For Honor – Review by Grandekros
สวัสดีเพื่อนๆชาว Play Ultimate นะครับผม กระทู้นี้ผมจะมารีวิวเกมใหม่เอี่ยมจากค่าย Ubisoft นั่นก็คือเกม For Honor นั่นเอง เกมนี้เปิดตัวมาซักระยะนึงแล้ว บอกได้เลยว่าพอผู้เขียนเห็น Gameplay ก็คิดว่าทีมงาน Ubisoft จะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน (ช่วงนี้ค่ายนี้ขยันปล่อยเกมรัวๆเลย ทั้ง Watch_Dogs 2, GhostReacon:wildland) และหลังจากการรอคอยมาอย่างยาวนาน(เวอร์ไปไหม 5555) ในที่สุดเกมนี้ก็ได้เวลาวางจำหน่ายไปเรียบร้อยแล้วครับ ส่วนจะสนุกสมการรอยคอยไหม ขอเชิญเลื่อนลงมาอ่านรีวิวได้เลยครับ
For Honor - เกม Action/Fighting จากค่าย Ubisoft ที่มาในธีมของนักรบยุคโบราณจาก 3 เผ่าพันธุ์ คือ 1.นักรบเกราะเหล็กจากอังกฤษ, 2.นักรบไวกิ้ง และ 3.นักรบซามูไรสุดเท่จากญี่ปุ่น โดยผู้เล่นจะได้สวมบทเป็นนักรบจาก 3 เผ่าเข้าฟาดฟันกับศัตรู จุดเด่นของเกมนี้จะอยู่ที่ระบบต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์และความเท่ของนักรบคลาสต่างๆนั่นเองครับ
Gameplay,
เกมการเล่นของ For Honor นั้น ถ้าจะให้เปรียบเทียบให้เห็นภาพคงจะเป็น “เกม 3rd person Fighting” ครับ ถึงเกมเพลย์ในตอนแรกที่ผมเห็นจากตัวอย่างจะแอบคิดว่าจะเหมือนกับซีรีส์ Dynasty warrior หรือเปล่า แต่พอมาลองเล่นจริงก็พบว่าไม่เหมือนกันเลยครับและยังรู้สึกสนุกมากอีกด้วย
โดยระบบ Combat ของเกมนี้ เราจะสามารถยกการ์ดกันการโจมตีของศัตรูได้ 3 ทิศทาง (ขวา, ซ้าย และบน) และศัตรูก็ต้องเลือกโจมตีให้ไม่โดนการ์ดของเรา เกมออกแบบระบบการต่อสู้ได้ค่อนข้างดี มีทั้งระบบกระแทกการ์ดศัตรู และการต่อคอมโบของตัวละครต่างๆ ทำให้เวลาเล่นจริงคุณจะรู้สึกลื่นไหลมากๆ และสิ่งที่ต้องชมทีมงานอีกอย่างหนึ่งคือ การออกแบบตัวละคร Heroes แต่ละคนออกมาได้มีเอกลักษณ์มาก ทุกตัวละครมีจุดเด่นจุดด้วยที่แตกต่างกันออกไป เช่น คลาส Vanguard ที่มีจุดเด่นเรื่องระยะการโจมตีแต่ก็มีจุดด้อยที่การโจมตีจะช้ากว่าคลาสอื่นๆ,
Orochi class
Berserker class
ผู้เล่นใหม่สามารถทำความเข้าใจกับระบบต่อสู้ของเกมนี้ได้ในระยะเวลาไม่นาน แต่ก็มีความลึกครับ ถ้าคุณต้องการเล่น Heroes ตัวนึงให้เก่งนี่ก็จำเป็นที่จะต้องใช้เวลาศึกษา Move set และฝึกฝนพอสมควรเลยครับ
ตัวอย่าง Moveset ของ Class Kensei
ส่วนคนที่ชอบการแต่งตัวละคร เกมนี้ก็ทำระบบแต่งตัวละครได้ค่อนข้างละเอียดมากครับ เราสามารถปรับแต่งชุดเกราะ อาวุธและโล่ได้เกือบทั้งหมด ซี่งก็น่าจะถูกใจหลายๆคนแน่นอนครับ
สำหรับ Mode ต่างๆของเกมนี้จะแบ่งคร่าวๆได้ 2 แบบด้วยกันคือ
- Dominion – Mode ชูโรงที่ Developer นำมาโชว์ตอนเปิดตัวเกม โดย Mode นี้จะเป็นการจำลองสถานการณ์การบุกปราสาทให้เหมือนกับสงครามจริงๆ โดยเราจะต้องยึดพื้นที่เพื่อเอาชนะฝ่ายตรงข้าม
รูปตัวอย่างตอนเล่น Mode dominion
- Duel, หรือ Deathmatch mode ความแตกต่างของ Mode นี้กับ Mode ข้างบนคือ Mode นี้เราจะได้เล่นแต่กับ Player อย่างเดียว ทำให้คนที่รำคาญ Bot เยอะๆน่าจะชอบครับ
รูปตัวอย่าง Mode 4v4
Graphic-เสียง
