หลังจากที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน
E3 2017 ก็สร้างความฮือฮาให้กับเกมเมอร์สาวกน้องเอ็กซ์เป็นอย่างมาก ล่าสุดทาง
Microsoft ได้มีการเปิดให้สั่งจองเครื่อง
Xbox One X อย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว แถมยังประกาศอีกว่าใครที่สั่งจองเครื่องในล็อตแรกนี้จะได้รับรุ่นพิเศษที่มีชื่อว่า
“Project Scorpio Edition” โดยได้มีการออกแบบโลโก้ที่เขียนว่า Project Scorpio ติดตั้งบริเวณด้านหน้าของเครื่อง และ ตรงกลางของจอย Xbox One
ส่วนในเรื่องของราคาก็อยู่ที่ $499 หรือตีเป็นเงินไทยประมาณ 16,600 บาท ซึ่งทาง Microsoft ยังได้ปล่อยตัวอย่างโปรโมทเครื่องเกมรุ่นพิเศษนี้ รวมไปถึงแกะกล่อง Project Scorpio Edition โชว์อีกด้วย
นอกจากเครื่อง Xbox One X ที่มีการเปิดให้สั่งจองในตอนนี้แล้ว ก็ยังมีเครื่อง Xbox One S รุ่นน้องของซีรี่ย์นี้ที่เปิดให้สั่งจองด้วยเช่นกัน โดยมีรุ่น Bundle ที่มาพร้อมกับเกม “Middle-earth: Shadow of War” แบบ 500GB. สนนราคาอยู่ที่ $279 หรือตีเป็นเงินไทยประมาณ 9,300 บาท และ แบบ 1TB. สนนราคาอยู่ที่ $379 หรือตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 12,600 บาท โดยจะมีการเริ่มจัดส่งเครื่องตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายนเป็นต้นไป
สำหรับเครื่อง Xbox One X ทาง Microsoft ยืนยันว่ามันคือเครื่องเกมที่มีประสิทธิภาพที่สุดในยุคนี้ มันสามารถแสดงผลความละเอียด 4K ได้อย่างลื่นไหล และในอนาคตก็จะมีเกมรองรับเพียบ นอกจากนี้ยังสามารถใช้แผ่นเกมร่วมกับ Xbox One รุ่นก่อนหน้านี้ได้ทุกเกม พร้อมกับมีแผนที่จะอัพเดทให้บางเกมสามารถแสดงผลความละเอียด 4K และ HDR ได้ด้วย ซึ่งถ้านำไปเทียบกับเครื่อง Xbox One S จะรองรับเทคโนโลยี 4K และ HDR เฉพาะวีดีโอ และ แผ่น Blu-ray 4K เท่านั้น ไม่ได้รองรับในส่วนการแสดงผลของเกมแต่อย่างใด ถือว่าเครื่อง Xbox One X มาแก้ไขจุดบอดในส่วนนี้ได้ดี ใครที่สนใจเครื่องนี้ก็เก็บเงินรอกันได้เลยค่ะ
รายละเอียดสเปกเครื่อง Xbox One X มีดังต่อไปนี้ CPU: Eight Custom X86 Cores Clocked at 2.3 Ghz. ( เป็นของ AMD นะจ๊ะ ) GPU: Integrated AMD Graphics With 6 Teraflops of Performance HDD: 1TB. ขนาดของเครื่อง: 11.8 x 9.4 x2.4 โดยให้รายละเอียดเอาไว้ว่าตัวเครื่องมีขนาดเล็กที่สุดในตระกูล Xbox สี: เวลานี้มีแต่สีดำเท่านั้น!!! Optical Drive: รองรับแผ่น Blu-ray ที่มีความละเอียด 4K และ HDR ความสามารถอื่นๆ: รองรับความละเอียด 4K แท้ [True 4K], เพิ่มประสิทธิภาพของ Audio ให้ดียิ่งขึ้น, รองรับเทคโนโลยี HDR [High Dynamic Range] ที่จะไปช่วยปรับให้กราฟฟิคและรายละเอียดของเกมออกมาสมจริงมากยิ่งขึ้น และ ยังจะมีเกมที่รอบรับความละเอียด 4K ในอนาคตอีกเพียบ
