Remnant: From the Ashes เกมเดินหน้ายิงแนว Co-Op ม้ามืดนอกกระแสที่ไม่เล่นไม่ได้แล้ว!!!

Playulti 23 Aug 2019, 11:31:38
ข่าวเกม PC


Remnant: From the Ashes จัดว่าเป็นหนึ่งในเกมม้ามืดสุดเร้าใจที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในเวลานี้ ซึ่งถือเป็นผลงานของทีมผู้พัฒนา Gunfire Games ที่เดิมทีแล้วถูกคาดการณ์จากเกมเมอร์ทั่วโลกเอาไว้ล่วงหน้าว่าตัวเกมคงสนุกในระดับมาตรฐาน และพอทำยอดขายในระดับหนึ่ง อันเนื่องมาจากผลงานก่อนหน้าอย่าง Darksiders III ได้รับเสียงตอบรับและคำวิจารณ์ไปในทางบวกและทางลบสลับกันไป จนทำให้ใครหลายคนรู้สึกหวาดหวั่นและกังวลว่าซื้อมาเล่นจะคุ้มไหม?

จนกระทั่งได้มอบสิทธิ์เล่นล่วงหน้าสำหรับผู้ที่สั่งซื้อตัวเกมบนแพตลฟอร์ม Steam ก่อนวางจำหน่ายเพียง 1 - 2 วัน แล้วทีนี้ก็เกิดเป็นกระแสปากต่อปาก + อัพโหลดคลิปวิดีโอแล้วแชร์ลงในโซเชียลมีเดีย พร้อมกับคำคำวิจารณ์ไปในทางบวกอย่างล้นหลาม ซึ่งส่วนใหญ่นั้นบอกว่า "สนุกเกินความคาดหมาย" ส่งผลให้ทีมผู้พัฒนาเริ่มคิดแผนสร้างภาคต่อไปในทันที (ฮา) ทามาโมะจังและทีมงาน PlayUlti จึงเกิดความสงสัยว่าอะไรทำให้ Remnant: From the Ashes โดนใจเกมเมอร์ทั่วโลกถึงขนาดนี้ มาติดตามอ่านกันได้เลยจ้า!

พล็อตเหมือนหนังเกรดบี แต่เล่าออกมาได้น่าสนใจมากๆ




เนื้อเรื่องภายในเกม Remnant: From the Ashes กล่าวถึงโลกที่เต็มไปด้วยเศษซากปรักหักพัง อันเกิดมาจากน้ำมือของสัตว์ประหลาดจากต่างมิติปริศนาที่เข้ามารุกราน และออกไล่ล่ามนุษย์เป็นอาหารจนเกือบต้องสูญพันธุ์ โดยเราจะได้รับบทเป็นนักรบนิรนามที่ออกเดินทางไปยังประภาคารแห่งหนึ่ง ทว่าจู่ๆ ก็ถูกเหล่าสัตว์ประหลาดจู่โจมจนเกือบเอาตัวไม่รอด โชคดีที่เราได้รับความช่วยเหลือจาก Ward 13 กลุ่มสุดท้ายที่เหลืออยู่ของมนุษย์ โดยมอบเงื่อนไขแลกเปลี่ยนในการเข้าถึงประภาคารด้วยการทำภารกิจของพวกเขาให้สำเร็จ พอมารู้สึกตัวอีกทีเราก็กลายมาเป็นผู็กอบกู้โลกและมวลมนุษยชาติให้กลับมาเป็นดั้งเดิมไปเสียแล้ว



เพื่อนๆ ทุกคนอาจจะงงว่าทำไมทามาโมะจังถึงเล่าเรื่องคร่าวๆ ได้ไม่เคลียร์เลย ซึ่งนี้คือสิ่งที่เราจะได้รับจากการเล่นเกมนี้ เราจะไม่เข้าใจเลยว่าทำไมจุดมุ่งหมายของเราที่ต้องไปยังประภาคารคืออะไร ทำไมสัตว์ประหลาดจากต่างมิติถึงเข้ามาในโลกแห่งนี้ได้ Crystal (หินผลึกแดง) มีที่มาอย่างไร อะไรคือต้นเหตุของความวุ่นวายในครั้งนี้ เป็นต้น 

