เรียนรู้ประวัติศาสตร์ก่อนเล่น Ghost of Tsushima เกมแอ็คชั่นที่หลายคนรอคอย

Playulti 19 Jul 2018, 16:01:05
ข่าวเกม Console

ก็คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเกม Ghost Of Tsushima เป็นเกมที่หลายๆคนจับตามองตั้งแต่งาน E3 ที่ผ่านมา ด้วยการนำเสนอเกมออกมาได้ดูสมจริงผ่านการเล่าเรื่องในยุคญี่ปุ่นโบราณและหลายๆฉากในตัวอย่างที่แสดงออกมาให้ได้รับชมไม่ว่าจะเป็นในส่วนของกราฟฟิกเกมที่สวยงาม ระบบการต่อสู้ที่ดูสมจริง และที่สุดยอดกว่านั้นคือฉากดวลกันใต้ต้นไม้ในฤดูใบไม้ร่วง ยามแสงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า มันดู Epic มากๆ คือประมาณว่าอยากจะถอย PlayStation 4 มารอก่อนเกมออกเลยทีเดียวเชียว โอเค ก่อนจะออกทะเลไปไกล วันนี้เราจะมาพูดถึงในส่วนของประวัติศาสตร์ในยุคของเกมกันว่ามันเป็นมายังไง ทำไมมีทหารมองโกลอยู่ในญี่ปุ่น และทำไมทหารมองโกลพวกนั้นต้องไล่สังหารชาวบ้านตาดำๆกันแน่นะ

เราต้องเล่าเรื่องเริ่มจากไหนก่อนดีล่ะ อาจจะ ปี ค.ศ.1259 กุไลข่านจัดตั้งเมืองหลวงใหม่ที่ปักกิ่งได้สำเร็จ(ก็คือตีเมืองแตกแล้วยึดได้นั่นแหละ) และในปี 1266 กุบไลข่าน ได้ส่งคณะทูตไปเข้าเฝ้าโชกุน (ซึ่งในขณะนั้น เป็น เจ้าชาย Koreyasu แต่ อำนาจจริงๆอยู่ที่ตระกูลโฮโจ) ในฤดูไบไม้ร่วง พร้อมสั่งให้มามาเยือนมองโกล และได้กราบทูลเชิญให้ส่งเครื่องราชบรรณาการแก่ราชสำนัก เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่ออาณาจักรมองโกล (พูดง่ายๆก็คือ พี่ใหญ่นะน้องยอมพี่แต่โดยดี และส่งของที่ขอมาให้ด้วยนะ) แต่ทางญี่ปุ่นก็เงียบไป

ต่อมาในปี 1268 กุไลข่านได้ส่ง ทูตไปอีก1ชุด แต่ตอนนั้นญี่ปุ่นเอง ก็กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่ายอำนาจกัน ทางราชสำนักในตอนนั้นมีแต่ชื่อหาแต่ไรซึ่งอำนาจโดยสิ้นเชิง แต่อำนาจกลับไปอยู่ในมือของ บาคุฟุ หรือรัฐบาลทหารของญี่ปุ่นโดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ คามากุระ และผู้กุมอำนาจคือ โฮโจ โตคิมูเนะ ซึ่งเค้ายังไม่ยอมรับอำนาจของมองโกล และยังเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของ นักรบซามูไรของเขามากกว่า ก็เลยปฏิเสธข้อเสนอไป

ต่อมาอีกในปี 1272 ฤดุใบไม้ผลิ กุบไลข่านได้ส่งคณะทูตไปญี่ปุ่นเป็นรอบที่3 และในครั้งนี้ มีหัวหน้าคณะทูตคือ เจ้าเหลียงพี ซึ่งกุบไลข่านเลือกด้วยพระองค์เอง (ในเมื่อSRสองตัวก่อนใช้ไม่ได้ ก็เลยต้องส่งระดับSSRไปเลยว่างั้นเถอะ) และได้มาขึ้นฝั่งที่เมื่องท่า อิมาสุฝั่งตะวันออกของเกาะคิวชู ในเดือนตุลาคมและได้แจ้งความประสงค์จะเข้าเฝ้าโชกุน แต่ถูกปฏิเสธด้วยถ้อยคำดูหมิ่น อีกทั้งนักรบในเมืองยังทำท่าวางอำนาจใส่อีก แถมยังขับไล่ให้ออกไปด้วย

ในเดือนที่ 6 ปี 1273 เจ้าเหลียงพี ได้กลับถึงมองโกลและได้กราบบังคมทูลรายงานให้กุบไลข่านทราบ ถึงการไปเจริญสัมพันธไมตรี(?)กับญี่ปุ่น ซึ่งใน2-3เดือนก่อน หน้าที่ เจ้าเหลียงพี จะกลับมาถึง ทางกองทัพมองโกล ได้เข้ายึดเมืองเซี่ยงหยางของราชวงศ์ซ่ง ได้สำเร็จและ ได้ส่งกองทัพเล็กส่วนหนึ่งไปปราบปราบเกาหลีได้ในเวลาเดียวกัน แต่พอได้ฟังรายงานจากญี่ปุ่น กุบไลข่านก็ได้มีอาการหัวร้อนเกิดขึ้น พร้อมได้สั่งระดมพลบุกญี่ปุ่นในทันที

