[Review] Just Cause 4 : การกลับมาสู่สงครามปลดปล่อยประเทศอีกครั้งของชายชื่อ Rico Rodriguez

Playulti 07 Dec 2018, 18:12:37
Review Games PC Online

ใครจะรู้ว่าแฟรนไชส์ระเบิดภูเขาเผากระท่อมของสายลับหน้าเข้มอย่าง Just Cause จะเดินทางมาถึงภาคที่ 4 แล้ว และในทุกครั้งตัวเกมก็เหมือนจะอัพเกรดความสนุกให้สูงขึ้นเรื่อยๆ Just Cause 4 เว้นช่วงจากภาค 3 มานานถึง 3 ปี และยังคงพัฒนาโดยทีมพัฒนา Avalanche Studios ผู้ให้กำเนิดเกมนี้มาตั้งแต่แรก ซึ่งตัวละครหลักอย่าง Rico Rodriguez ก็เติบโต และโหดระห่ำมากขึ้นในทุกๆภาค 

สำหรับคนที่ไม่รู้จัก Just Cause เป็นแฟรนไชส์เกมแอ็คชั่นบู๊ระเบิดภูเขาเผากระท่อม ที่เล่นแล้วนึกว่าไมเคิล เบย์มากำกับตัวเกม เรียกได้ว่าแตะนิดสะกิดหน่อยอะไรๆก็ระเบิดตู้มต้ามไปซะหมด แถมตัวเอกอย่าง Rico ก็ออกแนวคนอึดตายยาก เป็นเอกลักษณ์มาตลอดทุกภาค แต่สำหรับภาค 4 นี้ ดูเหมือนว่าเสียงจะแตกออกเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจน และตัวผู้เขียนที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของเกมนี้มาตลอด 3 ภาค ก็สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เปลี่ยนไปมากจาก 3 ภาคก่อนหน้าแบบสุดๆ และวันนี้เราจะพาทุกท่านเข้าสู่ Solis ประเทศจำลอง ฉากหลังของเกมภาคนี้กันครับ

เรื่องราวของ Just Cause 4

Solis คือฉากหลังของเกมภาคนี้ มันคือประเทศจำลองที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากประเทศแถบอเมริกาใต้ เรื่องราวขององค์กรลับ The Black Hand ที่กำลังนำพาเทคโนโลยีชีวภาพและอาวุธร้ายแรงเข้ามาจัดการปกครองประเทศ แน่นอนพี่ Rico พระเอกของเราที่ปลดแอกมาหลายประเทศก็ต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องนี้อย่างหลีกเลียงไม่ได้ เพราะการที่เขามาที่นี่ มันเกี่ยวข้องกับพ่อของเขาด้วย งานนี้ผู้เล่นต้องมาหาคำตอบกันเอาเองแล้วว่าจะจัดการกับ The Black Hand และตามหาเรื่องพ่อของตัวเอกยังไงครับ

เอนจิ้นเกมตัวใหม่สำหรับพัฒนาเกม Open World โดยเฉพาะ

ตัวเกมในภาคนี้ได้รับการพัฒนาโดย Engine ตัวใหม่ของทีมพัฒนา Avalanche นั่นคือ APEX Engine ซึ่งทำให้กราฟิกภายในเกมถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นอย่างมาก ซึ่งจากที่ลองมาก็พบว่ามันสวยงามขึ้นมากจริงๆ แต่บางฉาก บางพื้นที่ กลับขาดความนุ่มลึกและความละเอียดลงไปมาก อย่างเช่น กราฟิกน้ำ ที่ภาค 3 ทำออกมาได้สวยงามกว่าภาค 4 ก็ต้องดูกันไปว่าทีมพัฒนาจะสามารถอัพเกรดตัวเอนจิ้นนี้ให้ดีขึ้นในเกมต่อๆไปของพวกเขาได้หรือไม่ แต่ต่อให้ภาคก่อนๆจะทำกราฟฟิคบางอย่างได้ดีกว่าแต่โดยรวมแล้ว Just Cause 4 ก็มีภาพที่สวยงามน่าพอใจตามมาตรฐานเลยทีเดียว


