
- ตัวละครหลัก : → ตามโจมตีเมื่อคอมโบครบ 10 ครั้งโดยใช้คาถาลูกไฟนกฟีนิกซ์ทำให้ศัตรูได้รับสถานะ ติดไฟ 2 ตัวแบบสุ่มเช่นกัน ทำให้มีโอกาสที่ศัตรูติดได้รับสถานะติดไฟทั้งทีมมากขึ้น ↓
- คาริน : → ตามโจมตีด้วยคาถาพ่นน้ำหอมทำให้ศัตรูติดสถานะ พิษ
สถานะดีบัฟที่สร้างได้ : เหน็บชา, สกัดจุด, ติดไฟ, พิษ
เงื่อนไขที่ 2
- ตัวละครหลัก : เปิดคอมโบด้วยคาถาไฟมังกรเพลิงยักษ์ และส่งคอมโบเป็นลอยสูงให้ซาสึเกะ ↓
- ซาสึเกะ : → ตามการโจมตีด้วยพันปักษาหอกคม ทำให้ศัตรูติดสถานะเหน็บชา และตามการโจมตีอีกครั้งเพื่อสร้างความเสียหายเพิ่มเติม ↓
- ฮินาตะ : → ตามโจมตีด้วยฝ่ามือสกัดจุด ทำให้ศัตรูใช้คาถาไม่ได้ และตามการโจมตีอีกครั้งเพื่อสร้างความเสียหายเพิ่มเติม ↓
- คาริน : → ตามโจมตีด้วยวิชากระโดดเตะสร้างความเสียหายเพิ่มเติม ↓
- ซาสึเกะ : → ตามโจมตีเมื่อคอมโบครบ 10 ครั้งด้วยคาถาไฟมังกรเพลิง ทำให้ศัตรูได้รับสถานะ ติดไฟ 2 ตัวแบบสุ่ม ↓
- ตัวละครหลัก : → ตามโจมตีเมื่อคอมโบครบ 10 ครั้งโดยใช้คาถาลูกไฟนกฟีนิกซ์ทำให้ศัตรูได้รับสถานะ ติดไฟ 2 ตัวแบบสุ่มเช่นกัน ทำให้มีโอกาสที่ศัตรูติดได้รับสถานะติดไฟทั้งทีมมากขึ้น ↓
- คาริน : → ตามโจมตีด้วยคาถาพ่นน้ำหอมทำให้ศัตรูติดสถานะ พิษ
สถานะดีบัฟที่สร้างได้ : เหน็บชา, สกัดจุด, ติดไฟ, พิษ
ในช่วงเลเวล 50 ขึ้นไปนี้สามารถใช้งานสัตว์อันเชิญได้ และในการจัดทีมดังตัวอย่างนี้เราจะใช้งานเป็น กระทิง ที่จะตามการโจมตีจากล้มเป็นสถานะกระเด็น เพื่อต่อคอมโบให้เพื่อนร่วมทีมได้นั่นเอง สามารถไปจับสัตว์อันเชิญได้ที่ทันซาคุไกเลย หรืออ่านรายละเอียกการจับสัตว์อัญเชิญตัวอื่นๆได้ที่นี่ คลิก!