การที่เพื่อนๆ ทุกคนจะรับรู้เรื่องราวของตัวเกมได้นั้นจะต้องออกสำรวจและเรียนรู้จากทุกสิ่งที่เราหาได้ อาทิ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านข้อความตามกระดาษหรือสมุดโน้ตที่เขียนทิ้งเอาไว้, การสนทนากับผู้คนใน Ward 13 รวมไปถึงเหตุการณ์ที่ผ่านไปถึงจุดหนึ่ง พอมาพุดคุยกับผู้คนใน Ward 13 อีกครั้งเนื้อหาการสนทนาจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง สิ่งเหล่านี้ถือว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกมซีรีส์ Dark Souls อยู่ไม้น้อย เพียงแต่จะเล่าออกมาได้กลมกล่อมกว่า ไม่ต้องยุ่งยากตีความอะไรให้วุ่นวาย แม้ว่าตัวพล็อตมันเหมือนกับหนังเกรดบีไปหน่อยก็ตาม แต่ด้วยการใส่จังหวะตื่นเต้น + การหักมุมที่คาดไม่ถึง ก็ทำให้เนื้อเรื่องของตัวเกมน่าสนใจระดับหนึ่งเลยล่ะ

รูปแบบการต่อสู้ที่ต้องหมั่นคอยศึกษาศัตรูและพลิกแพลงไปมา




ตัวเกมจะยังคงรูปแบบเกมเพลย์แบบสูตรสำเร็จของ Action RPG แบบวงจรลูปนรกวนเวียนตายเกิดหลายรอบ เพิ่มเติมคือเสริมความเป็น Shooting เดินหน้ายิงศัตรูเข้าไปด้วย เลยทำให้ระดับความยากของตัวเกมไม่โหดหินเท่ากับเกมซีรีส์ Dark Souls แต่ถึงกระนั้นเพื่อนๆ ก็ต้องคอยหมั่นศึกษารูปแบบการโจมตีและจุดอ่อนของศัตรูเอาไว้ด้วย เพราะถ้าโจมตีได้ถูกจุดล่ะก็ ช่วยสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว แถมยังลดโอกาสในการตายซ้ำซากเพื่อไม่ต้องมาเห็นหน้าจอที่ขึ้นคำว่า "You are dead." ด้วย



โดยตอนเริ่มต้นของตัวเกมจะแบ่งคลาสออกเป็น 3 คลาส ได้แก่ Scrapper (เน้นโจมตีระยะใกล้), Ex-Cultist (เน้นโจมตีระยะกลาง) และ Hunter (เน้นโจมตีระยะไกล) ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าในแต่ละคลาสจะใช้อาวุธและทักษะสกิลแตกต่างกันไป อีกทั้งศัตรูภายในเกมเองก็เช่นกัน แบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ โจมตีระยะประชิด, ซุ่มโจมตีระยะไกลด้วยปืน กับเปิดการโจมตีได้หลายรูปแบบอีกด้วย ถึงอย่างนั้นเราก็ซื้ออาวุธและชุดเกราะมาปรับเปลี่ยน / ใช้อะไรใหม่ๆ ด้วยการจ่าย Scrap (เงินในเกม) เพื่อซื้อของผ่านร้านค้าใน Ward 13



ยิ่งไปกว่านั้นเหล่าศัตรูบางตัวก็จะปล่อยท่าโจมตีที่ทำให้เราติดสถานะต่างๆ ตามมาด้วย อาทิ เลือดไหล, ไฟไหม้, ติดพิษ และอื่นอีกมากมาย การใช้ไอเทมเพื่อแก้สถานะดังกล่าวจึงเป็นที่ขาดไปเสียมิได้ ยังไม่รวมไปถึงไอเทมฟื้นฟูค่า HP หรือเติมกระสุนสำรองอีกด้วยนะคะ สามารถหาไอเทมเหล่านี้ได้จากการเก็บกล่องไม้ตามฉาก, ของดรอปจากศัตรู รวมไปถึงหาซื้อจากฐานทัพ Ward 13