ในปี 1274 กองทัพเรือของมองโกล ออกเดินทาง โดยมีทหารมองโกล 15,000 นาย ทหารจีน 8,000 และทหารเกาหลีอีก 300 นาย เดินทางโดยเรือใหญ่ 300 ลำ และ เรือขนาดกลาง-เล็กอีก 500 ลำ(เรือที่ว่านี้จัดทำโดยเกาหลี) มุ่งสู่ญี่ปุ่น และได้ขึ้นฝั่งที่ เกาะ Tsushima และเกาะ Iki (เนื้อเรื่องของเกมน่าจะเริ่มขึ้นในราวๆเวลานี้) พอมองโกลมาถึงไม่พูดพร่ำทำเพลง อะไรทั้งนั้น เข้าฆ่าฟันทั้งเด็กและผู้หญิงไม่มีเหลือรอด แถมยังเอาผู็หญิงที่เป็นเชลย ไปแขวนไว้ข้างเรือเพื่อข่มขวัญ ข้าศึกอีกด้วย

ในวันที่ 19 พฤศจิกา ปี 1274 มองโกลขึ้นฝั่งด้านตะวันออกของเมือง ทากาฮาตะ บนเกาะ คิวชู ได้เจอกับ กองทัพใหญ่ของญี่ปุ่น ตั้งรับอยู่ แต่ทางญี่ปุ่นเองก็ต้องเจอกับ ยุทธวิธีของมองโกล ทั้งธนูอาบยาพิษ ระเบิดมือ ธนูระเบิด และอีกมากมายในการโจมตี และพอบุกเข้าประชิดได้ ยังเจอหอกและโล่ห์ ที่ตั้งรับอย่างแน่นหนา แต่ทางญี่ปุ่นยังเคยชินกับการต่อสู้แบบตะลุมบอนตัวต่อตัวอยู่ เลยทำให้แตกพ่ายไปอย่างง่ายดาย และถอยหนีไปส่วนในของเกาะ เพื่อรอกำลังเสริม 

ทางมองโกลหลังได้รับชัยชนะแล้ว ครั้นจะตั้งค่ายในแดนข้าศึกก็กลัวจะเจอการลอบโจมตี เลยพากองทัพขึ้นเรือไปพักผ่อน แต่ก่อนจะได้ถอนทัพก็เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นเมื่อมีพายุไต้ฝุ่นพัดขึ้นฝั่งอย่างรุนแรง จนกะลาสีต่างแจ้งให้บรรดาแม่ทัพว่าพวกเขาต้องรีบกลับไปยังเรือและนำออกไปสู่ทะเลเปิดจนกว่าพายุจะสงบ มิฉะนั้นเรือจะถูกพายุพัดไปชนโขดหินพังพินาศหมด บรรดาแม่ทัพมองโกลจึงยอมตกลงแม้จะไม่เต็มใจนัก จากนั้นก็ถอนกำลังออกจากเมืองท่า ฮากาตะทันที ในช่วงนี้ทางฝั่งญี่ปุ่นเห็นข้าศึกถอนกำลัง จึงรีบโจมตีอย่างหนัก และได้สังหารข้าศึกได้จำนวนถึง 13,000 นาย และที่เหลือก็ขึ้นเรือช้าไป จนเป็นเหตุให้เรือถูกพายุและคลื่นยักษ์ทำลายเป็นจำนวนมาก ที่เหลือกลับไปได้ก็เป็๋นเพียงจำนวนเพียงน้อยนิดเท่านั้น การศึกในครั้งนี้เป็นที่เจ็บปวดฝังใจชาวมองโกลไม่น้อย ทั้งนี้เพราะกองทัพพวกเขาไม่เคยเจอกับความพ่ายแพ้มาก่อนหน้านี้ กระนั้นก็มีคำอธิบายและปลอบใจพวกเขาว่า ที่แพ้ เพราะภัยธรรมชาติต่างหาก

ในปี 1275 กุบไลข่าน ได้ส่งคณะทูตที่นำโดย ชี่จุงและ โฮเวิ่นจู ไปญี่ปุ่นอีกครั้ง เพื่อบอกให้ยอมจำนนแต่โดยดี แต่โชกุนผู้นำญี่ปุ่นในขณะนั้น กลับทำการสังหารทูตมองโกลทั้งหมด พอกุบไลข่านได้ทราบข่าวจึงหัวร้อนหนักเป็นอย่างมาก ทำให้ในปี 1280 กุไลข่านจึงเตรียมทัพไปบุกญี่ปุ่นอีกครั้ง และครั้งนี้ สั่งให้นำเสบียงไปให้มากที่สุด เพื่อป้องการเหตุไม่คาดคิดที่จะเกิดขึ้น และจำนวนทหารที่นำไปในครั้งนี้มีมากกว่า 100,000 นาย มุ่งไปโจมตีเกาะ คิวชู เป็นที่แรก