เมื่อเลเวล 50 ขึ้นไปนี้เราสามารถสร้างทีมที่เน้นคาถาลวงตาได้อย่างเต็มตัวได้แล้ว ด้วยการโจมตีปกติเป็นสถานะหลับทำให้ศัตรูที่ติดสถานะนี้ไม่สามารถโจมตีใดๆได้เลย 1 เทิร์น แต่สถานะนี้จะถูกยกเลิกเมื่อถูกโจมตีอีกครั้ง ซึ่งเราสามารถใช้อิโนะตามโจมตีสถานะหลับนี้ให้เป็นสถานะสับสนแทน [การจัดทีมนี้จะเน้นไปที่สถานะหลับ, ขยับไม่ได้ และสถานะสับสน ทำให้คอมโบที่สร้างแก่ศัตรูนี้ไม่สูงเหมือนทีมอื่นๆ]
สกิลคาถาที่สำคัญของทีมที่เน้นสถานะหลับ, ขยับไม่ได้
คาถาสะกดผนึกบัวแดง : คาถานี้ปลดล็อคให้เมื่อถึงเลเวล 45 สามารถเลือกศัตรูที่ต้องการผนึกให้ติดสถานะขยับไม่ได้ และติดสถานะคุกสวรรค์ [หากศัตรูติดสถานะนี้ จะทำให้ได้รับความเสียหายเมื่อกดใช้งานสกิล]
คาถาอาศรมนิพพาน : คาถานี้ปลดล็อคให้เมื่อถึงเลเวล 50 ซึ่งเป็นการโจมตีปกติและทำให้ศัตรูติดสถานะหลับ ไม่สามารถโจมตีหรือร่ายคาถาได้ 1 เทิร์น แต่หากโจมตีศัตรูที่ติดสถานะนี้อีกครั้งจะเป็นการยกเลิกดีบัฟของสถานะนี้
วิชาลับบัวแดง : เพิ่มพลังโจมตีของคาถานินจาและอัตราการคอมโบ 40% เป็นระยะเวลา 3 เทิร์น เราสามารถตรวจสอบนินจาที่ใช้คาถาลับได้โดยดูที่หน้า นินจา > ฝึกฝน และเลือกสถานะนินจาที่ใช้คาถาลับ
เงื่อนไขที่ 1
- ตัวละครหลัก : ใช้คาถาสะกดผนึกบัวแดงกับศัตรูที่เลือกทำให้ติดสถานะ ขยับไม่ได้ และสถานะ คุกสวรรค์ [หากศัตรูติดสถานะนี้ จะทำให้ได้รับความเสียหายเมื่อกดใช้งานสกิล] ↓
- อิโนะ : → ตามโจมตีด้วยคาถาจิตย้ายร่างทำให้ศัตรูติดสถานะ สับสน
สถานะดีบัฟที่สร้างได้ : ขยับไม่ได้, คุกสวรรค์, สับสน
เงื่อนไขที่ 2
- ชิกามารุ : ใช้คาถาเงารัดคอทำให้ศัตรูติดสถานะ ขยับไม่ได้ ↓
- อิโนะ : → ตามโจมตีด้วยคาถาจิตย้ายร่างทำให้ศัตรูติดสถานะ สับสน
สถานะดีบัฟที่สร้างได้ : ขยับไม่ได้, สับสน
เงื่อนไขที่ 3 เกิดจากการโจมตีปกติ คอมโบนี้ขึ้นอยู่กับค่าสเตตัทคอมโบของนินจาตัวนั้นๆ
- ตัวละครหลัก : → อัญเชิญกระทิงตามการโจมตีจากล้มเป็นสถานะกระเด็น ↓
- ฮินาตะ : → ตามโจมตีด้วยฝ่ามือสกัดจุด ทำให้ศัตรูใช้คาถาไม่ได้ และทำให้ศัตรูติดสถานะล้ม ↓
- ชิกามารุ : → ตามโจมตีด้วยคาถาเงาเลียนแบบทำให้ศัตรูติดสถานะ ขยับไม่ได้ ↓
- อิโนะ : → ตามโจมตีด้วยคาถาจิตย้ายร่างทำให้ศัตรูติดสถานะ สับสน
สถานะดีบัฟที่สร้างได้ : สกัดจุด, ขยับไม่ได้, สับสน
เงื่อนไขที่ 4 เกิดจากการโจมตีปกติ คอมโบนี้ขึ้นอยู่กับค่าสเตตัทคอมโบของนินจาตัวนั้นๆ
- ฮินาตะ : → ตามโจมตีด้วยมวยก้าวสิงห์คู่สร้างความเสียหายเพิ่มเติม ↓