ส่วนใครที่กังวลว่าค่า Stamina คอยฉุดรั้งจังหวะการต่อสู้ให้ฝืดลงหรือเปล่านั้น ไม่จำเป็นต้องกังวลแต่อย่างใด เพราะค่า Stamina ตอบสนองเพียงแค่การวิ่งและการกลิ้งหลบเท่านั้น พร้อมกับแผนที่ในแต่ละฉากเตรียมจุดเช็คพอยท์ด้วย Crystal (หินผลึกแดง) เมื่อแตะปุ๊บ ระบบจะทำการรีเซ็ตค่า HP, กระสุน และ Dragon Heart [ไอเทมพิเศษไว้ฟื้นฟูค่า HP เต็มหลอด] กลับมาเหมือนเดิมอีกครั้ง



แถมที่สำคัญเพื่อนๆ สามารถนำวัตถุดิบต่างๆ มาอัพเกรดอาวุธและชุดเกราะของเราให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีกขั้น การรวบรวมวัตถุดิบต่างๆ ทำได้แบบเดียวกับการสะสมไอเทมตามประโยคก่อนหน้าเลยล่ะคะ ตามมาด้วยระบบ Mod Weapon ติดตั้งทักษะพิเศษให้กับอาวุธนั้นๆ เอาไว้เสริมการโจมตีให้พลิกแพลงมากขึ้น ได้แก่ ยิงกระสุนเมล็ดพืชไว้ล่อศัตรูจู่โจม, สร้างความเสียหายเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าเพียงชั่วคราว, ฟื้นฟูค่า HP ทีละเล็กทีละน้อย, เสริมโบนัสการติด Critical หรืออื่นๆ อีกมากมาย เป็นต้น

โหมดออนไลน์แบบ Co-Op 3 คน กับความโหดยกกำลังคูณ 3




ถ้าหากเพื่อนๆ เห็นว่าลุยฝ่าดงศัตรูแค่คนเดียวมันยากเกินไปล่ะก็ ทีมผู้พัฒนาจึงเสนออีกทางเลือกหนึ่งให้เกมเมอร์ทุกคนสามารถผ่านกันได้ง่ายขึ้น (ละมั้ง) นั้นก็คือ "โหมดออนไลน์แบบ Co-Op" สามารถรองรับจำนวนผู้เล่นได้สูงสุดถึง 3 คน พร้อมกับเลือกได้ว่าจะร่วมเล่นกับผู้เล่นคนอื่นในเซิร์ฟ Public หรือว่าเล่นกันเฉพาะหมู่เพื่อนในเซิร์ฟ Friends Only พร้อมกับยกระดับความยาก & ระดับพลังโจมตีของศัตรูเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวอีกด้วย คงเห็นว่าไม่อย่างงั้นตัวเกมจะง่ายไปละมั้ง 555+

โดยการเล่นร่วมกัน 3 คน จะช่วยสร้างความเสียหายศัตรูได้มากยิ่งขึ้น, เพิ่มค่า Exp ไว้อัพเกรดตัวละครได้เร็วขึ้น และยิ่งไปกว่านั้นสามารถแชร์ไอเทมให้คนรอบข้างได้แบ่งปันกันใช้ [ยกเว้นกระสุนที่แชร์ไม่ได้] รวมไปถึงเสียสละ Dragon Heart เพื่อชุบชีวิตผู้เล่นคนอื่น แล้วอีกอย่างหนึ่ง มันมีระบบ Friendly Fire เข้ามาเสริมในโหมดออนไลน์แบบ Co-Op ดังนั้นเวลาเล็งอะไรก็ระวังไว้หน่อยล่ะ

การออกแบบแผนที่กึ่ง Open World กับประสิทธิภาพที่ลื่นไหล




อย่างที่ได้เคยกล่าวเอาไว้การออกแบบฉากภายในเกมจะเป็นแบบกึ่ง Open World หรือก็คือ มีการแบ่งฉากออกเป็นด่านๆ โดยตัดสลับฉากไปมา (ใครที่นึกภาพไม่ออกก็ให้นึกถึงเกมซีรีส์ Kingdom Heart) ซึ่งแต่ละฉากมีขนาดความกว้างใหญ่ในระดับหนึ่งพอสมควร จึงมีอะไรให้สำรวจตลอดเวลา เผลอๆ บางทีอาจเจอเส้นทางเชื่อมต่อ / ทางลัดเพื่อไปต่อได้เร็วขึ้นก็เป็นได้

ต่อมาเป็นเรื่องของการ Optimize ทำออกมาได้ดีกว่าคิด แทบไม่กินทรัพยากรเครื่องแม้แต่น้อย ถึงขนาดที่ว่าเครื่องของเราจะผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำมาก็ยังทำเฟรมเรทได้นิ่ง + มั่งคงเลยทีเดียว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเวลาเล่นโหมดออนไลน์แบบ Co-Op ที่เชื่อมต่อลื่นไหล แทบไม่มีอาการเกมแครช หรือเด้งออกหน้าจอเลย ส่วนคุณภาพกราฟิกที่ขับเคลื่อนด้วย Unreal Engine 4 ก็สวยงามตามมาตรฐาน สมกับเป็นเกมระดับ Next-Gen แม้พอมองใกล้ๆ แล้วงานแอบดูหยาบๆ ไปบ้างก็ตามนะคะ 

สรุปเลยนะจ๊ะ ตัวเกมเป็นกระแสที่มาแรงแบบปากต่อปากถึงขนาดนี้ ไม่เล่นเนี่ยถือว่าพลาดโอกาสมาร่วมสนุกไปมากๆ เลยล่ะ หากตัดข้อเสียตรงในส่วนของเนื้อเรื่องที่ดูเหมือนหนังเกรดบี และฉากคัทซีนที่ดูแข็งไปล่ะก็ Remnant: From the Ashes ถือเป็นการมอบประสบการณ์ตื่นเต้นระทึกขวัญ จนทำเอาอะดรีนาลีนของเพื่อนๆ พุ่งกระฉูดแบบไม่มียั้ง และยิ่งถ้าหากใครชื่นชอบเกมสไตล์ Dark Souls เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คงถูกโฉลกกับเกมนี้ได้ไม่ยาก ว่าแล้วก็อยากให้ภาคต่อมาเร็วๆ จังเลยแฮะ ตอนนี้วางจำหน่ายบน PlayStation 4, Xbox One และ PC [Steam]

คะแนน : 8.5/10 [Excellent Game]


สเปกคอมพิวเตอร์ขั้นต่ำที่ใช้ในการเล่นเกม

OS: Windows 7, Windows 8.1 และ Windows 10 เฉพาะ 64Bit. เท่านั้น
CPU: Intel Core i3-7350k 4.2 GHz. ขึ้นไป
RAM: 8GB. ขึ้นไป
HDD: ประมาณ 30GB. ขึ้นไป
Video: AMD Radeon RX 470 ขึ้นไป
DirectX: Version 11 compatible video card or equivalent
Network: Broadband Internet connection

สเปกคอมพิวเตอร์ขั้นแนะนำที่ใช้ในการเล่นเกม

OS: Windows 7, Windows 8.1 และ Windows 10 เฉพาะ 64Bit. เท่านั้น
CPU: Intel Core i5-4590 3.7 GHz. ขึ้นไป
RAM: 8GB. ขึ้่นไป 
HDD: ประมาณ 30GB. ขึ้นไป
Video: NVIDIA GeForce GTX 970 ขึ้นไป
DirectX: Version 11 compatible video card or equivalent 
Network: Broadband Internet connection


กำลังโหลด...