ปี 1280 กองกำลังมองโกล ได้ขึ้นฝั่งใกล้เมืองมูนากาตะ ทางเหนือของกำแพงหินที่ญี่ปุ่นสร้างเป็นแนวยาวกั้นไว้ ทางมองโกลเห็นดังนั้น จึงยิงปืนใหญ่เข้าไปที่กำแพงหิน แต่ก็ไม่สามารถทำให้กำแพงพังลงได้ จึงได้ระดมยิงเข้าไปอย่างต่อเนื่องตลอดเดือนสิงหาคม แต่ก็ไม่เป็นผล และกองทัพญี่ปุ่นได้ต่อต้านการบุกของมองโกลทั้งทางเหนือและทางใต้โยอาศัยกำแพงหินเป็นแนวกั้น และลอบโจมตีค่ายมองโกลตอนกลางคืนทีเผลอตลอดเวลา 

จนในวันที่ 15 และ 16 สิงหาคม ได้เกิดวาตภัยครั้งใหญ่ จากพายุไต้ฝุ่นหมุนเคลื่อนเป็นรัศมีกว้างหลายกิโลเมตร เขาสู่ชายฝั่งเกาะคิวชูอย่างหนัก ทำให้เกิดคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ขึ้น ทหารมองโกลจึงพยายามลงเรือสู่ทะเลเปิด แต่ไม่ทันการณ์ ทำให้ทหารจำนวนมากเสียชีวิตจากการหนีน้ำที่ซัดเข้ามากว่า 140,000 นาย ที่เหลืออยู่บนชายหาดและริมฝั่งใกล้แนวรบก็ถูกสังหาร ไม่ก็ถูกจับเป็นเชลย พายุที่พัดเข้ามาครั้งนี้ ญี่ปุ่นให้ชื่อพายุว่า Kamikaze หรือลมเทพเจ้านั่นเอง ผลจากการทำสงครามในครั้งนี้ กุบไลข่าน จึงอยุดการทำสงครามกับญี่ปุ่นไว้แค่นี้ก่อน และไปทำการขยายอำนาจสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้แทน 

ก็จบกันไปแล้วนะครับ สำหรับประวัติศาสตร์ ในช่วงที่มองโกลบุกญี่ปุ่นที่จะเป็นธีมหลักของเกม Ghost Of Tsushima สำหรับเนื้อเรื่องในเกมอาจจะไม่ได้ตรงตามประวัติศาสตร์ไปทั้งหมด 100% หรืออาจจะเล่าเป็นในส่วนเจาะลึกเข้าไปในตัวละครเลยอันนี้ต้องรอตอนเกมออกวางจำหน่ายอีกที แต่เห็นชื่อเกมแล้วหลายคนอาจจะสงสัย ว่าทำไมชื่อ Ghost Of Tsushima ทำไมไม่ใช้ชื่อว่า Samurai Of Tsushima ล่ะทั้งๆที่ตัวเอกของเรื่องก็ไม่ได้เป็นผีสักหน่อย 

อันนี้จากที่ผู้เขียนเดาดู อาจจะเพราะว่า ในช่วงแรกของการเผชิญหน้ากับมองโกล นับรบญี่ปุ่นนั้นต้องการต่อสู้แบบตะลุมบอนตัวต่อตัว ตาต่อตาฟันต่อฟัน ไม่มีการลอบกัดซึ่งมันเป็นหลักในวิถีบูชิโดว่าการต่อสูกันต้องใสสะอาดและเป็นธรรม แต่มองโกลนั้น เชื่อมั่นในยุทธวิธีมากกว่าเชื่อในหลักการนั้น จึงทำให้เป็นฝ่ายมีชัยไปในครั้งแรก และพอมองโกลกลับไป ทางญี่ปุ่นเองก็เรียนรู้และปรับตัว โดยละทิ้งวิถีบูชิโดไปก่อน ละทิ้งความเป็นซามูไรไว้เบื้องหลังและใช้วิธีทางการทหารในการลอบโจมตีมากขึ้น จึงเป็นที่มาของชื่อ Ghost นั่นเอง สำหรับวันนี้ ขอจบไว้เพียงเท่านี้ก่อน หากเพื่อนๆชื่นชอบอยากให้ทำประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเกมไหนอีกก็สามารถทิ้งข้อความไว้ในคอมเม้นได้เลยจะได้มาเล่าสู่กันฟังใหม่ในครั้งหน้า สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน GG ครับทุกท่าน

กำลังโหลด...