- ตัวละครหลัก : → อัญเชิญกระทิงตามการโจมตีจากล้มเป็นสถานะกระเด็น ↓
- ฮินาตะ : → ตามโจมตีด้วยฝ่ามือสกัดจุด ทำให้ศัตรูใช้คาถาไม่ได้ และทำให้ศัตรูติดสถานะล้ม ↓
- ชิกามารุ : → ตามโจมตีด้วยคาถาเงาเลียนแบบทำให้ศัตรูติดสถานะ ขยับไม่ได้ ↓
- อิโนะ : → ตามโจมตีด้วยคาถาจิตย้ายร่างทำให้ศัตรูติดสถานะ สับสน ↓
- ตัวละครหลัก : → ตามโจมตีเมื่อคอมโบครบ 10 ครั้งโดยใช้คาถาลูกไฟนกฟีนิกซ์ทำให้ศัตรูได้รับสถานะ ติดไฟ 2 ตัวแบบสุ่มเช่นกัน ทำให้มีโอกาสที่ศัตรูติดได้รับสถานะติดไฟทั้งทีมมากขึ้น ↓
สถานะดีบัฟที่สร้างได้ : สกัดจุด, ขยับไม่ได้, สับสน
การจัดทีมโดยใช้จิไรยะและซึนาเดะ ซึ่งทั้ง 2 ตัวนี้จะได้รับจากดันเจี้ยนเนื้อเรื่อง, ดันเจี้ยน Elite รวมถึงเปิดสุ่มในหีบผนึก หรือจากกิจกรรมต่างๆภายในเกมซึ่งจะมีผลัดเปลี่ยนไปทุกๆสัปดาห์
ทีมของจิไรยะนี้มีข้อดีที่สามารถสร้างสถานะติดไฟแก่ศัตรูได้ทั้งทีมของศัตรู ส่วนซึนาเดะนี้เป็นนินจาแพทย์ที่นำมายืนแนวกลางได้เพราะฟื้นเลือดตัวเองได้ดีมากเมื่อใช้งานสกิล และมีการตามโจมตีที่คอมโบเข้ากันกับจิไรยะ อีกทั้งยังสร้างสถานะสับสนได้เมื่อโจมตีติดคริติคอล
เงื่อนไขที่ 1
- ตัวละครหลัก : เปิดคอมโบด้วยคาถาไฟมังกรเพลิงยักษ์ และใช้สัตว์อัญเชิญตามโจมตีเป็นกระเด็น ↓
- ฮินาตะ : → ตามโจมตีด้วยฝ่ามือสกัดจุด ทำให้ศัตรูใช้คาถาไม่ได้ และตามโจมตีอีกครั้งเพื่อสร้างความเสียหายเพิ่มเติม ↓
- จิไรยะ : → ตามโจมตีด้วยกระสุนวงจักรมหายักษ์ทำให้ศัตรูติดสถานะลอยต่ำ ↓
- ซึนาเดะ : → ตามโจมตีด้วยหมัดสวรรค์ (หากการตามโจมตีนี้ติดคริติคอลจะทำให้ศัตรูติดสถานะสับสน) ↓
- ตัวละครหลัก : → ตามโจมตีเมื่อคอมโบครบ 10 ครั้งโดยใช้คาถาลูกไฟนกฟีนิกซ์ทำให้ศัตรูได้รับสถานะ ติดไฟ 2 ตัวแบบสุ่มเช่นกัน ทำให้มีโอกาสที่ศัตรูติดได้รับสถานะติดไฟทั้งทีมมากขึ้น ↓
สถานะดีบัฟที่สร้างได้ : สกัดจุด, ติดไฟ, สับสน (หากซึนาเดะโจมตีติดคริติคอล)
เงื่อนไขที่ 2
- จิไรยะ : เปิดคอมโบด้วยกระสุนเพลิงน้ำมันกบทำให้ศัตรูได้รับสถานะ ติดไฟ ทั้งทีมและศัตรูที่เลือกจะติดสถานะล้ม ↓
- ฮินาตะ : → ตามโจมตีด้วยสร้างความเสียหายเพิ่มเติมด้วยมวยก้าวสิงห์คู่ ↓
- จิไรยะ : → ตามโจมตีด้วยกระสุนวงจักรมหายักษ์ทำให้ศัตรูติดสถานะลอยต่ำ ↓
- ซึนาเดะ : → ตามโจมตีด้วยหมัดสวรรค์ (หากการตามโจมตีนี้ติดคริติคอลจะทำให้ศัตรูติดสถานะสับสน) ↓
- ตัวละครหลัก : → ตามโจมตีโดยใช้สัตว์อัญเชิญตามโจมตีเป็นกระเด็น ↓
- ฮินาตะ : → ตามโจมตีด้วยฝ่ามือสกัดจุด ทำให้ศัตรูใช้คาถาไม่ได้ และตามโจมตีอีกครั้งเพื่อสร้างความเสียหายเพิ่มเติม ↓
