[Review] LG Gaming Monitor 34UC79G เกมมิ่งมอนิเตอร์ระดับพรีเมียมที่อัดแน่นด้วยฟังก์ชั่นคุณภาพ

Playulti 14 Nov 2018, 13:49:59
ข่าวเกม PC

สำหรับเกมเมอร์ทั้งหลาย บางคนแค่ประกอบเครื่องสำหรับไว้เล่นเกมแบบจัดเต็มแล้ว สิ่งของที่จำเป็นรองลงมาอาจจะเป็นเกมมิ่งเกียร์จำพวกหูฟัง คีย์บอร์ด เมาส์ แต่อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสายเกมเมอร์จริงๆนั่นคือ Monitor หรือจอภาพนั่นเองครับ อย่างที่เรารู้กัน มาตรฐานในการเล่นเกมสมัยนี้ส่วนมากจะเซ็ตไว้ที่ Resolution 1920x1080 หรือ Full HD แต่ในยุคที่เทคโนโลยีทั้งเกม และอุปกรณ์ก้าวไปไกล ผมเชื่อว่าความฝันของเกมเมอร์หลายคนคงอยากจะเข้าไปอยู่ในโลกเสมือนจริงของเกมให้มากที่สุดเพื่อจะได้อรรถรสแบบจัดเต็ม ยิ่งถ้าภาพสวยๆด้วยจอดีๆ การ์ดจอเทพๆแล้ว การเล่นเกมจะเป็นสิ่งที่น่าอภิรมณ์ที่สุดในโลกเลย วันนี้ผมจึงอยากแนะนำมอนิเตอร์เกมมิ่งดีๆ สักตัวที่ตอนนี้ผมกำลังปลื้มปริ่มกับเจ้าตัวนี้มากๆ นั่นคือ จอ LG Gaming Monitor รุ่น 34UC79G โดยคอนเซปต์ของจอนี้เขาเคลมมาเลยว่า เป็นเกมมิ่งมอนิเตอร์ระดับพรีเมี่ยม ฟังก์ชั่นแน่น สมราคา!
สเปคเบื้องต้นของ LG Gaming Monitor 34UC79G
  • ขนาดจอ 34 นิ้ว สัดส่วน 21:9 และเป็นจอ Curved (โค้ง) แบบ UltraWide จอแสดงผลแบบ IPS Display และได้ความละเอียดสูงสุดที่ 2560x1080 Resolution 
  • อัตราการรีเฟรชภาพ 144Hz 
  • เทคโนโลยี 1ms Motion Blur สำหรับการตอบสนองภาพที่รวดเร็วใน 1 มิลลิวินาที ช่วยแสดงภาพเคลื่อนไหวอย่างคมชัด
  • จอแบบ Cinema Screen
  • พอร์ทการเชื่อมต่อแบบ 1.2 1 ช่อง , HDMI 2.0 2 ช่อง , สำหรับเสียบหูฟัง และอุปกรณ์เชื่อมต่อเสียง
  • พอร์ท USB 3.0 ด้านบน 1 ช่อง และด้านล่าง 2 ช่อง พร้อมฟังก์ชั่น Quick Charge
  • ฟีเจอร์ Crosshair ช่วยปรับการเล็งเป้าให้อยู่ที่จุดตรงกลางของจอ สำหรับผู้เล่นเกมประเภท FPS !
อ่านสเปคเบื้องต้นกันแล้วก็คงต้องร้องว้าวกันหลายข้อโดยเฉพาะ 1ms Motion Blur และฟีเจอร์ Crosshair ครับ นอกจากสเปคพื้นฐานเหล่านี้ข้อดีของจอนี้ก็คือสามารถเอียง ปรับความสูงจากขาจอ เพื่อความสะดวกสบายในการติดตั้งของผู้ใช้งาน และยังมีที่เก็บสายเมาส์ให้อยู่ในตำแหน่งที่ไม่เกะกะ ให้คุณจัดสรรพื้นที่ได้ตามต้องการอีกด้วย

จอสำหรับการเล่นเกมอย่างแท้จริง

LG Gaming Monitor ตัวนี้การันตีว่าเหมาะกับการเล่นเกมในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น FPS , Action , RTS หรือเกมอื่นๆ แต่อย่างแรกเลยคือเราต้องปรับ Aspect Ratio (สัดส่วนจอ) ให้เป็นแบบ 21:9 ก่อนนะครับ ซึ่งส่วนมากเกมยุคปัจจุบันจะมีการตั้งค่าที่รองรับความละเอียดจอระดับนี้อยู่แล้ว เพราะถ้าไม่ปรับก่อน ถึงแม้เราจะปรับ Resolution เกมขึ้นไปจนสุด แต่เกมก็ยังจะแสดงขอบดำด้านซ้ายขวาอยู่ เพราะเราไม่ได้ปรับสัดส่วนจอนั่นเอง