พัฒนาการของ Grappling Hook

Grappling Hook เป็นอีกหนึ่งอาวุธเอกลักษณ์ที่อยู่คู่กับพระเอกและตัวเกมมาอย่างยาวนาน ซึ่งในภาคนี้มันถูกปรับให้มีลูกเล่นมากยิ่งขึ้นกว่าภาคก่อนๆเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบอลลูนที่ใช้ดึงคน และวัตถุให้ลอยขึ้นไปบนฟ้า ใช้ติดบูสเตอร์ดันสิ่งของ ใช้ลากของหนัก หรือแม้กระทั่งใช้โจมตีศัตรูก็สามารถทำได้ทั้งหมด และเงื่อนไขในการปลดล็อคภาคนี้ก็ทำได้ง่ายกว่าภาคก่อนมาก แต่มันอาจจะเป็นส่วนนึงที่ทำให้ตัวเกมถูกลดความสนุกลงไปเช่นกัน และการใช้ Grappling Hook ก็ง่ายแสนง่ายเพียงคลิกขวาเท่านั้น 

โดยในภาคนี้เราจะปลดล็อคเกียร์อัพเกรดของ Grappling Hook เพียงแค่ไปทำกิจกรรมในพื้นที่ เช่น ซิ่งรถผ่านวงแหวนด้วยความเร็วที่กำหนด กางวิงสูทร่อนผ่านวงแหวนบนอากาศ หรือขับรถขับราซิ่งแหลกกันไป โดยเมื่อทำเสร็จ 1 เขตเราจะได้ค่า EXP มาสะสม จากนั้นเมื่อเลเวลอัพ ก็จะปลดล็อคความสามารถของเกียร์นั้นๆได้ นั่นคือตัวเกมจะให้เราผจญภัยไปเรื่อยเพื่อปลดล็อคความสามารถของตัวละครไปเรื่อยๆนั่นเอง

โดยหลักๆแล้ว เราจะได้ใช้งานออปชั่น Grappling Hook อันหลากหลายได้แทบจะทุกครั้ง เพราะจะมีภารกิจที่เราได้ใช้งานแทบทุกพื้นที่ ทุกรูปแบบ เช่น ใช้สลิงบูสเตอร์ ใช้สร้างบอลลูน ดึงสิ่งของขึ้นไปบนอากาศ แล้วแต่ภารกิจจะมอบให้เราทำ แต่พอทำแบบนี้ก็เท่ากับว่าลูกเล่นของ Grappling Hook จะถูกกำหนดโดยบทของเกม ทำให้เราไม่ค่อยมีอิสระในการใช้งาน หรืออาจจะเลือกที่จะไม่ใช้เลย 


ความเป็น Just Cause ที่หายไป

แต่ก่อนนั้น Just Cause จะมีพื้นที่ฐานทัพของศัตรู โดยเงื่อนไขการเคลียร์ฐานทัพก็คือการถล่มทำลายทุกสิ่งอย่างให้ราบคาบ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์มาตลอดทั้ง 3 ภาค แต่ภาคนี้มันกลับตัดเอาการทำลายทุกอย่างออกไป และให้ทำเพียงภารกิจเล็กน้อยเท่านั้น เช่น ทำลายแหล่งจ่ายพลังงาน ขโมยของ เก็บกู้ระเบิด เพียงเท่านั้นก็เคลียร์ฐานศัตรูได้แล้ว ตรงจุดนี้ทำให้ความสนุกของ Just Cause หายไปค่อนข้างมากจริงๆ เพราะจากที่บู๊ยับได้ กลายเป็นทำภารกิจนิดๆหน่อยๆก็จบได้แล้ว ใครที่เป็นแฟนๆ Just Cause มา คงหงุดหงิดใจไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ส่วนการปลดล็อคอาวุธในภาคก่อนๆ ก็จะค่อยๆปลดล็อคไปตามเนื้อเรื่องและการทำลายฐานทัพตามสเต็ปเดิม



ยานพาหนะกลับมาสำคัญอีกครั้ง

หลังจากในภาคที่ 3 ด้วย DLC Wingsuit ที่ทำให้เราติดเจ็ทแพ็คบินได้ ทำให้ตัวยานพาหนะแทบไม่มีประโยชน์นอกจากเฮลิคอปเตอร์เอาไว้ยิงถล่มฐานศัตรู แต่ภาคนี้ เพราะ Wingsuit ของเราไม่ติดบูสเตอร์อีกแล้ว แต่รถยนต์และยานพาหนะกลับสร้างความเร็วได้เป็นอย่างดี เลยทำให้ตัวรถยนต์และยานพาหนะกลับมามีความสำคัญอีกครั้ง แต่ด้วยความที่แผนที่มีขนาดใหญ่มาก การขับรถจากจุดนึงไปอีกจุดนึงก็ค่อนข้างเสียเวลาเอาเรื่อง หลายคนที่เสพติดการบินด้วยวิงสูทมาจากภาคก่อนหน้าอาจจะขัดใจอยู่บ้าง ที่ต้องใช้รถแทนทั้งๆที่เคยอิสระกว่านี้


สรุปโดยรวม

Just Cause 4 ถือเป็นภาคต่อที่พัฒนาการในด้านของกราฟิก เพราะเป็นการเปิดตัว APEX Engine เอนจิ้นตัวใหม่ ที่เปิดตัวได้ในระดับกลาง ยังไม่ถึงกับหวือหวาน่าประทับใจ แต่ตัวเกมก็ส่งประสิทธิภาพการแสดงผลกราฟิกออกมาได้ดี แต่ก็ยังมีบางส่วนที่สมควรได้รับการปรับปรุงแก้ไขอย่างจริงจัง ในส่วนของเกมเพลย์ ใครที่เป็นแฟนเกม Just Cause ก็อาจจะต้องคิดถึงภาคก่อนๆหน่อย เพราะระบบของเกมที่เป็นเอกลักษณ์ของ Just Cause ภาคก่อนหน้า โดนเอาออกไปซะเหี้ยน แต่แทนที่ด้วยระบบใหม่ๆเข้ามาแทน แฟนเกมก็อาจจะต้องปรับตัวกันไปครับ และสำหรับราคาเกมที่ค่อนข้างจะสูง ถ้าไม่ใช่แฟนเกมนี้ก็อาจจะต้องรอลดราคา แต่ถ้าใครเป็นแฟนบอยเกมนี้ จัดไปครับ ยังไงก็คุ้มแน่นอน! 

และสำหรับผู้ที่สั่งซื้อตัวเกมบน Steam ตอนนี้ก็รับฟรีกันไปเลย Deathstalker Scorpion Pack เป็นยานพาหนะแบบพิเศษ พร้อมด้วย Steam Exclusive Wallpaper ครับ ใครอยากเท่ อยากมีพาหนะไว้ใช้งานช่วงต้นเกมก็อย่าพลาดเชียว แถมให้ฟรีๆ ไม่ต้องเสียเงินซื้อเพิ่มนะ!

นอกจากนั้นผู้ที่ซื้อตัวเกมตั้งแต่ก่อนวันแรกที่ขาย หรือที่เรียกกันติดปากว่า Day One ยังจะได้รับของแถมสุดพิเศษเป็นแพคเกจ Neon สุดเท่ ซึ่งประกอบไปด้วย
  • Neon Racer Supercar
  • Neon Racer Winsuit
  • Neon Racer Parachute


และผู้ที่ซื้อตัวเกมแบบ Gold Edition ก็รับไอเทมล่วงหน้าจัดหนักจัดเต็มกันไปเลย ประกอบไปด้วย
  • Expansion Pass รับเนื้อหาอัพเดทเพิ่มเติมในอนาคตกันแบบฟรีๆ
  • HBlack Hand Weaponized Wingsuit ลายวิงสูทพิเศษสุดเท่จากองค์กร Black Hand
  • Black Hand Stealh Micro Jet เครื่องบินเจ็ทล่องหนที่จะทำให้คุณเป็นต่อในสมรภูมิรบ
  • Golden Gear Shotgun ปืนลูกซองสีทองสุดเท่
  • Golden Gear Wingsuit & Parachute ร่มชูชีพและวิงสูทสีทอง 


ผู้เล่นสามารถเลือกซื้อเกม Just Cause 4 บนเครื่องเกมที่ผู้เล่นต้องการได้โดยแบ่งเป็น PC และ Playstation 4 
สำหรับ PC Standard Edition จะอยู่ที่ 1,989 บาท ตัว Gold Edition ที่ 2,989 บาท และบน Playstation 4 ตัว Standard Edition จะอยู่ที่ 1,990 บาท และ Gold Edition ที่ 2,990 บาท ใครสนใจ หรือสะดวกเวอร์ชั่นไหนก็จัดไปได้เลยจ้า
**หมายเหตุ : ราคาแผ่นเกม กับแบบ Digital Download อาจจะไม่ตรงกัน ขึ้นอยู่กับร้านค้า และช่องทางที่ผู้เล่นเลือกซื้อครับ






กำลังโหลด...