- ตัวละครหลัก : → ตามโจมตีเมื่อคอมโบครบ 10 ครั้งโดยใช้คาถาลูกไฟนกฟีนิกซ์ทำให้ศัตรูได้รับสถานะ ติดไฟ 2 ตัวแบบสุ่มเช่นกัน ทำให้มีโอกาสที่ศัตรูติดได้รับสถานะติดไฟทั้งทีมมากขึ้น ↓
สถานะดีบัฟที่สร้างได้ : สกัดจุด, ติดไฟ, สับสน (หากซึนาเดะโจมตีติดคริติคอล)
การจัดทีมโดยใช้คาคุซึ (ได้รับจากการเปิดหีบผนึกและร้านค้ากิลด์) คันกุโร่[สงครามนินจา] ได้รับจากการเปิดหีบวิถีสวรรค์ ซึ่งทั้ง 2 ตัวนี้เป็นตัวดาเมจสำคัญในทีม
ทีมนี้จะเน้นการโจมตีด้วยคาถานินจา ซึ่งนินจาหลักๆที่เป็นดาเมจสำคัญก็คือ คาคุซึ และ คันกุโร่[สงครามนินจา] โดยการจัดทีมนี้เราจะไม่เน้นการป้องกันเลยทำให้ไม่มีนินจาแพทย์ แต่จะเน้นการโจมตีด้วยคาถานินจาให้ได้แรงที่สุดด้วย "คาถาหลอนจิต" คาถานี้จะลดค่าพลังต้านทานของศัตรูได้ทั้งทีม
สกิลคาถาที่สำคัญของเน้นโจมตีด้วยคาถานินจา
คาถาหลอนจิต : วิชานี้จะลดค่าต้านทานของศัตรูทั้งทีมก่อนเข้าโจมตี ทำให้การโจมตีด้วยคาถานินจานี้จะรุนแรงขึ้น เหมาะสำหรับทีมที่เน้นการโจมตีด้วยคาถานินจา
เงื่อนไขที่ 1
- ตัวละครหลัก : เปิดคอมโบด้วยคาถาไฟมังกรเพลิงยักษ์เป็นสถานะลอยตัวสูง ↓
- คาคุซึ : → ตามโจมตีด้วยคาถาสายฟ้าความมืดเทียม สร้างสถานะลอยต่ำ ↓
- ตัวละครหลัก : → ตามโจมตีด้วยคาถาไฟคุกสวรรค์ทำให้ศัตรูติดสถานะ คุกสวรรค์ [หากศัตรูติดสถานะนี้ จะทำให้ได้รับความเสียหายเมื่อกดใช้งานสกิล] ↓
- ฮินาตะ : → ตามโจมตีด้วยฝ่ามือสกัดจุด ทำให้ศัตรูใช้คาถาไม่ได้ และตามโจมตีอีกครั้งเพื่อสร้างความเสียหายเพิ่มเติม พร้อมกับส่งคอมโบต่อให้เพื่อนร่วมทีมสร้างความเสียหายเพิ่มเติม
สถานะดีบัฟที่สร้างได้ : คุกสวรรค์, สกัดจุด
เงื่อนไขที่ 2
- คันกุโร่ : → เปิดคอมโบด้วยวิชาลับดำสามมหาโศกนาฏกรรม สร้างสถานะลอยตัวสูง ↓
- คาคุซึ : → ตามโจมตีด้วยคาถาสายฟ้าความมืดเทียม สร้างสถานะลอยต่ำ ↓
- ตัวละครหลัก : → ตามโจมตีด้วยคาถาไฟคุกสวรรค์ทำให้ศัตรูติดสถานะ คุกสวรรค์ [หากศัตรูติดสถานะนี้ จะทำให้ได้รับความเสียหายเมื่อกดใช้งานสกิล] ↓
- ฮินาตะ : → ตามโจมตีด้วยฝ่ามือสกัดจุด ทำให้ศัตรูใช้คาถาไม่ได้ และตามโจมตีอีกครั้งเพื่อสร้างความเสียหายเพิ่มเติม พร้อมกับส่งคอมโบต่อให้เพื่อนร่วมทีมสร้างความเสียหายเพิ่มเติม
สถานะดีบัฟที่สร้างได้ : คุกสวรรค์, สกัดจุด
เงื่อนไขที่ 3
- คาคุซึ : เปิดคอมโบด้วยวิชาปีศาจคาคุสึสร้างสถานะกระเด็น ↓
- ฮินาตะ : → ตามโจมตีด้วยฝ่ามือสกัดจุด ทำให้ศัตรูใช้คาถาไม่ได้ และตามโจมตีอีกครั้งเพื่อสร้างความเสียหายเพิ่มเติม พร้อมกับส่งคอมโบต่อให้เพื่อนร่วมทีม ↓
- คันกุโร่ : → ตามการโจมตีวิชาเชิดหุ่น ↓
- ตัวละครหลัก : → ตามโจมตีด้วยคาถาไฟคุกสวรรค์ทำให้ศัตรูติดสถานะ คุกสวรรค์ [หากศัตรูติดสถานะนี้ จะทำให้ได้รับความเสียหายเมื่อกดใช้งานสกิล] และส่งคอมโบต่อให้เพื่อนร่วมทีมสร้างความเสียหายเพิ่มเติม
สถานะดีบัฟที่สร้างได้ : คุกสวรรค์, สกัดจุด
กิจกรรมเก้าหางบุกนี้จะมีขึ้นในทุกๆวันจันทร์, อังคาร, ศุกร์ และวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 20.10 น. - 21.00 น. ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สามารถเข้าร่วมได้ตั้งแต่เลเวล 22 ขึ้นไป ในการเข้าไปโจมตีเก้าหางนี้เราจะได้รับเป็นค่าประสบการณ์, เงินรางวัล, คูปอง, และมากาทามะ ซึ่งจะได้รับมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับความเสียหายที่เราสร้างนั้นเอง สำหรับทีมลงเก้าหางนี้จะเน้นไปที่เพิ่มบัฟการโจมตีโดยมี รายละเอียกของบัฟทั้งหมดมีดังนี้สกิลคาถาที่สำคัญของทีมลงกิจกรรมเก้าหางบุก
คาถาแยกร่างหมอก : คาถานี้จะสร้างร่างแยกหมอกออกเมื่อเข้าสู่สนามรบ ร่างแยกหมอกนี้สามารถใช้คาถาไฟคุกสวรรค์โจมตีได้ เราจะใช้มาลงในกิจกรรมเก้าหางบุกนี้และเก็บร่างแยกไว้ในแนวกลางหรือหลังเพื่อใช้สร้างความเสียหายเพิ่มเติม
เสริมพลังคาถาไฟ : เพิ่มพลังโจมตีให้กับนินจาธาตุไฟ 40% จำนวน 3 ตัวเป็นระยะเวลา 5 เทิร์น ซึ่งภายในทีมที่เราจัดไว้นั้นก็คือ ตัวหลักธาตุไฟ อังโกะ และอิรุกะ ทั้ง 3 ตัวนี้จะได้บัฟเพิ่มพลังโจมตี
อังโกะ
• ม่านพลังคาถาไฟ : ใช้ม่านพลังเพิ่มบัฟการโจมตีให้กับนินจาธาตุสายไฟ 40% (ใช้เพื่อกางม่านพลัง 2 เทิร์นให้ได้รับบัฟการโจมตีก่อน แล้วจึงกดใช้คาถากิเลนเพื่อโจมตีอีกครั้งในเทิร์นที่ 3 ก่อนที่ม่านพลังจะหายไป)
• อักขระสาป : เมื่ออังโกะถูกโจมตีจะทำให้เพิ่มพลังของคาถานินจาได้ จึงควรนำอังโกะไปไว้ในแนวหน้า
อิรุกะ
• คำสั่งสอน : เพิ่มพลังโจมตีให้กับนินจาโคโนฮะฝ่ายตัวเอง 30% และสร้างโล่ป้องกันความเสียหาย 50% ของพลังต้านทาน 3 เทิร์น ทำให้อังโกะที่ยืนด้านหน้าได้รับความเสียหายน้อยลง
• ดาวกระจายสองชั้น : เมื่อโจมตีครบ 10 คอมโบจะสร้างความเสียหายเพิ่มเติมเป้นคริติคอลแก่เก้าหาง
ไก
• นี่แหละวัยรุ่น : เพิ่มพลังโจมตีให้กับทีม 30% เป็นจำนวน 3 เทิร์น
• คำสอนเดือดพล่าน : เมื่อนินจาฝ่ายตัวเองโจมตีด้วยกระบวนท่าจะได้รับผลการรักษา 15% ของความเสียหายที่สร้าง ทำให้ไม่ต้องเป็นกังวลว่าอังโกะที่ยืนแนวหน้าจะตาย