โดยส่วนตัวผู้เขียนได้เล่นเกม Overwatch , Call of Duty: Black Ops 4 ก็พบว่าตัวมอนิเตอร์สามารถแสดงภาพได้อย่างลื่นไหล รวมไปถึงสีสันที่สวยงาม และดูสดยิ่งกว่าจอปกติมาก และที่สำคัญเทคโนโลยีอย่าง 1ms Motion Blur อันนี้คือทีเด็ดอีกหนึ่งฟังก์ชั่นของจอนี้ครับ ใน 1 มิลลิวินาที ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกประมวลผลออกมาด้วยความคมชัดที่มากกว่าปกติ จนบางอย่างอาจมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ตรงนี้ต้องบอกก่อนว่าผู้ใช้งานบางคนอาจจะสังเกตไม่ได้นะครับ แต่บางคนอาจจะสังเกตได้ ขึ้นอยู่กับสายตาผู้ใช้งาน แต่สำหรับผมแล้ว มันค่อนข้างจะให้ภาพที่คมชัดกว่า และมองเห็นรายละเอียดอะไรได้ดีกว่ามากจริงๆ

ที่เจ๋งสุดๆสำหรับคอเกม FPS นั้นคือฟังก์ชั่น Crosshair ที่จะมีสัญลักษณ์ "เป้าเล็ง" ขึ้นมากลางหน้าจอ สำหรับฟังก์ชั่นนี้ หากเล่นเกมที่มีเป้ายิงตามปกติอาจจะช่วยอะไรได้ไม่มาก แต่ถ้าเล่นเกมที่มีการปิด Crosshair จากผู้เล่นเอง อันนี้จอนี้จะมีประโยชน์สุดๆครับ เอาเกมที่เห็นประโยชน์ได้ชัดมากๆเลยน่าจะเป็น PUBG ครับ อย่างที่ทราบกันว่าใน PUBG หากยิงแบบไม่ติดศูนย์เล็งจะไม่มี Crosshair ช่วยเหลือในการยิง แต่เพราะฟังก์ชั่นพิเศษของจอตัวนี้จะสามารถทำให้การยิงแบบไม่เข้าศูนย์เล็ง (หรือเรียกง่ายๆว่ายิงสด) นั้นทำได้ดีขึ้น เดาทิศทางกระสุนได้มากขึ้น ที่เหลือก็แค่อาศัยเทคนิค ฝีมือของผู้เล่นในการควบคุมปืนละนะ

ประสบการณ์การเล่นเกมแบบเต็มตา

ใครที่ชอบการเล่นเกมแบบจอใหญ่ สะใจ เต็มตา จอนี้ก็ตอบโจทย์แบบสมราคาครับ แม้ว่าคุณอาจจะไม่ได้เล่นเกมแนว FPS แต่เกมอื่นเจ้ามอนิเตอร์ตัวนี้ก็ทำหน้าที่ได้ดีเช่นกัน ผมได้ลองเอาไปเล่นกับเกมแนวเอาชีวิตรอดยอดฮิตอย่าง SCUM และเกมแนว Co-op Multiplayer อย่าง Overkill's The Walking Dead ล้วนตอบโจทย์การเล่นเกมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อย่างเช่น SCUM ด้วยความกว้างของจอทำให้เรามองเห็นทัศนียภาพภายในเกมได้อย่างเต็มที่ อาจจะมีประโยชน์ในการมองหาซอมบี้ ศัตรูผู้เล่นอื่น หรือสัตว์ รวมไปถึงการแสดงความคมชัดของภาพในเกมที่ทำออกมาได้สวยงามอย่างไร้ที่ติ เพราะภาพในเกมเป็นป่าเขา เน้นธรรมชาติอยู่แล้ว

ภาพแคปเจอร์จากในเกม สังเกตว่ามีความกว้างสูงมาก (SCUM)


ภาพจากเกม Overkill's: The Walking Dead


ภาพจากเกม Tom Clancy's Rainbow Six: Siege

ตั้งค่าได้ง่ายในปุ่มเดียว
หลายคนเห็นจอขนาดนี้อาจจะกลัวกับการตั้งค่าสุดปวดหัวหรือเปล่า? ต้องบอกว่าไม่เลยครับ ในครั้งแรกคุณอาจจะงงกับการกดปุ่มผิด เลื่อนไปออปชั่นโน้นนี่ แต่ถ้าคุณตั้งใจศึกษาสัก 15 นาที คุณก็จะพบว่าการตั้งค่านั้นมันง่ายและมีประโยชน์มากๆ เพียงปุ่มเดียวที่อยู่ใต้จอก็แทบจะปรับได้ทุกอย่างแล้วทั้งโหมดสี การแสดงผล โหมดการใช้งานเกมในรูปแบบการแสดงผลต่างๆ ใช้เวลานิดหน่อย ปุ่มเดียวเอาอยู่ครับ ไม่ต้องเยอะ

เมนูแยกสำหรับการตั้งค่าด้านการเล่นเกมโดยเฉพาะ


LG Gaming Monitor ตัวนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเอาใจคอเกมโดยเฉพาะครับ ในการตั้งค่าของหน้าจอ จะมี Setting Menu สำหรับการเล่นเกมแยกมาให้เป็นพิเศษเลย โดยแบ่งออกเป็น 5 หัวข้อคือ
  • Game Mode แบ่งย่อยออกเป็น FPS1 , FPS2 , RTS และ Custom สำหรับ 3 ตัวแรกจะเป็นพรีเซทแบบออโต้ที่จอตั้งค่ามาให้โดยอัตโนมัติ ส่วนแบบ Custom จะเป็นแบบที่เราสามารถตั้งค่าเองได้ ซึ่งต้องไปตั้งแยกอีกที เอาแบบตามใจเราเลย
  • Black Stabilizer สำหรับเพิ่มความสว่างให้กับมุมมืดของเกม มันไม่ใช่การเร่งแสงสว่างของหน้าจอทั้งหมด แต่เกมไหนที่มีมุมมืด การตั้งค่าตรงส่วนนี้จะช่วยได้มาก เวลาที่เราเล่นเกมประเภท FPS แล้วเจอศัตรูอยู่ในมุมมืดของเกม
  • Free Sync สำหรับรีเฟรชภาพแบบไดนามิก
  • 1ms Motion Blur Reduction สำหรับเปิดปิดฟังก์ชั่นนี้ ตามที่ได้อธิบายไปแล้วในด้านบน
  • Response Time หรืออัตราการตอบสนองของหน้าจอที่เราเลือกได้ว่าจะให้มันช้า ปานกลาง หรือเร็ว ก็แล้วแต่ว่า ในเวลานั้นเราต้องการใช้จอของเราเล่นเกมประเภทไหน ทำอะไร เพราะฟังก์ชั่นนี้หากปรับได้ถูกต้อง มันจะเพิ่มความคมชัดให้กับภาพที่แสดงผลเข้าไปอีก ไม่เบลอ ไม่แตก ไม่สั่น

ฟีเจอร์ Crosshair ประสบการณ์การเล่นเกม FPS ที่เหนือชั้น


นี่คืออีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ตอกย้ำว่าเกมมิ่งมอนิเตอร์ตัวนี้ถูกออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมอย่างแท้จริง กับฟีเจอร์ Crosshair หรือ เป้าเล็ง ที่ติดมากับมอนิเตอร์เกมมิ่งตัวนี้ครับ โดยฟีเจอร์ตัวนี้ทำได้ง่ายมากด้วยการตั้งค่าใช้งานจากปุ่มของตัวจอ แถมยังมี Crosshair ให้เลือก 4 แบบ 2 สีด้วยกัน ถ้าถามว่ามันมีประโยชน์ยังไงล่ะก็ จะอธิบายให้ทราบกันดังนี้ เกมบางเกมนั้น ในการเล่นมุมมองแบบ FPS (มุมมองบุคคลที่หนึ่ง) บางเกมจะไม่มีเป้าช่วยเล็งยิงให้เรา ยกตัวอย่างชัดๆเลยก็คือเกมอย่าง PUBG การยิงแบบไม่เข้าศูนย์เล็งหรือยิงสด ด้วยความที่เป้ายิงจะมีเพียงขีด 4 ขีดตรงกลางจอเท่านั้น ทำให้เรากะทิศทางการยิงลำบากมากหากยิงแบบยิงสด

แต่เจ้าจอตัวนี้มาพร้อมกับฟังก์ชั่น Crosshair ซึ่งจะเพิ่มเป้าช่วยยิงตรงกลางขึ้นมาบนหน้าจอ แม้มันจะช่วยได้ไม่มาก แต่ต้องยอมรับว่ามันทำให้เราเดาทิศทางกระสุนได้ชัดเจนและง่ายมากกว่าไม่มี และจากการทดลองยิงจริงๆก็พบว่ามันค่อนข้างจะใช้งานได้ดีเลยทีเดียว เอาเป็นว่าถ้าคุณใช้จอนี้แล้วยิงสด แบบไม่เข้าศูนย์เล็ง คุณก็น่าจะได้เปรียบมากกว่าคนทั่วไปแล้วล่ะ 


เหมาะกับสายจริงจังหรืออีสปอร์ตหรือไม่ ?

แน่นอนในยุคที่อีสปอร์ตกำลังมาแรงแบบนี้ เกมมิ่งมอนิเตอร์เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญหากจะมีการเลือกซื้อหรือเลือกใช้ แล้วจอรุ่นนี้ตอบสนองความต้องการด้านการแข่งขันอีสปอร์ตหรือไม่ ? คำตอบคือ ก็สามารถตอบโจทย์ได้แต่แค่บางเกมครับ นั่นคือจอตัวนี้เหมาะสำหรับเกมแนว MOBA , RTS มากๆ เพราะด้วยความกว้างและใหญ่ของมันทำให้มองเห็นสถานการณ์ในเกมได้ชัดเจนและพร้อมรับมือได้มากขึ้น แต่ถ้าเป็นเกมแนว FPS อาจจะขึ้นอยู่กับตัวบุคคลเสียหน่อย เพราะด้วยความกว้างของมัน หลายคนอาจจะกวาดตามองทั้งหมดได้ไม่ทัน โดยเฉพาะเกม FPS ที่ใช้เวลาตัดสินกันเพียงพริบตา ถ้าเสียเวลากวาดตามองจอนิดนึงก็ชี้เป็นชี้ตายได้แล้ว ดังนั้นตอบได้ว่ามันเหมาะกับคนที่เน้นเล่นอีสปอร์ตครับ แต่ก็เป็นเพียงบางเกมเท่านั้นครับ

การใช้งานด้านอื่นๆ

และแน่นอนว่าเราไม่ได้ทดลองมาเพียงแค่การเล่นเกมเท่านั้น เพราะจอระดับนี้ย่อมสามารถทำงานอย่างอื่นได้อีก เพียงแต่อาจจะไม่ได้มีประสิทธิภาพโดดเด่นเทียบเท่าการเล่นเกม อย่างแรกเลยคือการชมภาพยนตร์ครับ เนื่องจากจอตัวนี้มีสัดส่วนจออยู่ที่ 21:9 ดังนั้นหากใช้ชมภาพยนตร์ผู้ใช้งานจะต้องชมภาพยนตร์ที่รองรับสัดส่วนภาพดังกล่าวได้ด้วย แต่เกมเมอร์ที่ส่วนมากคิดว่าน่าจะชมกันผ่าน Netflix ก็คงต้องทำใจที่มันเป็นสัดส่วนปกติ ทำให้ขอบซ้ายขวาของภาพยนตร์มีขอบดำ ดังนั้นหากจะรับชมภาพยนตร์ที่รองรับอัตราส่วน 21:9 ขึ้นไป ก็จะต้องเป็นแผ่นบลูเรย์เท่านั้น แต่ถ้าคุณไม่ซีเรียสอะไร ผมว่าความกว้างของจอก็ช่วยเพิ่มอรรถรสในการชมภาพยนต์ได้มากเลยนะ

ในส่วนของการทำงานทั่วไป ด้วยความที่ตัวจอมีขนาดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบยาว การแบ่งหน้าจอทำงานจึงเปรียบเสมือนกับคุณมีสองจอในจอเดียวกัน คุณอาจจะเปิดเบราเซอร์เว็บไซต์ และโปรแกรมอื่นๆใช้งานควบคู่กันไปได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ (อาการแลค กระตุกก็ขึ้นอยู่กับสเปคเครื่องคุณ) ดังนั้นนอกจากจะเหมาะกับคนที่ใช้เล่นเกมเป็นหลัก คนที่ต้องการการใช้งานแบบ Multitasking ก็ตอบโจทย์เช่นกันครับ ส่วนในเรื่องของราคาอยู่ที่ 23,990 บาท อ๊ะ! เดี๋ยวก่อน ถ้าใครเห็นตัวเลขแล้วอกสั่นขวัญหาย ขอให้มองไปที่ฟังก์ชั่นและอรรถรสที่เราจะได้รับนะครับ (โฟกัสเยอะๆจะได้ไม่ช็อค ฮ่าๆ) หากใครสนใจก็สามารถเข้าไปดูสินค้าได้ที่เว็บไซต์ของทางเจ้าของแบรนด์ได้เลย สำหรับวันนี้ลาแล้วลาก่อนเจอกันใหม่รีวิวหน้า ติดตามเป็นกำลังใจกันด้วยนะครับ






กำลังโหลด...