กราฟฟิกของ For Honor ถือว่าทำออกมาได้สวยงามและไม่กินสเป็คของคอมพิวเตอร์มากเกินไปนักครับ โดย Spec ขั้นต่ำของเกมกำหนดไว้ที่การ์ดจอ Geforce GTX660 ขึ้นไป ซึ่งก็ถือว่าไม่สูงมากนัก และจากที่ผู้เขียนลองเล่นกับเพื่อนที่คอมสเป็คประมาณ 3-4 ปีที่แล้วปรับกราฟฟิกแบบต่ำสุดก็เล่นไหวครับ
ส่วนระบบเสียงก็ถือว่าทำออกมาได้ดี บทพูดของตัวละครเวลาที่ต่อสู้หรือออกท่าโจมตีก็ทำออกมาได้ดีครับ เวลาเล่นนี่ได้อารมณ์ร่วมมากๆเลย 5555
กราฟฟิกของเกมตอนปรับ Low-setting
กราฟฟิกของเกมตอนทดสอบแบบ Extreme setting
เขียนถึงข้อดีมาก็เยอะ แต่ถ้าไม่มีข้อเสียเลยก็ดูจะแปลกๆใช่ไหมครับ 555 แน่นอนครับเกมจากค่ายนี้ถ้าไม่มีปัญหาตอนเกมออกก็ดูจะไม่ใช่ Ubisoft นะ(แฟนๆ Ubisoft อย่ารุมกระทืบผมนะ 5555)
จุดที่ทำให้ความสนุกของเกมลดลงคงจะเป็นระบบหาห้องที่เอาแน่เอานอนไม่ได้นี่แหละ ไม่ว่าจะเกิดอาการที่เวลาเล่นๆไปแล้วมีคนหลุดออกเกมแล้วเกมจะค้างไปช่วงนึง หรือเวลาเล่นกับเพื่อนแล้วเพื่อนหลุดออกจากห้องไปตอนเกมจะเริ่ม อาจเพราะเกมนี้ใช้ระบบ Peer-to-peer (ระบบแบบที่เราจะไปจอย Host ของห้องแทนที่จะเป็นที่ Server หลัก) จึงทำให้การสร้างห้องและการเล่นเกิดอาการสะดุดบ่อยๆ ก็หวังว่า Ubisoft จะแก้ไขปัญหานี้ในเร็ววัน
อีกหนึ่งจุดที่อยากจะติซักหน่อยคือ Story mode ที่ไม่ค่อยจะน่าดึงดูดให้เล่นซักเท่าไหร่นักเนื้อเรื่องนี่ก็เป็นเส้นตรงทื่อๆไปนิด ถึงแม้ว่าจะมีรางวัลเป็นเงินในเกมและก็ชุดเกราะก็เถอะนะ แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าเกมมันเน้น Multiplayer เขาเลยไม่ค่อยได้ Focus กับ Mode นี้เท่าไหร่นัก
Summary
จุดดี
- ระบบ Combat ลื่นไหล ผู้เล่นใหม่เข้าใจได้ง่าย และมีความลึกถ้าอยากจะเล่นให้เก่ง จึงทำให้เป็นเกมที่เล่นแล้วติดมาก
- Heroes แต่ละคนถูกออกแบบมาอย่างดี และมีเอกลักษณ์จุดเด่นจุดด้อยแตกต่างกัน (ซามูไรเท่มากๆขอบอก 5555)
- ระบบ Customize ตัวละครที่ทำออกมาได้ละเอียด เราสามารถเลือกปรับแต่งอาวุธได้ตั้งแต่ใบดาบ โกร่งดาบ และด้ามจับเลยทีเดียว
จุดด้อย
- ระบบหาห้องที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ บางทีเล่นๆอยู่คนในห้องก็ค่อยๆหลุดซะงั้น ถ้าเจอ Host ที่เน็ตดีๆก็โชคดีไป
- ระบบ Faction war ที่ออกจะไร้จุดหมายไปซักหน่อย ถึงแม้ว่าจะกำหนดให้เมื่อจบ Round Faction ที่ได้ที่1จะได้รับรางวัลก็เถอะ แต่การที่เราแค่มากด Deploy war asset ได้แค่หลังจบ Match ก็ดูจะทำให้ผู้เล่นไม่ค่อยอินกับระบบนี้เท่าไรนัก
- ระบบ Gear stat ที่ไม่ค่อยจะ Fair กับผู้เล่นใหม่เท่าไรนัก เพราะคนที่เวล Gear สูงๆนี่เรียกได้สามารถปรับแต่งของให้ Stat โกงๆได้เลย (เช่น Damage เป็นหลอด หรือ เกจสกิลชาร์ไวติดสปีด), โชคยังดีที่ Mode Duel และ Brawl จะไม่มีการคิด Stat
ถึงแม้ For Honor จะเป็นเกมที่มีปัญหาเรื่องระบบ Connection อยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสนุกของเกมนี้ลดลงไปแต่อย่างใด ด้วยความสนุกของ Gameplay บวกด้วยระบบอื่นๆในเกมนี้และแผนของ Developer ที่จะทำ Heroes ออกมาอีกเรื่อยๆ ผมขอบอกได้เลยว่าใครที่กำลังหาเกมต่อสู้หรือเกม Action แนวย้อนยุคอยู่ล่ะก็ ผมแนะนำให้ลองเกมนี้ครับ หรืออาจรอการอัพเดทเรื่องการ Connection และการแก้บั๊กจาก Developer รับรองเลยว่า For Honor จะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน